โฆษก ปชป. ยัน ‘เมธี อรุณ’ ร้องเพลงใน MV เช้าวันใหม่ ไม่ผิดระเบียบ กกต.

โฆษก ปชป. ยัน ‘เมธี อรุณ’ ร้องเพลงใน MV เช้าวันใหม่ ไม่ผิดระเบียบ กกต. ส่วน ถูกพาดพิง ส.ส. พรรคเก่าแก่เล่นไพ่ ในสภาฯ ยังไม่ทราบรายละเอียด แต่ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย

วันนี้ (2 มี.ค. 66) นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ชี้แจงกรณีที่ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. ออกมาระบุว่ามิวสิควิดีโอเพลงเช้าวันใหม่ ของพรรคประชาธิปัตย์สุ่มเสี่ยงต่อการขัดระเบียบ กกต. นั้น มองว่าเรื่องนี้มีที่มาที่ไป ภายหลังจากที่ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร หยุดพิจารณา พระราชกำหนดขยายระยะเวลาการประกาศใช้พระราชบัญญัติอุ้มหาย ฯ เพื่อรอให้ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยก่อน คาดว่านายสมชัย คงโกรธ จึงหยิบยกเรื่องมิวสิควิดีโอ เพลงเช้าวันใหม่ที่ขับร้องโดยนายเมธี อรุณ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.โดยอ้างถึงระเบียบกรรมการการเลือกตั้งข้อที่ 18 ที่ระบุว่าไม่ให้ศิลปิน ใช้อาชีพนักร้องมาเอื้อประโยชน์ทางการเมือง แต่ต้องไม่ลืมว่า นายเมธี ไม่ได้เป็นนักร้องเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ด้วย เพราะฉะนั้นการออกแคมเปญเพื่อประชาสัมพันธ์ในการหาเสียงรูปแบบใหม่ ด้วยการจัดทำมิวสิควิดีโอ รวบรวมเอาสมาชิกพรรคทุกรุ่น มาอยู่ในมิวสิควิดีโอชุดนี้ ก็เพื่อการประชาสัมพันธ์ ไม่ได้เข้าข่ายผิดกฎหมาย

ยืนยันว่าตนเองเป็นฝ่ายกฎหมายไม่ได้รู้สึกกังวล หากจะมีใครร้องเรียนก็พร้อมที่จะชี้แจง ยืนยันได้ว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง พรรคประชาธิปัตย์ก็เคยทำแบบนี้มาแล้ว แต่งเพลงขึ้นมา เพื่อเป็นเพลงประจำพรรค ไม่ได้มีประชาชนเข้ามาร่วมเป็นพันคน แต่เป็นการทำภายใน บันทึกภาพและเสียงเพื่อจะเผยแพร่ในโซเชียลมีเดียเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าขณะนี้ยังไม่มีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง ก็ไม่ได้กังวลว่าจะมีใครไปยื่นให้คณะกรรมการการเลือกตั้งตรวจสอบ เพราะสถานการณ์ทางการเมืองอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไป หากนายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภา เพราะจะมีข้อแตกต่างทางกฎหมายเพิ่มขึ้นอีกจำนวนมาก แต่ยืนยันว่าการทำมิวสิควิดีโอ ดังกล่าวถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ

ส่วนกรณีที่ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสภาองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นเรื่องร้องเรียนถึงนายชวน หลีกภัย ให้ตรวจสอบกรณีที่มี ส.ส. จากพรรคเก่าแก่ ตั้งวงเล่นการพนันกันในห้องพักที่อาคารรัฐสภา ยอมรับว่ายังไม่ทราบรายละเอียดเรื่องดังกล่าว เพราะตอนที่ นายศรีสุวรรณ ยื่นเรื่องตนเองได้ลาออกจาก เลขานุการประธานรัฐสภาแล้ว จึงยังไม่ได้ติดตามเรื่องดังกล่าว

แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับ ส.ส.คนใด หรือพรรคการเมืองไหน หรือแม้แต่พรรคประชาธิปัตย์ก็ตาม ก็ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย และข้อบังคับ ทุกอย่างมีกระบวนการ หากมีการพาดพิงพรรค ก็จะมีคณะทำงานคอยตรวจสอบ การกระทำความผิดต่างๆ อยู่แล้ว อีกทั้งกฎระเบียบของพรรคค่อนข้างรัดกุม รอบคอบ จึงไม่มีอะไรน่ากังวล จากตามที่ปรากฏเป็นข่าวพบว่ามีสองประเด็น คือเรื่องจริยธรรม ส.ส. และยังไม่มั่นใจว่า ส.ส.คนดังกล่าว ลาออกไปแล้วหรือไม่ อีกประเด็นหนึ่งคือ เป็นคดีอาญาปกติทุกอย่างมีกฎหมายบ้านเมือง ผิดก็ว่าไปตามผิด ถูกว่าไปตามถูก

ส่วนที่หลายคนมองว่านี่เป็นการดิสเครดิตทางการเมืองนั้น ส่วนตัวเชื่อว่าหากประชาชนได้เห็นการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์แล้ว พรรคประชาธิปัตย์ยึดมั่นในสิ่งที่ถูกต้องยึดมั่นในกฎหมายมาตลอด และศีลธรรมอันดีต่อสังคม ดังนั้นทุกอย่างจึงต้องว่าไปตามกระบวนการ ทางกฎหมาย