นายกรัฐมนตรียืนยันไม่มีการยุบสภาเพียงแต่สอบถามขั้นตอน ไม่โง่พอประกาศเพราะจะกระทบต่อความเชื่อมั่นทุกด้าน และยังไม่มีการปรับครม. ไม่ขัดข้องหากพรรคเศรษฐกิจใหม่จะเข้าร่วมรัฐบาล แต่จะมาต่อรองตำแหน่งก่อนไม่ได้ โยนแกนนำฝ่ายการเมืองไปหารือกัน
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชี้แจงการทำงานของรัฐบาลหลังมีกระแสข่าวลือจะปรับครม.และขู่ยุบสภาว่า ทุกวันนี้ทุกคนก็เห็นอยู่แล้วว่ารัฐบาลกำลังแก้ปัญหาเศรษฐกิจ หลายอย่างมีความคืบหน้าและเป็นการทำเพื่ออนาคตของเรา
นอกจากนี้รัฐบาลยังมีปัญหาที่จะต้องแก้ไขทั้งเรื่องค่าทางด่วนโฮปเวลล์ เหมืองทองอัครา ซึ่งรัฐบาลพยายามเต็มที่ไม่ให้ไทยเสียประโยชน์ พร้อมยกตัวอย่างการแก้ปัญหา คดีคลองด่านที่ทำได้สำเร็จ พร้อมกันนี้ยังได้กล่าวว่าการแก้ปัญหาเหมืองทองอัคราไม่ได้อยากใช้ ม.44 แต่จำเป็นต้องใช้ เมื่อประชาชนมีการเรียกร้องเรื่องสุขภาพ ซึ่งใครมาเป็นนายกรัฐมนตรีก็ตาม เรื่องสุขภาพประชาชนเป็นเรื่องสำคัญ ที่ต้องดูแล
เช่นเดียวกับเรื่องความวุ่นวายในสภาฯ ขอให้จบกันได้แล้ว เพราะถ้าพูดกันทุกวันไม่ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา ให้ไปดูในเรื่องของวันหน้า ถ้าหากเกิดขึ้นมาอีก แต่ถ้าช่วยกันทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล ประเทศก็จะไปได้ การเป็นฝ่ายค้านและรัฐบาลเป็นเรื่องประชาธิปไตย ตนเข้าใจดีแต่ให้มีเหตุผล และขอให้ดูสถานการณ์ในประเทศ ว่าจะช่วยกันได้อย่างไรในบางเรื่อง ไม่ได้หมายความว่าทุกคนต้องคล้อยตามทั้งหมด วันนี้มีการวิพากษ์วิจารณ์เลยเถิดไปถึงการยุบสภา ยืนยันยังไม่ได้คิดไปถึงขั้นนั้น เพียงแต่ถามถึงขั้นตอนว่าต้องทำอย่างไร ไม่ได้ไปประกาศ เรื่องแบบนี้ประกาศไม่ได้ ทำให้เสียทั้งหมด ทั้งความมั่นใจต่างประเทศ ส่วนตัวไม่ได้โง่พอที่จะไปพูดเรื่องแบบนี้ ส่วนปัญหาเสียงในสภาไม่พอก็มาจากประชาชนที่เลือกแต่ละพรรคมา เป็นสิทธิ์ของพรรคว่าจะอยู่ฝ่ายค้านหรือรัฐบาล จะแก้อย่างไรให้ไปว่ากันในการเลือกตั้งในครั้งหน้า
พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีย้ำจะไม่มีการปรับ ครม.เพราะขณะนี้ทุกคนทำงานเข้าขากันมากขึ้น จากเดิมที่เข้ามาเป็นรัฐบาลแรกๆมันฉุกละหุก ทำให้มีการระวังในเรื่องนโยบายที่ไปหาเสียงไว้ในแต่ละพรรค รัฐบาลก็ระมัดระวังในเรื่องงบประมาณ และดูนโยบายภาพรวมของรัฐบาล ขอให้เข้าใจแม้จะเป็นนโยบายพรรค แต่ทั้งหมดก็ต้องผ่านคณะกรรมการให้ความเห็นชอบ ก่อนที่จะนำเข้า ครม. เห็นชอบขั้นตอนสุดท้าย จึงเป็นนโยบายของรัฐบาล
“หากมีเวลาก็จะไปร่วมทานข้าวกับพรรคร่วมรัฐบาล บ่อยๆ ยืนยันไม่ได้ไปสั่งการหรือก้าวล่วง แต่ไปทำความเข้าใจถึงการทำงานและตัวตน”
ส่วนการปรับครม.ยังไม่มีกำหนดกรอบเวลา ขึ้นกับการทำงาน ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องปรับ ส่วนเรื่องพรรคเศรษฐกิจใหม่จะมาร่วมเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เป็นหน้าที่ของแกนนำฝ่ายการเมืองที่จะต้องไปพูดคุยกัน ขอให้มาก่อน จะมาต่อรองตำแหน่งล่วงหน้าไม่ได้ เพราะรัฐมนตรีมีจำนวนเท่านี้ แต่ถ้ามาแล้วจะมาขอตำแหน่ง ก็ต้องไปพูดคุยกันก่อนเพื่อให้ได้ข้อยุติ โดยพรรคเศรษฐกิจใหม่ก็ต้องไปคุยกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ใช่มาคุยกับตน
อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรียอมรับว่าขณะนี้ตัวเองเป็นนักการเมืองเต็มตัวเพราะหากตอบว่าไม่ใช่ก็คงไม่ใช่ แต่มีหลักการ ไม่ใช่ยึดการเมืองเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมีธรรมาภิบาล ยึดมั่นในสิ่งที่ถูกต้อง โดยส่วนตัวยึดอุดมการณ์ 3 สถาบันหลัก คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
Send this to a friend
การแจ้งเตือน