‘ศักดิ์สยาม’ ยืนยันความพร้อมคมนาคมในการ รองรับการบริการการเดินทางของนักเที่ยว
‘ศักดิ์สยาม’ ยืนยันความพร้อมในการรองรับการบริการการเดินทางของนักเที่ยว ที่มีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นถึง ร้อยละ 118 ในเดือนกรกฎาคม 2565 เมื่อเปรียบเทียบกับของ 6 เดือนแรกของปี
กระทรวงคมนาคมได้รับรายงานถึงปริมาณการเดินทางของผู้โดยสารในระบบขนส่งสาธารณะระหว่างประเทศ ประจำปี 2565 ตั้งแต่วันที่ 1 – 31 กรกฎาคม 2565 เปรียบเทียบกับปริมาณการเดินทางของผู้โดยสารในระบบขนส่งสาธารณะระหว่างประเทศ เดือนมกราคม – มิถุนายน 2565 โดยข้อมูล ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2565 ในภาพรวมพบว่า เดือนกรกฎาคม 2565 มีปริมาณผู้โดยสารทั้งเข้า – ออก ประเทศในทุกมิติการขนส่งรวม 2,050,744 คน
เพิ่มขึ้นจากค่าเฉลี่ยเดือนมกราคม – มิถุนายน 2565 เฉลี่ยเดือนละ 575,837 คน ซึ่งเป็น ผู้โดยสารขาเข้าจำนวน 1,055,608 คน เพิ่มขึ้นจากค่าเฉลี่ยเดือนมกราคม – มิถุนายน 2565 ซึ่งมีปริมาณผู้โดยสารขาเข้าเฉลี่ยเดือนละ 482,719 คน คิดเป็น เพิ่มขึ้นร้อยละ 118.68 โดยสัดส่วนการเดินทางตามรูปแบบการเดินทางในเดือนกรกฎาคม 2565 พบว่า ทางอากาศ มีสัดส่วนการเดินทางสูงสุด คิดเป็นร้อยละ 99.13 รองลงมาคือ ทางถนน ทางราง และทางน้ำ คิดเป็นร้อยละ 0.77. ร้อยละ 0.05 และ ร้อยละ 0.05 ตามลำดับ
ทั้งนี้ ปริมาณการเดินทางของผู้โดยสารในระบบขนส่งสาธารณะ โดยจำแนกตามรูปแบบการเดินทาง มีดังนี้
1. ทางถนน มีปริมาณผู้โดยสารเดือนกรกฎาคม 2565 รวม 42,646 คน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2565 ซึ่งมีผู้โดยสาร 25,895 คน เป็นการเดินทางเข้าประเทศ 16,968 คน เพิ่มขึ้นจากค่าเฉลี่ยเดือนมกราคม – มิถุนายน 2565 ซึ่งมีผู้โดยสารขาเข้าเฉลี่ยเดือนละ 6,711 คน คิดเป็น เพิ่มขึ้นร้อยละ 152.84
นอกจากนี้ จากสถิติการเดินทางระหว่างประเทศ พบว่า ผู้โดยสารที่เดินทางทางถนนส่วนใหญ่ ใช้รูปแบบการเดินทางในเส้นทางของ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จึงได้มีนโยบายให้ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดให้บริการผู้โดยสารเดินทางระหว่างประเทศจำนวน 10 เส้นทาง โดยเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2565 ได้แก่ 1) มุกดาหาร – สะหวันนะเขต 2) หนองคาย – นครหลวงเวียงจันทร์ 3) อุดรธานี – นครหลวงเวียงจันทร์ 4) อุบลราชธานี – เมืองปากเซ 5) ขอนแก่น – นครหลวงเวียงจันทร์ 6) กรุงเทพมหานคร – นครหลวงเวียงจันทร์ 7) นครพนม – ท่าแขก 8) อุดรธานี – ท่าอากาศยานอุดรธานี – หนองคาย – วังเวียง 9) เชียงราย – แขวงบ่อแก้ว 10) เส้นทางเลย – แขวงหลวงพระบาง
2. ทางน้ำ มีปริมาณผู้โดยสารขาเข้าประเทศ เดือนกรกฎาคม 2565 รวม 325 คน เพิ่มขึ้นจากค่าเฉลี่ยเดือนมกราคม – มิถุนายน 2565 ซึ่งมีผู้โดยสารขาเข้าเฉลี่ยเดือนละ 267 คน คิดเป็น เพิ่มขึ้น ร้อยละ21.72 โดยสัดส่วนการเดินทางระหว่างท่าเรือชายแดนและเรือยอร์ช ในเดือนกรกฎาคม 2565 พบว่า มีปริมาณการเดินทางผ่านท่าเรือชายแดน 179 คน (ร้อยละ 56) และมีปริมาณการเดินทางด้วยเรือยอร์ช142 คน (ร้อยละ 44)
