นายกฯ ลั่น จะดีจะชั่วพร้อมรับผิดชอบทุกเรื่อง ไม่หนีไปไหน

นายกฯ ลั่น จะดีจะชั่วพร้อมรับผิดชอบทุกเรื่อง ไม่หนีไปไหน ยืนยันไม่เคยท้อ รับบางครั้งอารมณ์รุนแรงเพราะเป็นมนุษย์

วันนี้ (1 มิ.ย. 65) ที่รัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลุกขึ้นชี้แจงว่า ที่กล่าวหาว่าตนไม่รับผิดชอบ โยนความผิดให้คนอื่น ยืนยันว่าไม่ใช่แบบนั้น ฟังที่ตนพูดไม่เข้าใจ ซึ่งตนพูดถึงการทำงานว่าต้องฟังคณะทำงานทุกคณะ ส่วนความรับผิดชอบถึงอย่างไรนายกฯ ก็รับผิดชอบ นายกฯ ไม่หนีแน่นอน ไม่หนีไปไหน ทุกอย่างต้องรับผิดชอบ จึงขออย่าพูดเกินเลยไป

โดยเฉพาะเรื่องการศึกษายืนยันว่ารัฐบาลให้ความสำคัญการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และอยู่ในหัวข้อหลักยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งที่กล่าวว่าตนทำลายระบบการศึกษา ถ้ามองอีกแง่ต้องไปดูว่าสิ่งที่เราทำมาแล้วต้องปรับเปลี่ยนหรือไม่ พร้อมการยกระดับการเรียนการสอน เพิ่มโรงเรียนที่มีคุณภาพประจำตำบล ไม่ได้ยุบทิ้งทั้งหมด ซึ่งคุณแม่ตนก็เป็นครู ตนเองก็เคยเป็นครูทหาร แต่วันนี้เราต้องปรับวิธีการสอนและวิธีการเรียนรู้ใหม่ ขณะเดียวกันในส่วนงบประมาณด้านการศึกษาหรืองบฯ ของทุกกระทรวงหากมีปัญหา ก็พร้อมนำงบฯ กลางเติมให้

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องการย้าย การซื้อขายตำแหน่งอะไรต่างๆ ต้องหาข้อมูลมาเพิ่มเติม ถ้าไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ตนพร้อมปรับกลับคืนให้ วันนี้อยู่ในการพิจารณาอยู่

“การที่ผมจะนั่งอยู่หรือไม่นั่งอยู่ ผมเป็นนายกรัฐมนตรีผมมีความรับผิดชอบ ผมมีการบันทึกมีการสรุปว่าใครอภิปรายว่าอย่างไรและผมควรจะชี้แจงตรงไหนอย่างไรทุกอย่างถูกบันทึกหมดและผมทำงานอยู่ตลอดเวลาแม้ผมจะทำงานอื่นอยู่ด้วยก็ตาม อย่างเช่นวันนี้ที่ผมจะมีภารกิจสำคัญต้อนรับการเยือนของนายกรัฐมนตรีลาว งานผมก็ไม่ได้หยุดนิ่ง ตรงนี้ผมก็ให้ความสำคัญและให้คณะทำงานทุกคณะ ทุกหน่วยงานอยู่ที่นี่ ดังนั้นผมก็พร้อมจะชี้แจงและบางเรื่องก็ต้องปล่อยให้รัฐมนตรีรัฐมนตรีได้ชี้แจงด้วย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยืนยันว่าพร้อมสนับสนุนในส่วนของงบกลางถ้าเรามีเพียงพอ ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องภัยพิบัติ ไม่มีปัญหาเรื่องสาธารณสุขหรือไม่มีปัญหาเรื่องอื่นๆ ก็พร้อมพิจารณาเพื่อสนับสนุนงบประมาณให้

