นายศักดิ์ศรี สง่าราศรี เจ้าของสวนศักดิ์ศรี หมู่ที่ 2 หมู่บ้านบ่อน้ำร้อน ต.ตาเนาะแมเราะ อ.เบตง จ.ยะลา เปิดเผยว่า ขณะนี้ ทุเรียนโอฉี่หรือหนามดำ เป็นทุเรียนที่มีการปลูกกันมากรองลงมาจากทุเรียนสายพันธุ์ รายากูหงิด หรือ ทุเรียนสายพันธุ์มูซังคิง ในรัฐปีนังและรัฐกลันตัน ของมาเลเซีย ปัจจุบัน กำลังเป็นที่นิยมบริโภคและนำไปปลูกกันมาก โอฉี่หรือหนามดำ และได้ราคาดี โดยราคาที่หน้าสวนอยู่ที่ 650 บาทต่อกิโลกรัม น้ำหนักเฉลี่ยลูกละ 3.5 – 5 กิโลกรัม ราคาต่อลูกจึงอยู่ที่ 2,000 – 3,250 บาทโดยประมาณ
ซึ่ง โดย “ทุเรียนโอฉี่หรือหนามดำ” เกิดจากการที่ นายเหลียว เชือก เกี๋ยง หรือมิสเตอร์เกี๋ยง นำเอาเมล็ดทุเรียนไม่ทราบพันธุ์จากประเทศไทยเมื่อ 30 ปีก่อนไปปลูกจนต้นโตติดผลดกเต็มต้น มีทรงผลสวย เปลือกบาง เมล็ดเล็ก เนื้อสุกเป็นสีเหลืองอมส้ม เหมือนทองคำ เนื้อละเอียดเนียน รสชาติหวานมันและหวานแหลมมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เนื้อเยอะ ที่สำคัญเป็นสายพันธุ์เบา มีดอกและติดผลได้ง่าย หลังปลูกเพียงแค่ 4–5 ปี สามารถมีดอกและติดผลได้แล้ว น้ำหนักผลเฉลี่ยระหว่าง 2-3 กิโลกรัม และไม่มีรสขม
นายศักดิ์ศรี กล่าวว่า หลังได้ศึกษาทุเรียน โอฉี่หรือ หนามดำ ได้ตัดสินใจแตกแขนงธุรกิจเกษตร เพาะต้นกล้าโอฉี่ โดยเอากิ่งพันธุ์จาก สวนทุเรียนของ มิสเตอร์เกี๋ยง และได้เข้ามาดูแลให้เป็นไปตามต้นกำเนิดสายพันธุ์ จนการันตีสายพันธุ์ให้ด้วยตนเอง และนายศักดิ์ศรีได้มีการขยายพันธุ์ด้วยวิธีเสียบยอดออกวางขาย ซึ่งได้รับความนิยมจนมีผู้มาติดต่อซื้อกล้าพันธุ์โอฉี่นำไปปลูกอย่างกว้างขวาง ไม่แพ้ทุเรียนมูซางคิง ปัจจุบันทุเรียนทั้ง 2 ชนิด มีการปลูกเป็นการพาณิชย์เพื่อเก็บผลส่งต่างประเทศ เช่น จีน ฮ่องกง ไต้หวัน ประเทศ ในแถบยุโรป และ อเมริกา ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคอย่างมาก