3. ทางราง มีปริมาณผู้โดยสาร เดือนกรกฎาคม 2565 รวม 4,609 คน เมื่อพิจารณาสัดส่วนการเดินทางขาเข้าและขาออกประเทศ พบว่า มีปริมาณการเดินทางขาเข้า 2,161 คน คิดเป็น ร้อยละ 47 และมีปริมาณการเดินทางขาออก 2,448 คน คิดเป็น ร้อยละ 53 หรือ สัดส่วนการเดินทางขาเข้าและขาออก คิดเป็น47:53 โดยขณะนี้ การเดินทางในระบบราง ได้มีการเปิดเดินรถไฟกับประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มขึ้น เช่น รถไฟเชื่อมต่อกับ สปป.ลาว เพื่อให้สามารถรองรับการเดินทางระหว่างประเทศได้เพิ่มมากขึ้น
4. ทางอากาศ มีปริมาณผู้โดยสาร เดือนกรกฎาคม 2565 รวม 2,003,164 คน เพิ่มขึ้นจากค่าเฉลี่ยปริมาณผู้โดยสารเดือนมกราคม – มิถุนายน 2565 ซึ่งมีผู้โดยสารเฉลี่ยเดือนละ 931,512 คน เป็นการเดินทางขาเข้าประเทศ จำนวน 1,036,154 คน เพิ่มขึ้นจากค่าเฉลี่ยเดือนมกราคม – มิถุนายน 2565 ซึ่งมีผู้โดยสารขาเข้าเฉลี่ยเดือนละ 480,215 คน คิดเป็น เพิ่มขึ้นร้อยละ 115.77 เมื่อพิจารณาสัดส่วนการเดินทางตามท่าอากาศยาน ในเดือนกรกฎาคม 2565 พบว่า มีปริมาณการเดินทางผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ1,492,690คน คิดเป็น ร้อยละ 76 มีปริมาณการเดินทางผ่านท่าอากาศยานดอนเมือง 245,168 คน คิดเป็นร้อยละ 11 และมีปริมาณการเดินทางผ่านท่าอากาศยานภูมิภาค 265,306 คน คิดเป็น ร้อยละ 13 หรือสัดส่วนการเดินทางผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง และท่าอากาศยานภูมิภาค คิดเป็น 76:11:13
ทั้งนี้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ยืนยันถึงความพร้อมในการรองรับการบริการการเดินทางของนักเที่ยว ที่มีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น อันเนื่องมาจาก รัฐบาลได้ผ่อนคลายมาตรการป้องกันควบคุมโรคสำหรับการเดินทางเข้าประเทศ โดยประกาศยกเลิกมาตรการเข้าประเทศในรูปแบบTest & Go ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 เพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบตามที่กำหนดให้สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้อย่างเสรี
ประกอบกับการยกเว้นการลงทะเบียน Thailand Pass หรือ COE ของชาวต่างประเทศ เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ได้อนุญาตให้นักท่องเที่ยวที่มีผลตรวจหาเชื้อไวรัส COVID-19 ด้วยวิธี RT-PCR เป็นลบ โดยมอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ทั้งทางบก ทางน้ำ ทางราง และทางอากาศบูรณาการร่วมกับ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงท่องเที่ยว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะในทุกมิติ และให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 อย่างเคร่งครัด