‘บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์’ ยัน ปฏิบัติการไม่ล่าช้า แต่มีอุปสรรคมาก
‘บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์’ ยัน ปฏิบัติการไม่ล่าช้า แต่อุปสรรคมากทั้ง สภาพโครงสร้าง – ความหนาของพื้นปูน เผย สแกนพบจุดที่คาดว่าจะมีผู้ติดค้างประมาณ 70 คน บริเวณกลางอาคารชั้นที่ 17-21
วันนี้ (1 เม.ย. 68) เวลา 10:20 น. บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ นำทีมอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ลงพื้นที่อาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่พังถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว โดยเปิดเผยว่า เครื่องสแกนพบสัญญาณชีพ คาดว่ามีผู้ติดค้างประมาณ 70 คน บริเวณชั้นที่ 17-21 ซึ่งเป็นจุดที่มีการทำงานของพนักงานก่อนเกิดเหตุ
ตลอดคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ประชุมวางแผนกว่า 10 ชั่วโมงเพื่อเตรียมปฏิบัติการช่วยเหลือ อย่างไรก็ตาม การทำงานยังคงเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจาก สภาพโครงสร้างของอาคารสูง 30 ชั้น ก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ ไม่มีแบบแปลน และพื้นปูน-ผนังหนากว่า 1 เมตร ทำให้การเจาะเข้าไปช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบาก
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ใช้เครื่องมือหนัก และยังไม่สามารถเข้าถึงจุดที่พบสัญญาณชีพได้ หากช่วงเช้านี้ไม่สามารถเคลื่อนย้ายซากปรักหักพังได้สำเร็จ อาจต้องปรับแผนมาใช้เครื่องมือหนักแทน โดยขณะนี้การปฏิบัติงานเน้นยกซากจากยอดอาคารที่ถล่มลงมา ไล่ลงไปด้านล่าง พร้อมตรวจสอบร่างผู้เสียชีวิต ก่อนนำข้อมูลยืนยันอัตลักษณ์กับญาติและบริษัท
ภารกิจเร่งด่วนขณะนี้ คือเคลียร์เศษเหล็กและปูนให้ถึงจุดที่พบผู้ติดค้างโดยเร็วที่สุด บิณฑ์ยืนยันว่าการปฏิบัติงานไม่ล่าช้า แต่เป็นสถานการณ์ที่ซับซ้อนและถือว่าเป็นหนึ่งในภารกิจกู้ภัยที่หนักที่สุด
สำหรับความร่วมมือกับทีมกู้ภัยต่างชาติ เจ้าหน้าที่ไทยสามารถทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี โดยทีมร่วมกตัญญูเคยผ่านการฝึกกับต่างประเทศหลายครั้ง ยอมรับว่าเครื่องมือของต่างชาติทันสมัยกว่า แต่เจ้าหน้าที่ไทยยังคงให้ความสำคัญสูงสุดกับความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน