’มงคลกิตติ์’ ชี้ เครื่องบินMIG29 บินเข้าน่านฟ้าไทยเป็นภัยต่อความมั่นคง
เสนอเรียกสอบนายกฯ และรมต.กลาโหม ย้ำกองทัพอากาศไทยต้องยิงเตือน
วันนี้ (1 ก.ค. 65) นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร (ส.ส. บัญชีรายชื่อ) หัวหน้าพรรคไทยไทยศิวิไลย์ และกรรมาธิการทหาร แถลงข่าวถึงกรณีที่วานนี้ (30 มิ.ย. 65) เครื่องบิน MIG29 ของกองทัพเมียนมาบินเข้ามาน่านฟ้าของฝั่งไทย
นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า เนื่องจากทางสหภาพเมียนมามีการสู้รบกับกองกำลังสหภาพกะเหรี่ยงที่มี 7 กองพล ซึ่งอยู่ตามตะเข็บชายแดนไทย-เมียนมาตามปกติ และเมื่อมีเครื่องบินสัญชาติเมียนมาบินเข้ามาฝั่งไทยไม่ใช่เรื่องเล่น โดยตามปกติเมื่อมีเครื่องบินเข้ามาให้ส่งเรดาร์เตือนว่ารุกล้ำเข้ามา หากแจ้งไม่ฟังแล้ว กองทัพบกหรือกองทัพอากาศต้องยิงสกัดเพื่อเตือนไม่ให้รุกล้ำอธิปไตยไทย แต่ถ้ายังล้ำอีกต้องยิงร่วง
นายมงคลกิตติ์ กล่าวต่อว่า การที่กองทัพอากาศปล่อยให้ MIG29 รุกล้ำเข้ามาทำให้ประชาชนใน อำเภอพบพระ จังหวัดตาก มีความหวาดกลัว ในด้านความมั่นคงถือว่ามีความผิด จึงเสนอ กรรมาธิการทหารในช่วงเช้าให้เรียกสอบนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในสัปดาห์หน้า หร้อมย้ำว่า อย่าส่งตัวแทนเป็นพลเอก ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมมารับฟังเพราะมาก็ฟังอย่างเดียว ทางนายกฯ ต้องชี้แจงเรื่องนี้
นายมงคลกิตติ์ระบุถึงประเด็นที่นายกต้องออกมาชี้แจง ดังนี้
1.ในวันที่ 29 มิ.ย. ที่ผ่านมามีผู้นำไทยไปคุยกับผู้นำเมียนมสหรือไม่
2.วันที่ 30 มิ.ย. มีการตกลงเจรจาล่วงหน้าก่อนการสู้รบหรือไม่ และมีโอกาสเป็นไปได้ไหมที่มีการเจรจาเพื่อให้เราเปิดน่านฟ้า และทำเป็นมองไม่เห็น
ซึ่งนายมงคลกิตติ์ ระบุต่อว่า เราไม่ได้รบกับสหภาพเมียนมา และกองกำลังสหภาพกะเหรี่ยง ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้านการทหารเป็นส่วนสำคัญ แต่ในด้านอธิปไตยเป็นเรื่องใหญ่ จะให้ใครล่วงล้ำไม่ได้ เพราะถือเป็นภัยความมั่นคง
‘ส่วนการเสนอซื้อเครื่องบิน F-15 ในงบประมาณ ประจำปี 2566 นั้น ถ้ากองทัพอากาศมีความสามารถ เราต้องยิงก่อน ศักดิ์ศรีเรามี เสียดายว่าผมเป็น กรรมาธิการทหาร ถ้าผมเป็นนักบินรบผมยิงเองแล้ว’ นายมงคลกิตติ์กล่าวทิ้งท้าย