‘ปานปรีย์‘ เผยทั่วโลกจับตาไทยช่วยเหลือมนุษยธรรมเมียนมา
ชะลอ ปชช.ไม่ให้ได้รับผลกระทบรุนแรง ยืนหยัดยึดมั่นตามฉันทามติอาเซียน
วันนี้ (1 เม.ย.67) นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เน้นย้ำถึงการช่วยเหลือมนุษยธรรมแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบในเมียนมาว่าทุกวันนี้ชายแดนไทย-เมียนมา มีคนอพยพข้ามไปมาเพื่อหาสถานที่ปลอดภัย ซึ่งรัฐบาลเองก็จัดหาที่พักพิงชั่วคราวเพื่อให้เขาพ้นจากการสู้รบ และพ้นจากอันตรายเป็นการชั่วคราว การช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมมีส่วนสำคัญมากที่จะทำให้คนเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องวิ่งเข้ามาในประเทศไทย โดยเฉพาะการช่วยเหลือในเรื่องของการจัดหาเวชภัณฑ์ และอาหาร
การช่วยเหลือมนุษยธรรม เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ชาวโลกเขาเฝ้าดูอยู่ และเป็นแนวทางที่ชาวโลกเขาใช้กัน ไม่ว่าจะเป็นประเทศที่มีการสู้รบกันอย่างอิสราเอล และกาซาก็มีการช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมเหมือนกัน ดังนั้นการช่วยเหลือจะเป็นการชะลอไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบที่รุนแรงกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ส่วนประเทศไทย การที่เราช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเป็นอีกส่วนที่เราไม่ต้องการเห็นผู้คนอพยพเข้ามาอยู่ในไทยอย่างถาวร เป็นอีกส่วนที่เราช่วยเหลือ นอกจากเรื่องที่เรามีความปรารถนาดีต่อประชาชนชาวเมียนมาแล้ว ยังเป็นการช่วยเหลือชีวิตคนอีกด้วย แง่การเมือง เรามีความประสงค์อยากจะเห็นว่าเมื่อเรามีการช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมแล้ว จะทำให้หลายฝ่ายเมื่อเขาได้รับความช่วยเหลือจะหันมาพูดคุยกัน ซึ่งเขาพร้อมที่จะมาพูดคุยกับคนที่ช่วยเหลือเขา และคนที่ไปช่วยเหลือเขาอย่างไทยก็จะต้องทำหน้าที่ประสานงานเพื่อที่จะให้แต่ละกลุ่มนั้นสามารถมาพูดคุยกันได้
การดำเนินการช่วยเหลือเป็นไปตามฉันทามติ 5 ข้อของอาเซียน ซึ่งถ้าหากไปศึกษาฉันทามติ 5 ข้อจะพบว่ามีการเรียกร้องให้ยุติการใช้ความรุนแรง รวมถึงเรื่องของประชาชนนั้นก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องให้ความช่วยเหลือ และเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของเราฝ่ายเดียว แต่เป็นเรื่องของอาเซียน เพราะถ้าหากสถานการณ์ในเมียนมายังไม่สงบ ประเทศไทยจะได้รับผลกระทบมากที่สุด
ทุกประเทศในกลุ่มอาเซียนนั้นเห็นด้วยกับการดำเนินการช่วยเหลือของเรา และเราก็ได้มีการรับปากไปว่า จะเร่งประสานกับทุกกลุ่มต่าง ๆ ให้ครอบคลุม และรอบด้าน แม้ว่าการดำเนินการช่วยเหลือในครั้งแรกจะยังไม่ใหญ่ หรือถึงมือผู้คนทุกกลุ่มนัก แต่ถือว่าเป็นโครงการนำร่อง และถ้าหากสำเร็จผลก็จะมีการขยายไปในพื้นที่อื่น รวมถึงหลายประเทศแสดงความจำนงพร้อมที่จะที่จะเข้ามาช่วยเหลือด้วย