HUMANITY

‘พรเพ็ญ’ หวั่น ‘ชัยวัฒน์’ ยุ่งเหยิงคดี ‘บิลลี่’ หากกลับเข้าราชการ

‘พรเพ็ญ’ หวั่น ‘ชัยวัฒน์’ ยุ่งเหยิงคดี ‘บิลลี่’ หากกลับเข้าราชการ เตือนผู้มีอิทธิพลเลิกข่มขู่-ฟ้องกลั่นแกล้ง แนะสังคมจับตาเจ้าหน้าที่รัฐ หลังสภาฯ ผ่านกฎหมายซ้อมทรมาน-อุ้มหาย เปิดทางสอบสวนคดีให้กว้างขึ้น

The Reporters คุยกับ นางสาวพรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผู้อำนวยการมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ในโอกาสที่ร่วมรำลึกวันผู้สูญหายสากล ถึงกรณีที่คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นัดหมายให้ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร กับพวก รวม 4 คน มารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมวันนี้ (31 ส.ค. 65) ในคดีฆาตกรรม นายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ แกนนำชุมชนกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี

นางสาวพรเพ็ญ กล่าวว่า ในคดีนี้ บิลลี่ ถูกจับกุมและกระทำให้สูญหายโดยเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งสืบทราบในเวลาต่อมาว่าเป็น นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กับพวก ในช่วงเดือนเมษายน 2557 ซึ่งต่อมาดีเอสไอรับคดีนี้เป็นกรณีพิเศษ แล้วมีหนังสือยืนยันสั่งฟ้อง และพวกรวม 4 คน ข้อหาพยายามฆ่า ซึ่งต่อมาก็ใช้เวลาพอสมควรก่อนที่อัยการสูงสุดจะได้ความเห็นตรงกัน

นางสาวพรเพ็ญ กล่าวถึงนายชัยวัฒน์ว่า มีความพยายามในการอ้างว่ามีคำสั่งทุเลาให้กลับเข้ารับราชการจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งรัฐมนตรีว่าการ (รมว.) ปลัดกระทรวง และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ต่างกำลังยื่นอุทธรณ์ไม่ให้กลับเข้ารับราชการ

“มองว่าหากกลับเข้ารับราชการได้ จะทำให้เกิดปัญหาที่นายชัยวัฒน์อาจเข้ามายุ่งเหยิงกับคดีบิลลี่ กดดัน ข่มขู่ หรือดำเนินการบางสิ่งบางอย่างได้” นางสาวพรเพ็ญ กล่าว

นางสาวพรเพ็ญ ยังแสดงความเป็นห่วงต่อการสื่อสารของผู้ต้องหาที่เป็นผู้ใหญ่และมีอิทธิพลในสื่อสาธารณะ ทำให้ประชาชน ภาคประชาสังคม นักสิทธิมนุษยชน ทนายความ ญาติ รู้สึกถูกข่มขู่ ยืนยันว่ากระบวนการยุติธรรมควรจะต้องเดินไป ไม่ควรให้ฟ้องกลั่นแกล้งกันแบบนี้

สำหรับร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 24 ส.ค. 65 นั้น นางสาวพรเพ็ญ เห็นว่ามีอรรถประโยชน์ที่ทำให้คดีฆาตกรรมต่อจากนี้จะถูกแทนที่ให้เป็นคดีบังคับให้สูญหายได้ตั้งแต่ต้น

“ถ้าสุดท้ายศาลไม่เชื่อว่ามีการฆาตกรรมเกิดขึ้น บิลลี่ก็จะกลายเป็นคนหายใหม่” นางสาวพรเพ็ญ กล่าว

นางสาวพรเพ็ญ ย้ำว่า ร่างกฎหมายใหม่นี้จะเปิดทางการสืบสวนสอบสวนคดีซ้อมทรมานและอุ้มหายให้กว้างขึ้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะริเริ่มนำคดีต่าง ๆ และข้อร้องเรียนมาค้นหาความจริง เพื่อสืบทราบชะตากรรมได้ เริ่มจากหายไปจริงไหม ญาติให้หลักฐานได้ต่อทั้งพนักงานอัยการ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ และเจ้าพนักงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

“การทรมาน การกระทำให้สูญหายเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงที่สุด บุคคลส่วนใหญ่ก็ถูกดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่รัฐ ผ่านการจับกุม ควบคุมตัว นำไปสอบสวน พวกเราจะปลอดภัยโดยการให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายแสดงความบริสุทธิ์ และเราจะได้ตรวจสอบไปด้วยกันว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายไหนใช้อำนาจโดยไม่ชอบ และฝ่ายไหนใช้หน้าที่โดยสุจริต นำผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยใสสะอาด แล้วเราจะปลอดภัยร่วมกัน” นางสาวพรเพ็ญ กล่าวทิ้งท้ายต่อสังคมโดยรวม

เรื่อง : ณัฐนนท์ เจริญชัย
ภาพ : ศุภสัณห์ กันณรงค์

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat