เลขาฯ ป.ป.ช. ประณามนอมินีชาวไทย-เจ้าหน้าที่รัฐ “ขายชาติ ขายแผ่นดิน“ เอื้อกลุ่มทุนต่างชาติถือครองที่ดิน
เลขาฯ ป.ป.ช. ประณามนอมินีชาวไทย และเจ้าหน้าที่รัฐ “พวกขายชาติ ขายแผ่นดิน“ เอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนต่างชาติ เข้ามาถือครองที่ดินในประเทศ ขอประชาชนอย่าเพิกเฉยต่อการทุจริตคอรัปชั่น
วันนี้ (2 พ.ค. 67) นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์ภายหลังจัดเสวนาเกี่ยวกับสถิติคดีทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ในงานสื่อมวลชนสัมพันธ์ ครั้งที่ 1 ประจำปี 2567 โดยกล่าวถึงอดีตข้าราชการในจังหวัดภูเก็ตที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการรับผลประโยชน์ในช่วงที่ผ่านมาว่า ต้องยอมรับว่า ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของผลประโยชน์เป็นหลัก เพราะไม่เช่นนั้นคงไม่มีใครกล้าออกมากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ หรือบิดเบือนข้อกฎหมาย เพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่เอกชนที่ต้องการครอบครองที่ดิน เพราะที่ดินภูเก็ตถือเป็นที่ดินทองคำ ซึ่งนับวันมูลค่าที่ดินยิ่งเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเป็นที่ดินในพื้นที่ท่องเที่ยว จึงมีการหายุทธวิธีทุกอย่างเพื่อที่จะได้ครอบครองที่ดิน แต่ต้องยอมรับว่ามันเป็นสิ่งในอดีตที่มีการใช้ดุลพินิจบิดเบือนข้อเท็จจริง เช่น การสวม ส.ค. 1 หรือมีการขยายเขตแนวพื้นที่ออกไปรุกล้ำพื้นที่ของอุทยานฯ หรือป่าไม้ของ ส.ป.ก. โดยมีเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานต่างๆ อาจจะรู้เห็นเป็นใจ หรือปล่อยประละเลย ก็จะต้องร่วมกันรับผิดชอบไป
ส่วนกรณีของกลุ่มทุนต่างชาติที่ครอบครองที่ดินั้น นายนิวัติไชย กล่าวว่า ส่วนใหญ่กลุ่มทุนต่างชาติจะมีนอมินีที่เป็นคนไทย และรู้เห็นกัน ซึ่งพวกที่รู้เห็นกัน คือพวกขายชาติ ขายแผ่นดิน เพราะผู้ที่ไปดำเนินการขอเอกสารสิทธิ์ มักจะพบว่ามีส่วนร่วมในฝ่ายสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐในการกระทำความผิด พร้อมฝากเตือนว่า ผลประโยชน์ของประเทศชาติ ไม่ใช่ให้เราเอาแผ่นดินไปขาย ไม่เช่นนั้น อีกหน่อยเราก็จะไม่มีแผ่นดินอยู่
นายนิวัติไชย กล่าวทิ้งท้ายว่า เราพยายามสร้างให้ประชาชนมีความเข้มแข็ง มีความไม่กลัวต่อการทุจริตคอรัปชั่นให้กล้าออกมา เพราะประชาชนยังกลัว หากเรายังเพิกเฉยอยู่อย่างนั้น ปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นก็จะไม่สามารถแก้ไขได้ ซึ่งสิ่งที่กระทบนั้นส่งผลต่อคนในพื้นที่ เราในฐานะคนในพื้นที่จะยอมเห็นให้จังหวัดของท่าน หรือที่อยู่อาศัยของท่านถูกรุกล้ำในสิทธิ์ที่ท่านควรพึงมีพึงได้หรือไม่ เป็นสิ่งที่จะต้องไปพิจารณา เพราะปัญหาปากท้องก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญ แต่ปัญหาทุจริตก็สำคัญไม่แพ้กัน