POLITICS

นายกฯ ยันไม่มีทุจริตจัดซื้อเรือดำน้ำ เป็นการ เจรจาแบบ ‘จีทูจี’ ภายใต้การดูแลของรัฐบาลจีน

นายกรัฐมนตรียืนยันไม่มีทุจริตการทำสัญญาจัดซื้อเรือดำน้ำ เป็นการเจรจาแบบรัฐต่อรัฐระหว่างหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายและบริษัทผลิตยุทโธปกรณ์ภายใต้การดูแลของรัฐบาลจีน เดินหน้าปฏิรูปตำรวจต่อเนื่อง

วันนี้ (2 ก.ย. 64) เวลา 17.59 น. ณ ห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชั้น 2 อาคารรัฐสภา พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมชี้แจง ต่อสภาผู้แทนราษฎรในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้
 
1. กรณีการจัดซื้อเรือดำน้ำ ย้ำว่าการทำสัญญาเป็นการเจรจาแบบรัฐต่อรัฐ (G2G) ระหว่างหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายและหน่วยงานบริษัทที่ผลิตยุทโธปกรณ์ภายใต้การดูแลของรัฐบาลจีน จะไม่มีการทุจริตใด ๆ ทั้งสิ้นเนื่องจากรัฐบาลจีนเป็นผู้ทำข้อตกลงและการเจรจาต่าง ๆ ไม่มีการนำงบประมาณไปใช้ผ่านบุคคลใดบุคคลหนึ่ง รวมถึงการจ่ายภาษีเช่นกัน 
 
สำหรับงบประมาณการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ  เหล่าทัพสามารถเปลี่ยนแปลงขอบเขตงานตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยการขอเปลี่ยนแปลงขอบเขตงานหรือการใช้งบประมาณจะต้องขออนุมัติจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง  ซึ่งโครงการจัดซื้อจัดหายานยนต์ของกองทัพบกและสรรพาวุธ อาทิ M35 รถสี่ล้อ รถหกล้อ รถเกราะ สามารถชี้แจงตรวจสอบได้ตามกระบวนการ ยืนยันว่าไม่เคยมีการรับผลประโยชน์จากใคร
 
2. การปฏิรูปตำรวจ รัฐบาลดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่ดำเนินการและสำเร็จไปแล้ว เช่น การใช้เทคโนโลยีนำระบบเทคโนโลยีมาเพิ่มประสิทธิภาพการคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินประชาชน การป้องกันปราบปราม สืบสวนสอบสวนคดีที่เกิดขึ้น เช่น ใช้ระบบ Smart CCTV การใช้แอปพลิเคชันสำหรับงานสายตรวจและการตั้งจุดตรวจค้น (Police 4.0) และการใช้แอปพลิเคชันสำหรับงานจราจรในการตั้งจุดตรวจจราจร  (TPCC: Traffic Police Checkpoint Control) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559

รวมถึงนำระบบเทคโนโลยีมาเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการประชาชน เช่น การพัฒนาระบบสารสนเทศสถานีตำรวจและเชื่อมต่อระบบกับหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมและส่วนราชการอื่น ๆ การจัดทำระบบบันทึกประจำวัน (ปจว.) อิเล็กทรอนิกส์ สำหรับการรับแจ้งความในสถานีตำรวจ การเสนอขอหมายจับต่อศาลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ และสร้างความโปร่งใสให้ประชาชนเชื่อมั่น เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เช่น การเสริมเรื่องต่อต้านการทุจริตในหลักสูตรต่าง ๆ ยืนยันว่ามีการลงโทษด้วยการปลดจากราชการเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำผิดอย่างต่อเนื่อง
 
