INVESTMENT

GMM MUSIC ทำกำไรทะลุ 350 ล้าน ตั้งเป้าปี 66 รายได้เติบโต 25%

นายภาวิต จิตรกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายธุรกิจ จีเอ็มเอ็ม มิวสิค บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เผย GMM MUSIC ทำรายได้รวมในปี 2565 สูงถึง 3,043 ล้านบาท มีกำไร 355 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตขึ้นของรายได้ที่ 67% ท่ามกลางสการณ์โควิด-19 ส่งผลกระทบต่อทุกธุรกิจและทุกอุตสาหกรรม ไม่เว้นแม้แต่ธุรกิจเพลง ที่ได้รับผลกระทบหนักทั่วโลก พร้อมกันนี้ในปี 2566 ตั้งเป้ารายได้เติบโต 25% ภายใต้ 5 กลยุทธ์หลักในการดำเนินงาน

นายภาวิต เปิดเผยว่า “แม้ต้องเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 มาอย่างยาวนาน และยังเป็นช่วงเวลาแห่งความยากลำบาก ที่ต้องหยุดจัดงานคอนเสิร์ตต่างๆ แต่ GMM MUSIC ก็โชว์ศักยภาพ สร้างการเติบโตแบบสวนกระแส เป็นผลมาจาก 2 กลุ่มธุรกิจหลัก ที่ถือได้ว่าเป็นธุรกิจสำคัญของแหล่งรายได้ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งชี้ถึงโอกาสของการเจริญเติบโตในระยะยาว ประกอบด้วย 1.ธุรกิจ Digital Business ในปี 2565 มียอดรายรับที่ 1,089 ล้านบาท 2.ธุรกิจ Right Management Business ในปี 2565 มียอดรายรับที่ 236 ล้านบาท”

เมื่อได้รับโอกาสสืบเนื่องจากการที่ภาครัฐ มีการผ่อนปรนมาตรการต่างๆ ตลอดจนการเปิดประเทศ ส่งผลดีต่อธุรกิจหลักให้ฟื้นตัว สามารถกลับมาจัดกิจกรรมต่างๆ ทางการตลาดได้เพิ่มขึ้น จะเห็นได้ว่าธุรกิจ Showbiz และธุรกิจ Live Show สามารถกอบกู้สถานการณ์ของบริษัทฯ ในเชิงบวกให้ดีขึ้นแม้มีระยะเวลาการจัดงานเพียง 7 เดือน ทั้งนี้ธุรกิจ Showbiz สร้างยอดรายรับที่ 542 ล้านบาท ส่วนธุรกิจ Live Show สร้างยอดรายรับที่ 410 ล้านบาท

นอกจากผลงานด้านธุรกิจของ GMM MUSIC ที่เติบโตสร้างผลกำไรให้อย่างเป็นรูปธรรม ยังมีอีกหนึ่งส่วนที่เติบโตอย่างเห็นชัดเจนก็คือ กลุ่มมิวสิคคอนเทนต์ (การผลิตเพลงและศิลปิน) ที่สร้างการเติบโตผ่านความร่วมมือกับทุกแพลตฟอร์มดิจิทัล ที่คนไทยนิยมใช้ฟังเพลง สามารถนำคอนเทนต์ที่ผลิตขึ้นให้เกิดความประทับใจ สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึงแ ละตรงกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด จึงทำให้ในปี 2565 ที่ผ่านมา GMM MUSIC มียอดการสตรีม ทั้งหมด 14,000 ล้านการสตรีม เกิดจากการสร้างเพลงใหม่จำนวนทั้งสิ้น 404 เพลง โดยแบ่งออกเป็น 30 อัลบั้ม,153 ซิงเกิล, 44 เพลงประกอบภาพยนตร์ และ 48 เพลงคัฟเวอร์ อีกทั้งถูกนำไปสร้างและแชร์เป็นเพลย์ลิสต์จำนวน 3,817 เพลย์ลิสต์ ซึ่งเพลงใหม่ทั้งหมดนั้น สร้างการสตรีมจำนวน 2,150 ล้านการสตรีม คิดเป็น 16% ของการฟังเพลง GMM MUSIC ทั้งหมด ซึ่งสอดคล้องกับค่าเฉลี่ยการสตรีมเพลงใหม่ของบริษัทยักษ์ใหญ่ในโลก โดยมียอดการสตรีมอยู่ที่ประมาณ 15% หากแยกประเภทของแนวเพลงที่ได้รับความนิยมในการฟังของ GMM MUSIC 3 อันดับแรก คือ เพลงร็อก 40% เพลงลูกทุ่ง 32% และเพลงป๊อป 14%

