พรรคร่วมฝ่ายค้านเชื่อ กอ.รมน.ภาค 4 แจ้งความดำเนินคดี หวังผลทางการเมือง เตรียมแจ้งความกลับคนฟ้อง 6 ต.ค.นี้
ตัวแทน 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน เปิดแถลงข่าวภายหลังหารือร่วมกันในประเด็นที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า แจ้งความดำเนินคดีแกนนำ 7 พรรคฝ่ายค้านและนักวิชาการรวม. 12 คน ตามมาตรา 116 ฐานยุยง ปลุกปั่น จากการขึ้นเวทีเสวนาที่จังหวัดปัตตานี
โดยนายชูศักดิ์ ศิรินิล ฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่าการเดินสายและอภิปรายในที่สาธารณะของ 7 พรรคฝ่ายค้าน ไม่มีเหตุการกระทำเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโดยใช้กำลังประทุษร้าย การปั่นป่วนเพื่อให้ประชาชนเกิดความกระด้างกระเดื่องและก่อความไม่สงบในบ้านเมือง และการยุยงให้ทำผิดกฎหมายบ้านเมือง ตามข้อกล่าวหาของกอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า จึงเห็นว่าการแจ้งความดำเนินคดีในข้อหานี้เป็นความต้องการที่จะปิดปากประชาชนและหวังผลทางการเมืองอย่างไม่มีข้อสงสัย และประเด็นการฟ้องดำเนินคดี ก็เป็นเครื่องมือของรัฐบาลและฝ่ายความมั่นคง
ขณะที่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า ทันทีที่เห็นชื่อคนที่แจ้งความ คือพลตรีบุรินทร์ ทองประไพ ก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นการกระทำลักษณะเดิมๆ เหมือนกับช่วงที่คสช.อยู่ในอำนาจตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ที่ใช้ช่องทางตามกฏหมายแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่เห็นต่าง ในมาตรา 116 และ ความผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ซึ่งสุดท้ายอัยการก็สั่งไม่ฟ้องและศาลก็ยกฟ้อง
“การกระทำลักษณะนี้ ต่างประเทศเรียกว่า “แอนตี้ สแรพ” หรือการต่อต้านใช้ช่องทางดำเนินคดีปิดปากนักการเมือง หรือบุคคลที่คิดต่าง แม้วันนี้เข้าสู่การปกครองระบบปกติ ก็ยังมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น”
นายปิยบุตรตั้งข้อสังเกตการแจ้งความดำเนินคดีในครั้งนี้ว่า เป็นความพยายามกลบเกลื่อนการบริหารงานของรัฐบาลที่อยู่ในช่วงขาลง โดยเฉพาะการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และกลบเกลื่อนประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ขณะนี้มีแนวโน้มว่าสังคมตอบรับมากขึ้น พร้อมกับบอกว่ากอ.รมน.เป็นเหมือนมรดกตกทอดของ คสช. เพราะหลังการทำรัฐประหารทั้ง 2 ครั้ง ยังมีผลต่อเนื่องให้มีอำนาจเหนือข้าราชการพลเรือน ซึ่งไม่ต่างจากการสืบทอดอำนาจ คสช. เพียงแต่แฝงด้วยการเปลี่ยนชื่อเท่านั้น
“พรรคฝ่านค้านพร้อมที่จะทำตามกระบวนการ ยืนยันในความบริสุทธิ์ใจ และทันทีที่เปิดสมัยประชุมสภาฯก็จะถามนายกฯ ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่ และพร้อมที่จะเดินหน้ารณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไป สิ่งที่พรรคฝ่ายค้านต้องการคือให้ตั้ง สสร. ขึ้นมาเพื่อแก้รัฐธรรมนูญ 1 มาตรา เปิดทางให้แก้ไขทั้งฉบับภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข”
