พ.ต.อ.ทวี เดินหน้าสอบบริษัทนอมินีธุรกิจต่างชาติทั่วประเทศ
พ.ต.อ.ทวี เดินหน้าสอบบริษัทนอมินีธุรกิจต่างชาติทั่วประเทศ ยัน เยียวยาผู้เสียหายเหตุแผ่นดินไหวทันทีไม่ต้องรอคดีสิ้นสุด
วันนี้ (1 เม.ย. 68) ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงการเยียวยาผู้บาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตเหตุตึกถล่มจากแผ่นดินไหว ว่า กฎหมายของกระทรวงยุติธรรมมีอยู่ เรื่องการเยียวยาจะเกิดขึ้นต่อเมื่อมีการกระทำผิดอาญาเกิดขึ้น ถ้ามีการร้องทุกข์กล่าวโทษ เช่น การประมาททำให้เสียชีวิตถือเป็นฐานความผิดทางอาญา จะเข้าข้อกฎหมาย
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่าการช่วยเหลืออาญาในเหตุภัยพิบัติมีกฎหมายในหลายส่วน ในส่วนของหน่วยงานที่ดูแลโดยตรง เช่น กระทรวงมหาดไทย และสำนักนายกรัฐมนตรี ในส่วนของรัฐบาลก็ต้องมีการดูแลอยู่แล้ว เพราะเหตุการณ์นี้ถือเป็นโศกนาฏกรรม ขอเอาใจช่วยกับการช่วยเหลือในครั้งนี้ เพราะทุกคนก็เอากำลังใจช่วย การเยียวยาทางจิตใจ และเม็ดเงินก็ต้องมีเช่นกัน
เมื่อถามว่าต้องรอให้คดีสิ้นสุดก่อนหรือไม่ พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่า ในเรื่องนี้ไม่ต้องรอให้คดีสิ้นสุด สามารถทำได้เลย ในการเยียวยาของหน่วยงานราชการเพื่อช่วยเหลือประชาชน แต่หากเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมต้องมีการกระทำผิดทางอาญาเกิด ส่วนการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติแผ่นดินไหว จะได้รับการเยียวยา 2 ส่วน ได้แก่ การเยียวยาจากเหตุภัยพิบัติ และคณะรัฐมนตรี (ครม.) อาจมีมติกำหนดให้ช่วยเหลือเยียวยา
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ในส่วนของกระทรวงยุติธรรมได้จัดนักจิตวิทยาเข้าร่วมกับกรมสุขภาพจิต เนื่องจากมีประเด็นเหตุตึกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม เข้าข่ายกระทำความผิดอยู่ 3 ประเด็น ได้แก่ การประกอบธุรกิจโดยคนต่างด้าวที่ใช้นอมินี ถือเป็นเรื่องสำคัญ จากการตรวจสอบเบื้องต้นงบการเงินของบริษัทขาดทุนมาตลอด ไม่เสียภาษี และนำเงินของบริษัทให้กรรมการบริษัทกู้จำนวนกว่า 2,000 ล้านบาท แต่อำนาจจริง ๆ ในการถือหุ้นส่วนต่างชาติสามารถถือได้ 49 % คนไทยถือได้ 51 % ก็ตาม แต่อำนาจในการครอบงำเห็นได้จากอำนาจในการบริหาร ประกอบกับการตรวจสอบสถานที่หรือกลุ่มคนเดียวกันมีบริษัทลักษณะนี้กว่า 10 บริษัท ในพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบธุรกิจบุคคลต่างด้าว เป็นความผิดท้ายกรมสอบสวน
เรื่องต่อมาหากมีประเด็นว่าสินค้าไม่ได้มาตรฐานอุตสาหกรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) มีอำนาจในการสอบสวน เรื่องสุดท้ายการฮั้วประมูลถ้ามีมูลเกินกว่า 30 ล้านบาท จะเข้าไปตรวจสอบ เพราะเบื้องต้นเห็นว่าการประมูลนั้นมีราคาต่ำกว่าราคากลางอยู่เพียง 1 % โดยปกติการประมูลที่ไม่มีการแข่งขันควรจะอยู่ที่ 10-15 %
ส่วนบริษัทย่อยของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ต้องเข้าไปตรวจสอบด้วยหรือไม่นั้น พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่า ทราบจากอธิบดีดีเอสไอ วันนี้จะมีการประชุมเรื่องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าสิ่งที่ต้องเร่งทำคือการตรวจสอบว่าการเกิดเหตุมีการกระทำผิดหรือไม่ เพราะเกิดเหตุเพียงที่เดียว ส่วนข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลทางทะเบียน บางครั้งการจตรวจสอบข้อมูลทางทะเบียนของหน่วยงานต่าง ๆ ไม่พบ แต่หลังจากการตรวจสอบข้อมูลเรื่องเสียภาษีหรือสรรพากรหรือตรวจสอบในเชิงลึกกว่านั้นจึงจะได้ข้อมูลจะเร่งสอบต่อไป
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ร่วมมือกับกระทรวงยุติธรรม ตรวจสอบธุรกิจนอมินีที่ทำให้ GDP ของประเทศโต แต่คนไทยไม่ได้ประโยชน์ ต้องดูว่าการทำกฎหมายให้ธุรกิจของคนต่างด้าวเป็นไปตามกฎหมาย เงินจำนวนมากที่จะไหลไปให้คนต่างด้าวก็จะกลับมาที่คนไทย 51 % โดยตนเองได้มอบหมายสำนักความมั่นคงของดีเอสไอดูภาพรวมของธุรกิจนอมินีทั้งหมด