การปฏิรูปการบริหารองค์กรตำรวจ ได้แก่ 1) ด้านระบบตำแหน่งข้าราชการตำรวจ จัดเส้นทางการเจริญเติบโตและสร้างความชำนาญงานในสถานีตำรวจ 2) ด้านทรัพยากรบุคคล ปฏิรูปการผลิตและพัฒนาข้าราชการตำรวจ 3) ด้านระบบงานสอบสวนและการบังคับใช้กฎหมาย เพิ่มพนักงานสอบสวน จำนวน 1,300 นาย และผู้ช่วยพนักงานสอบสวน 3,500 นาย เพื่อให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจให้บริการประชาชนอย่างมีเพียงพอ และจัดทนายอาสาประจำสถานีตำรวจ ทั้งนี้ สิ่งที่รัฐบาลกำลังทำคือการปฏิรูปโดยแก้ไขกฎหมาย ได้แก่ 1) การปฏิรูปการบริหารงานบุคคลตำรวจ 2) ให้ความสำคัญกับสถานีตำรวจ 3) ให้มี “คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ” (ก.พ.ค.ตร.) 4) ให้มี คณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ (ก.ร.ตร.) และ 5) การให้ท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการจัดระบบบริหารราชการในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ขณะนี้ ร่างกฎหมายดังกล่าวอยู่ในชั้นการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. …. จากนั้นจะมีการจัดทำกฎหมายระดับรองให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ. ดังกล่าว และต้องมีการการปฏิรูปการบริการประชาชน สร้างความเข้มแข็งเชิงคุณธรรม จริยธรรม ให้แก่ข้าราชการตำรวจ เป็นการพัฒนาองค์กร บุคลากร และกระบวนการสืบสวนสอบสวน การดำเนินการตามกฎหมาย ตามขั้นตอนกระบวนการยุติธรรม คือ ตำรวจ อัยการ และศาล
 
3. การปราบปรามและบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด โดยการลด Demand เยาวชนต้องได้รับการดูแล เน้นการจับกุมการสกัดกั้นยาเสพติด ตั้งแต่เริ่มนโยบายมีการได้ดำเนินการยึดทรัพย์​ไปแล้ว 6,000 ล้านบาท อีกทั้งมีการปราบปราบตรวจสอบยาเสพติด เคมีภัณฑ์ รวมถึงเรื่องการป้องกัน ส่งเสริมพัฒนากองทุน บำบัดรักษากว่าแสนราย กระทรวงยุติธรรมได้มีการดำเนินการนอกจากผู้เสพ ผู้ขาย ยังสืบสวนไปถึงยึดทรัพย์นายทุนที่อยู่เบื้องหลังมากกว่าพันล้านบาท และจะทำลายต้นตอยาเสพติดให้ได้ เช่นเดียวกับการทำลายป่าไม้
 
4. การป้องกันชายแดน ช่วงสถานการณ์โควิด-19 นั้น ตามชายแดนต้องตั้งด่านตรวจสกัดในพื้นที่อื่น ๆ เพิ่มเติมจากกรณีปกติ ซึ่งจำเป็นต้องมีค่าใช้จ่าย เบี้ยเลี้ยงที่เพิ่มมากขึ้น ต้องมีเงินช่วยเหลือทหารที่ต้องเฝ้าพื้นที่ชายแดนมาตลอดหลายสิบปี เพื่อให้ประเทศมีความปลอดภัย ชายแดนไม่ถูกละเมิดประชาธิปไตย
 
5. ในส่วนของโรงพยาบาลสนามที่ยังมีจำนวนน้อยนั้น ได้มีการทยอยดำเนินการ เนื่องจากการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามจะต้องได้รับการยอมรับ มีการทำประชาพิจารณ์จากประชาชนในพื้นที่ด้วย จึงจำเป็นต้องใช้ระยะเวลา การทำงานเหล่านี้ไม่ใช่การทำงานได้โดยง่ายโดยเฉพาะในสถานการณ์โควิด-19
 
6. การจัดอันดับโลก Best Country 2021 Global Ranking International News & Inside ไทยอยู่อันดับที่ 28 จาก 78 ประเทศ หรืออันดับที่ 2 ในอาเซียน รองจากประเทศสิงคโปร์ และติดอันดับ Top 10 ของโลกในหลายด้าน ได้แก่ ความเป็นมิตร ด้านการท่องเที่ยว บรรยากาศที่ดี วัฒนธรรมอาหาร ภูมิศาสตร์ และความมีเอกลักษณ์
 
นายกรัฐมนตรี ยังฝากถึงการอภิปรายในรัฐสภา ขอความร่วมมือให้ระมัดระวัง ถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในการเจรจาต่าง ๆ ทั้งนี้ ยินดีที่จะชี้แจง และมอบหมายให้รัฐมนตรีที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนั้นมีส่วนในการชี้แจงเพิ่มเติมด้วย

Related Posts

Send this to a friend