TTA ประกาศผลประกอบการ ปี 2566 กำไรสุทธิ 1,216.9 ล้านบาท กลุ่มขนส่งทางเรือมีกำไรต่อเนื่อง
บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA เผยผลประกอบการปี 2566 มีรายได้ 23,975.5 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,216.9 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากผลการดำเนินงานที่ดีของกลุ่มธุรกิจขนส่งทางเรือ และกลุ่มธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง ทั้งนี้ กลุ่มธุรกิจขนส่งทางเรือ กลุ่มธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง กลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อการเกษตร กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม และกลุ่มการลงทุนอื่น มีสัดส่วนรายได้ร้อยละ 31 ร้อยละ 40 ร้อยละ 16 ร้อยละ 8 และร้อยละ 5 ของรายได้รวมทั้งหมด ตามลำดับ
TTA มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง ด้วยเงินสดภายใต้การบริหาร จำนวน 8.2 พันล้านบาท และมีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ในระดับต่ำที่ 0.35 เท่า นอกจากนี้ TTA ยังมีกระแสเงินสดสุทธิที่ได้มาจากกิจกรรมการดำเนินงานจำนวน 3,040.8 ล้านบาท และมีอัตราส่วนสภาพคล่องอยู่ที่ 2.50 เท่า สะท้อนถึงสภาพคล่องที่เพียงพอ
นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TTA กล่าวว่า โทรีเซน ชิปปิ้ง ยังคงทำกำไรได้ดีต่อเนื่อง จะเห็นได้ว่าในปี 2566 โทรีเซน ชิปปิ้ง ได้รับสัญญาให้บริการขนส่งท่อส่งน้ำมันเหล็กเคลือบให้แก่โครงการการขนส่งน้ำมันดิบในแถบแอฟริกาตะวันออกเป็นเวลา 3 ปี และมีผู้ใช้บริการขนส่งท่อนซุงในประเทศนิวซีแลนด์และขนส่งปูนซีเมนต์ในแถบแอตแลนติกเหนือเพิ่มมากขึ้น ขณะที่สำนักงานให้เช่าเรือขนส่งที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ก็มีผลประกอบการที่ดีขึ้นตามลำดับ
สำหรับผลการดำเนินงานเมื่อแยกตามแต่ละกลุ่มธุรกิจ มีรายละเอียดดังนี้
1.กลุ่มธุรกิจขนส่งทางเรือ โดย โทรีเซน ชิปปิ้ง รายงานรายได้ค่าระวางที่ 7,369.6 ล้านบาท ปรับตัวลดลงร้อยละ 47 เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากค่าระวางเรือของตลาดที่ปรับตัวลงจากค่าระวางเรือที่สูงเป็นพิเศษในปี 2565 และจำนวนวันทำงานของเรือที่กลุ่มธุรกิจฯ เป็นเจ้าของลดลง อย่างไรก็ตาม อัตราค่าระวางเรือเทียบเท่าเฉลี่ยของกลุ่มธุรกิจฯ ยังสูงกว่าอัตราค่าระวางเรือซุปราแมกซ์สุทธิที่ 10,678 ดอลล่าร์สหรัฐต่อวัน อยู่ที่ร้อยละ 27 อัตราค่าระวางเรือเทียบเท่าสูงสุดอยู่ที่ 28,023 ดอลล่าร์สหรัฐต่อวัน ส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานขนส่งทางเรือ อยู่ที่ 4,258 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัน อยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม อยู่ร้อยละ 16
สรุป โทรีเซน ชิปปิ้ง รายงานผลกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของ TTA จำนวน 1,528.4 ล้านบาท ในปี 2566 โดยเป็นเจ้าของเรือจำนวน 24 ลำ (เรือซุปราแมกซ์ 22 ลำ และเรืออัลตราแมกซ์ 2 ลำ) มีระวางบรรทุกเฉลี่ยเท่ากับ 55,913 เดทเวทตัน และมีอายุเฉลี่ย 15.7 ปี
2.กลุ่มธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง บริษัท เมอร์เมด มาริไทม์ จำกัด (มหาชน) หรือเมอร์เมดฯ รายงานรายได้จำนวน 9,628.6 ล้านบาท ในปี 2566 เพิ่มขึ้นร้อยละ 22 จากปี 2565 นอกจากนี้ อัตราการใช้ประโยชน์ของเรือวิศวกรรมใต้ทะเลเพิ่มขึ้นร้อยละ 91 ในปี 2566 ในส่วนของรายได้งานรื้อถอน งานขนส่งและติดตั้ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 28
สรุป เมอร์เมดฯ รายงานผลกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของ TTA จำนวน 199.9 ล้านบาท ซึ่งปรับตัวดีขึ้นอย่างนัยสำคัญ ยิ่งไปกว่านั้น เมอร์เมดฯ ยังมีมูลค่าสัญญาให้บริการที่รอส่งมอบที่สูงเป็นประวัติการณ์ จำนวน 734.2 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ณ สิ้นปี 2566
3.กลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อการเกษตร บริษัท พีเอ็ม โทรีเซน เอเชีย โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PMTA ในปี 2566 มีรายได้ที่ 3,778.8 ล้านบาท มีปริมาณการขายปุ๋ยรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 18 เป็น 169.3 พันตัน สำหรับปริมาณการขายปุ๋ยในประเทศเวียดนาม คิดเป็นร้อยละ 82 ของปริมาณการขายปุ๋ยทั้งหมด อยู่ที่ 139.1 พันตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 47 เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2565 หากพิจารณาตามประเภทของปุ๋ย ปริมาณการขายปุ๋ยเชิงเดี่ยว เพิ่มขึ้นร้อยละ 66 เป็น 41.6 พันตัน และปริมาณขายปุ๋ยเชิงผสม เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 เป็น 127.7 พันตัน
ส่วนของรายได้จากผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อการเกษตรอื่น ๆ อยู่ที่ 285.5 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 4 เมื่อเทียบกับปี 2565 ขณะที่ รายได้จาการให้บริการจัดการพื้นที่โรงงาน เพิ่มขึ้น ร้อยละ 9 เป็น 109.5 ล้านบาท สรุป กลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อการเกษตร รายงานผลกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของ TTA จำนวน 39.8 ล้านบาท
4.กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม โดย พิซซ่า ฮัท ดำเนินงานภายใต้บริษัทย่อยที่ TTA ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 70 ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 พิซซ่า ฮัท มีสาขาทั้งหมด 185 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งสาขาทั้งหมดที่เปิดใหม่เป็นสาขาที่เปิดตามหัวเมืองใหญ่
ทาโก้ เบลล์ เป็นแฟรนไชส์อาหารเม็กซิกันสไตล์ที่มีชื่อเสียงชั้นนำระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา ดำเนินงานภายใต้บริษัทย่อยที่ TTA ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 70 ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 ทาโก้ เบลล์ มีสาขาทั้งหมด 25 สาขาทั่วประเทศ
5.กลุ่มการลงทุนอื่น (Investment) มุ่งเน้นธุรกิจการบริหารทรัพยากรน้ำและโลจิสติกส์ โดยบริษัท เอเชีย อินฟราสตรักเชอร์ แมเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ AIM ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ TTA ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 91.87 เป็นผู้ออกแบบ ก่อสร้าง และให้บริการครบวงจรทางด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ AIM ยังได้รับสัมปทานในการจำหน่ายน้ำประปาในหลวงพระบาง ประเทศลาว ผ่านบริษัทย่อยที่ AIM ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 100