ทั้งนี้ GMM MUSIC ได้เปิดทิศทางการดำเนินธุรกิจ ปี 2566 ตั้งเป้ารายได้โต 25% เน้นการเติบโตทุกส่วนธุรกิจ เสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจเดิม และสร้างโอกาสขยายตัวธุรกิจใหม่ เพื่อตอกย้ำการเป็น MUSIC INFRASTRUCTURE อันดับ 1 พร้อมเน้น 5 Core Focus เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ พร้อมนำพาทุกธุรกิจของ GMM MUSIC พุ่งทะยานไปสู่เป้าหมายการสร้างรายได้ 3,800 ล้านบาทในปี 2566 นี้อย่างที่ตั้งไว้

สำหรับ 5 Core Focus ของ GMM MUSIC ได้แก่

1.Entertainment Data Intelligence หรือการลงทุนแพลตฟอร์มด้าน Big Data เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ GMM MUSIC ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายผลิต ฝ่ายขาย ฝ่าย Showbiz หรือฝ่ายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

2.No.1 Music Performance in Thai Market ได้แก่การสร้างสรรค์ และจัดวางแบรนด์ศิลปินให้ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ และขยายกำลังการผลิตเพลงเพิ่มเป็น 500 เพลง 32 อัลบั้ม 160 ซิงเกิล 5,000 เพลย์ลิสต์ ต่อปี รวมถึงรักษามาตรฐานการเป็นค่ายเพลง ที่มียอดการสตรีมสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของประเทศ ทั้งจากเพลงใหม่และเพลงเก่า

3.Rebuild The New Generation วางเป้าหมายในการสร้างศิลปินใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งศิลปินร็อก (New Rock Idol),ศิลปินลูกทุ่ง (New Country Idol) และศิลปินป็อปไอดอล (New Pop Idol) พร้อมเดบิวต์สู่ตลาดมากกว่า 15-20 ศิลปินใหม่,สร้างเครือข่าย Recruitment ในการเฟ้นหาเด็กรุ่นใหม่เข้ามาเป็นศิลปินฝึกหัด ผ่านความร่วมมืออย่างเป็นทางการ กับมหาวิทยาลัย สถาบันการศึกษา สถาบันสอน ร้อง-เต้น โมเดลลิ่ง มิวสิคคอมมูนิตี้ โปรดิวเซอร์ และผู้จัดในสาขาต่างๆทั่วประเทศ โดยจะมีการคัดเลือกเข้า-ออกตลอดอย่างต่อเนื่องทั้งปี ด้วยหลักสูตรที่เข้มข้นของ GMM ACADEMY

4.Digital Crossover สร้างรายได้ให้เติบโตสูงสุดในกลุ่ม Digital Music ด้วยความเชี่ยวชาญด้าน Digital Performance และนำความเชี่ยวชาญต่อยอด ในการสร้าง Performance ที่สูงขึ้นในทุกสื่อโซเชียลมีเดียของค่ายและศิลปิน รวมถึงเชื่อมโยงโอกาสระหว่าง Music Marketing, Music Optimization และ Music Playlist ให้เกิดการเติบโตทั้งด้านรายได้ และพฤติกรรมการฟังเพลงของผู้บริโภค

5.No.1 Showbiz in Thailand โดยยึด 7 จุด ยุทธศาสตร์ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ด้าน Music Festival – Indoor Concert ที่ดีที่สุด ใหญ่ที่สุด มีศิลปินมากที่สุด และมียอดผู้ชมมากที่สุด และขยายเข้าสู่โอกาสใหม่ ในการสอดแทรกเข้าสู่ งานเทศกาลประจำจังหวัด งานฮาโลวีน งาน LGBTQ+ งานเทศกาลดนตรีระดับสากล คอนเสิร์ต และงานแฟนมีตติ้ง

Related Posts

Send this to a friend