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องการปราบปรามทุจริตที่บอกว่าพบเพิ่มมากขึ้นแสดงว่าแก้ไขไม่ได้นั้น ถามว่าเมื่อก่อนคดีน้อยหรือไม่ทั้งที่การทุจริตมีจำนวนมาก มีใครไปก้าวล่วงกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ มีการร้องทุกข์กล่าวโทษมากน้อยเพียงใดและนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเท่าไร ซึ่งตนไม่เคยไปยุ่งไม่เคยไปก้าวก่ายฟ้องอะไรมาก็ฟ้องไป ฟ้องตนมาหลายร้อยคดี ตนเองก็สู้คดีไป

ดังนั้นเรื่องนี้ต้องมองอีกมุมไม่ใช่ว่ามีคดีเยอะเพราะตนปล่อยปละละเลย คงไม่ใช่ ถ้าคิดแบบนั้นไม่มีตรรกะในการคิด ทำไมไม่มองว่าตนไม่ไปก้าวก่ายกระบวนการยุติธรรมตัดสินอย่างไรใครจะผิดจะถูกก็ว่ากันมาขอฝากไว้ด้วยแล้วกัน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ขณะที่เรื่องการร้องเรียนการทุจริต ยาเสพติดหรืออะไรต่างๆ ขอให้ร้องทุกข์กล่าวโทษมาเลยไม่ต้องกลัวใคร ตนจะดูแลและปกปิดให้ ส่งเอกสารมาถึงนายกฯ เลยก็ได้ตนจะตรวจสอบให้และทำแบบนี้มาโดยตลอด พร้อมสั่งการว่าให้ดำเนินคดีไป ยืนยันไม่ปกป้องใครทั้งสิ้น และย้ำว่าตนรับผิดชอบทุกเรื่องขอยืนยันและขอให้ช่วยกันมองต่างมุมด้วยแล้วกัน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยืนยันว่าตนไม่เคยท้อ และทำงานทุกวัน ไม่ว่าทำงานที่ทำเนียบหรือที่อื่นๆ เพราะวันนี้การทำงานใช้เทคโนโลยีได้มาก จึงสามารถสั่งการได้ 24 ชั่วโมงตลอดเวลา ไม่ว่าในประเทศหรือต่างประเทศตนก็มีความรับผิดชอบและจะไม่ก้าวก่าย จะไม่สั่งการอะไรที่เกิดประโยชน์กับตัวเองหรือกับใคร ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมายตามระเบียบและขั้นตอนทุกประการ และตนเป็นห่วงข้าราชการหลายๆ คนที่จะต้องถูกดำเนินคดีเหมือนเช่นที่ผ่านมา ซึ่งไม่อยากให้เกิดขึ้น

ตนจึงเตือนข้าราชการทุกคนตลอดเวลาว่าทั้งหมดต้องทำให้ถูกต้องครบถ้วนกระบวนความ ถ้ามีปัญหาเรื่องร้องเรียน ต้องตรวจสอบหาข้อเท็จจริง ซึ่งบางอย่างเป็นอำนาจของคณะกรรมการที่ดำเนินการอยู่ หน้าที่ของตนก็คือเมื่อมีปัญหาก็ให้ตรวจสอบ

“ทั้งหมดผมรับผิดชอบในภาพใหญ่อยู่แล้ว มันจะดีจะชั่วผมก็ต้องรับอยู่แล้ว ผมไม่หนีท่านหรอกครับยืนยัน อยากให้ทุกคนเข้าใจในบางครั้งผมก็รู้ ผมก็ทราบดี ว่าบางทีผมจะอารมณ์แรงนิดนึง ผมก็เป็นมนุษย์คนนึงเหมือนกันผมก็พยายามจะระวังอย่างที่สุดในการพูดจาตรงนี้ และต้องขอขอบคุณก็แล้วกันในส่วนที่เป็นคำแนะนำดีๆเป็นประโยชน์ เราจะรับไปดำเนินการแก้ไขปรับปรุงในขั้นตอนหลังจากงบประมาณผ่านไปแล้ว ในชั้นกรรมาธิการออกมาที่จะสามารถปฏิบัติได้ แต่ถ้าไม่ผ่านก็แล้วแต่ ก็ไปว่ากันเพราะประชาชนก็รออยู่ว่าเราจะทำอะไรใหม่และดูแลให้เขาได้อย่างไรอีกบ้าง ในงบประมาณปี 2566” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว