นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ยืนยันว่าตนเองและนายโจชัว หว่อง พบกันครั้งแรกและครั้งเดียวในงานนี้ ภาพถ่ายที่ปรากฏออกมา เป็นการถ่ายหลังจากงานเลิกแล้ว และพบกันภายในงาน พูดคุยกันประมาณ 5 นาที ก่อนแยกย้ายกันไป
“ผมไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มการเมืองใดๆในฮ่องกง และไม่มีเจตนาที่จะทำในอนาคต ภารกิจของผมและพรรคอนาคตใหม่คือการสร้างประชาธิปไตยและความก้าวหน้าของสังคมไทย”นายธนาธรกล่าว
นายธนาธรบอกว่า การสนทนาและถ่ายรูปร่วมกันในหมู่ผู้พูดในงานสัมมนาต่างๆ เป็นเรื่องปกติ ตนเองก็ได้ถ่ายรูปร่วมกับหลายคนในงาน รวมทั้งกับ Shaun L. Rein และมีโอกาสสนทนากับเขาในหลายๆ เรื่อง มากกว่าที่คุยกับโจชัว หว่อง ซึ่ง Shaun มาจาก China Market Research Group ผู้เขียนหนังสือ The War for China’s Wallet วิพากษ์วิจารณ์การประท้วงในฮ่องกงและขึ้นเวทีถกเถียงกับโจชัว หว่อง
นายธนาธรยอมรับว่า ได้พูดถึงฮ่องกง ในระหว่างการบรรยายจริง โดยพูดถึงในลักษณะที่เป็นโมเดลขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคม ในช่วงที่ตนเองและเพื่อนๆกำลังตัดสินใจทำอะไรบางอย่างเพื่อยุติการสืบทอดอำนาจของระบอบคสช.ช่วงปลายปี 60 แต่สุดท้ายเราตัดสินใจตั้งพรรคการเมืองและต่อสู้เพื่อการเปลี่ยนแปลงผ่านระบบรัฐสภาแทน เนื่องจากความสูญเสียจากการสลายการชุมนุมปี 2553 ยังคงบาดลึกอยู่ในสังคมไทย ซึ่งเป็นเรื่องที่พูดผ่านสื่อไปแล้วในหลายๆโอกาส
นายธนาธรบอกว่า ส่วนตัวสนับสนุนการเคารพธรรมนูญการปกครองฮ่องกงหรือ Basic Law ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อฮ่องกงถูกส่งคืนสู่เขตอำนาจอธิปไตยของจีน โดยยึดหลัก “หนึ่งประเทศ สองระบบ” อย่างสมดุล และเคารพสิทธิการเลือกตั้งผู้บริหารฮ่องกงอย่างเป็นประชาธิปไตยตามที่ระบุไว้ใน Basic Law มาตรา 45 โดยสนับสนุนการใช้สิทธิเสรีภาพของประชาชนในการแสดงความคิดเห็นและการแสดงออกโดยสันติ และอยากเห็นสถานการณ์ที่ฮ่องกง คลี่คลายไปได้ด้วยดีโดยไม่มีการใช้ความรุนแรง ซึ่งทางออกที่ดีที่สุด น่าจะเป็นการฟื้นฟูความเชื่อถือและไว้วางใจระหว่างเจ้าหน้าที่กับพลเมืองขึ้นมา ไม่ดำเนินการหรือใช้มาตรการใดๆ ที่ไม่สมควรแก่เหตุ
นายธนาธรขอให้ทุกฝ่ายรับข้อมูลข่าวสารอย่างรอบด้าน ยืนยันอีกว่าสร้างพรรคอนาคตใหม่ขึ้นมาด้วยความปรารถนาดีต่อประเทศ อยากเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันประเทศสู่ประชาธิปไตย สร้างความเสมอภาคเท่าเทียมในสังคม และส่งต่อสังคมที่ดีกว่านี้ให้แก่คนรุ่นต่อไป