สภาฯ ล่มตั้งแต่ยังไม่เริ่มพิจารณากฎหมาย

ส.ส. โวยยุบสภาฯ ได้แล้ว เอาเวลาไปลงพื้นที่ช่วยประชาชนดีกว่า
การประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ (2 ก.พ. 66) มีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาภาษีอากร ที่เสนอโดยคณะรัฐมนตรี ซึ่งค้างจากการประชุมครั้งที่แล้ว โดยได้มีการแถลงหลักการและเหตุผลและสมาชิกอภิปรายแสดงความคิดเห็นเสร็จแล้ว แต่ในครั้งนั้น องค์ประชุมไม่ครบ จึงนำกลับมาลงมติในวันนี้ โดยก่อนลงมติได้มีการตรวจสอบองค์ประชุม ปรากฏว่า มีสมาชิกอยู่ในห้องประชุมไม่ครบจำนวน นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ ซึ่งทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุม จึงได้กดออดเรียกสมาชิกเข้ามาในห้องประชุม พร้อมบอกกับสมาชิกว่า แม้แต่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ยังมาร่วมเป็นองค์ประชุมด้วย
ในระหว่างนั้น นางสาวรังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ ขอให้ประธานฯ สรุปการลงมติ โดยไม่ต้องรอ เพราะ ส.ส.ที่มาประชุมก็มาตลอด แต่คนที่ไม่มายังไงก็ไม่มา และบอกว่าจะเปิดเผยรายชื่อคนที่ไม่มา ก็ยังไม่เห็นมีการเปิดเผย จึงขอเรียกร้องให้แฉไปให้ประชาชนได้เห็นว่า ส.ส. ที่รับปากกับประชาชนไม่มาประชุม ทำให้คนที่มาเสียเวลา ซึ่งบางพรรคก็หายไปทั้งพรรค ดังนั้น ไม่ควรรอ เพราะ ส.ส. ที่อยู่จะได้ลงพื้นที่ จะเป็นประโยชน์กับประชาชนมากกว่า
ด้าน นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า อยากให้ทบทวนว่า ตั้งแต่เป็น ส.ส. มา ไม่เคยมีบรรยากาศเช่นนี้ ซึ่งบรรยากาศที่เกิดขึ้น เป็นเพราะมีรัฐบาลชุ่ยๆ เพราะองค์ประชุมเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลไม่ใช่ฝ่ายค้าน ฝ่ายค้านไม่ได้เล่นเกมโดยเฉพาะเรื่องประมง ซึ่งเป็นเรื่องถัดไป เพราะเป็นนโยบายพรรคเพื่อไทย ดังนั้น รัฐบาลต้องลงมาควบคุมเสียง ส่วนเหตุการณ์ผู้แทนย้ายพรรคและเกิดการลาออก ทศวรรษนี้ถือว่าเยอะที่สุด หนักกว่าตลาดวัวตลาดควายเสียอีก
ด้านนายศุกชัย ขอให้ถอนคำพูดที่รุนแรงเกินไป เพราะ ส.ส. มีสิทธิที่จะลาออก จึงไม่ควรเปรียบเทียบ ทำให้นายครูมานิตย์ บอกว่า ยินดีถอนคำพูด แต่ในอดีตไม่เคยเห็นบรรยากาศเหล่านี้ แต่วันนี้ไปกันเยอะทำให้องค์ประชุมน้อยลงตามลำดับ ถ้าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิดหากรัฐบาลควบคุมสถานการณ์ของฝ่ายบริหารไม่ได้ก็ควรยุบสภา ให้ชาวบ้านจัดสรรมาใหม่
จากนั้น นายศุภชัย จึงกล่าวว่า มาเป็น ส.ส.ในรอบนี้ตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ ในฐานะประธานในที่ประชุมก็ทำอย่างเต็มที่ ลงจากบัลลังก์ก็ทำหน้าที่ ส.ส. ยอมรับว่าเหนื่อยหน่ายเช่นเดียวกัน ถ้าเป็นไปได้ก็อยากเรียกร้องเหมือนนายครูมานิตย์เช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ส.ส. ส่วนใหญ่ ที่ลุกขึ้นหารือกับประธานในที่ประชุมฯ เรียกร้องให้ ส.ส. มาร่วมกันเป็นองค์ประชุม เพื่อที่จะได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประมง ซึ่งจะเข้าสู่การพิจารณาในลำดับถัดไป หลังจากรอการพิจารณามาหลายสัปดาห์ ซึ่งชาวประมงกำลังจับตาอยู่
เมื่อถึงเวลาพอสมควรในการรอองค์ประชุมปรากฏว่ามีจำนวนผู้เข้าร่วมประชุม 190 ไม่ครบกึ่งหนึ่งขององค์ประชุมคือ 212 คน ประธานจึงสั่งปิดการประชุมทันทีในเวลา 13.46 น. หลังจากเข้าสู้การพิจารณาไปแค่ 16 นาที