ยูโอบี แนะกลยุทธ์การลงทุน รับมือความผันผวนทางเศรษฐกิจช่วงครึ่งปีหลัง
ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย แนะนำนักลงทุนให้สร้างพอร์ตการลงทุนแบบปลอดภัย (defensive portfolios) เน้นการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น ลงทุนในสินทรัพย์ผสม (multi-asset) และตราสารหนี้ประเภท Investment Grade (IG) ในช่วงเวลาที่ทั่วโลกกำลังเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว สำหรับนักลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงและมองหาโอกาสในการลงทุนใหม่ ธนาคารแนะนำลงทุนในกลุ่มการดูแลสุขภาพทั่วโลก (Global Healthcare) และกลุ่มเอเชียแปซิฟิกที่ไม่รวมญี่ปุ่น (Asia-ex Japan) อาเซียน (ASEAN) และตลาดจีน (China)
งานสัมมนาได้สำรวจและวิเคราะห์เจาะลึกโอกาสการลงทุนในตลาดหุ้นในเอเชียแปซิฟิกไม่รวมญี่ปุ่น (Asia-ex Japan) ที่ถูกจับตาว่ากำลังเติบโตดีกว่าตลาดที่พัฒนาแล้ว (Developed Markets-DM)
นายเอ็นริโก้ ทานูวิดฮาฮา นักเศรษฐศาสตร์ Global Economic and Market Research ธนาคารยูโอบี เปิดเผยว่าเศรษฐกิจไทยส่งสัญญาณฟื้นตัวภายหลังโควิด-19 และมีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 3 ในปีนี้ อีกทั้งมีความเป็นไปได้ที่จะขยับขึ้นสูงถึงร้อยละ 3.5 ในปี 2567 นอกจากนี้ การฟื้นตัวของธุรกิจท่องเที่ยวและแรงหนุนจากปัจจัยภายนอก ช่วยให้ไทยคงสถานภาพดุลการค้าเกินดุล
“ธนาคารคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อของไทยเฉลี่ยทั้งปีนี้จะอยู่ที่ร้อยละ 2.7 เมื่อเทียบร้อยละ 6 ในปีที่ผ่านมา อัตราเงินเฟ้อที่ต่ำลงนี้จึงส่งผลกระทบเชิงลบน้อยลงต่อสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศโดยรวม และสอดคล้องกับค่าเฉลี่ยของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ประเมินอยู่ที่ร้อยละ 1-3 ธนาคารประเมินว่าในปีหน้าอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยทั้งปีจะลดลงไปอยู่ที่ร้อยละ 2.2 จากระบบห่วงโซ่อุปทานโลกที่เข้าสู่ภาวะฟื้นตัว” นายเอ็นริโก้ กล่าว
ถึงแม้ประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายจากการเข้าสู่สังคมสูงวัย และปัญหาหนี้สินครัวเรือนเพิ่มขึ้น นักเศรษฐศาสตร์ธนาคารยูโอบี ยังเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจของประเทศไทยยังคงสามารถมองหาโอกาสในการพัฒนา จจากภาคการส่งออกอาหารที่มีความเข้มแข็ง การส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล และอี-คอมเมิร์ซ์
นายเอเบล ลิม Head of Wealth Management Advisory and Strategy ธนาคารยูโอบี กล่าวว่าสภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกช่วงครึ่งปีหลังผันผวนอย่างต่อเนื่อง ควรลงทุนในตราสราหนี้ประเภท Investment Grade (IG) เพื่อเพิ่มผลตอบแทนที่สูงขึ้น เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อขึ้นไปแตะจุดสุงสุด ให้ผลตอบแทนสูง และกำไรจากส่วนต่าง ดีกว่าการลงทุนในหุ้นช่วงที่สภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวหรือถดถอย
ส่วนของ Top Ideas นายลิมแนะนำให้ลงทุนในกลุ่มการดูแลสุขภาพทั่วโลก เนื่องจากเป็นหุ้นที่มีความเสี่ยงต่ำ และหุ้นในเอเชียแปซิฟิกที่ไม่รวมญี่ปุ่น อาเซียน และจีน แม้จะยังเจอแรงปะทะในระยะสั้นจากการที่เศรษฐกิจจีนยังไม่ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ และมูลค่าการส่งออกทั่วภูมิภาคเอเชียปรับตัวลดลง แต่ในมุมมองระยะกลาง เป็นไปในเชิงบวก จากการบริโภคในภูมิภาคที่ยังแข็งแรง อีกทั้งระดับมูลค่าหุ้นในกลุ่มนี้ยังอยู่ในระดับที่ต่ำ
นายกิดอน เจอโรม เคสเซล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผลิตภัณฑ์เงินฝากและบริหารการลงทุนบุคคลธนกิจ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่า ธนาคารจะเปิดตัว PAT (Portfolio Advisory Tool) ที่จะช่วยตรวจสอบและบริหารพอร์ตลงทุน โดยธนาคารพร้อมให้คำปรึกษากลยุทธ์การลงทุนในกองทุนรวมในประเทศ และกองทุนรวมต่างประเทศ เพื่อให้นักลงทุนตระหนักถึงความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และกระจายพอร์ตการลงทุนให้หลากหลายเพื่อลดความเสี่ยงจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน