‘พิธา-ชัยธวัช‘ แถลงปิดคดียุบพรรคก้าวไกลย้ำ 9 ข้อต่อสู้ ก่อนลุ้นคำตัดสิน 7 ส.ค.นี้

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล และนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงข่าว 9 ข้อต่อสู้ในเอกสารคำแถลงปิดคดีที่พรรคก้าวไกลส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะนัดอ่านคำวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกลในวันที่ 7 ส.ค.นี้ ท่ามกลางสื่อมวลชนและกองเชียร์ที่มาติดตามสถานการณ์เป็นจำนวนมาก
นายชัยธวัช ยืนยันว่าการยื่นคำร้องของ กกต.ในคดีนี้มิชอบด้วยกฎหมาย และศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจในการรับคำร้อง อีกทั้งการกระทำของ สส.ที่เป็นนายประกันให้ผู้ถูกกล่าวหาในคดีมาตรา 112 พรรคก้าวไกลไม่ได้เป็นผู้บงการ และแม้จะยุบพรรคก็ไม่มีอำนาจในการกำหนดระยะเวลาการเพิกถอนสิทธิรับสมัครเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรค
นายพิธา ระบุว่าพรรคก้าวไกลเห็นว่าการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นการนำประชาธิปไตยและสถาบันพระมหากษัตริย์มาดำรงอยู่คู่กัน จึงต้องมีการสร้างสมดุลให้ได้สัดส่วนเหมาะสมกับยุคสมัย เพื่อให้ระบอบมีความมั่นคงและยั่งยืน ส่วนกระแสการหาพรรคสำรองอย่างพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล พรรคยังไม่มีมติใด ๆ และ สส.ยังมีความเป็นปึกแผ่น โดยนายพิธา ไม่ขอก้าวล่วงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันที่ 7 ส.ค.นี้ ศาลรัฐธรรมนูญ กำหนดนัดแถลงด้วยวาจาและลงมติ ในเวลา 15.00 น. พรรคก้าวไกลนัดประชาชนมาร่วมรับฟังคำวินิจฉัยพร้อมกันที่อาคารอนาคตใหม่ (ที่ทำการพรรคก้าวไกล) ตั้งแต่เวลา 13.00 น. โดยในเวลา 13.30 น. นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า จะบรรยายเรื่องศาลรัฐธรรมนูญกับการยุบพรรคการเมือง โดยวันดังกล่าวจะมีกิจกรรมต่อเนื่องจนถึง 21.00 น.
และหากวันที่ 7 ส.ค.นี้ ศาลรัฐธรรมนูญมีคำตัดสินยุบพรรคก้าวไกล จะมีกรรมการบริหารพรรค 10 คนที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง ประกอบด้วย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์, นายชัยธวัช ตุลาธน, นางสาวณธีภัสร์กุล เศรษฐสิทธิ์, นายณกรณ์พงศ์ ศุภนิมิตรตระกูล, นายปดิพัทธ์ สันติภาดา, นายสมชาย ฝั่งชลจิตร, นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล, นางสาวเบญจา แสงจันทร์, นายอภิชาติ ศิริสุนทร และนายสุเทพ อู่อ้น