HUMANITY

‘ครูแดง’ หนุนรัฐให้สัญชาติไทย ‘หมอซินเทีย’

‘ครูแดง’ หนุนรัฐให้สัญชาติไทย ‘หมอซินเทีย’ ชี้ ทำคุณประโยชน์ด้านสาธารณสุข-การศึกษา

วันนี้ (17 ก.พ. 66) นางเตือนใจ ดีเทศน์ กรรมการผู้ก่อตั้งมูลนิธิพัฒนาชุมชนและเขตภูเขา (พชภ.) และอดีตสมาชิกวุฒิสภา จ.เชียงราย ให้สัมภาษณ์ถึงการสนับสนุนให้ พ.ญ.ซินเทียค่า หรือหมอซินเทีย ผู้ก่อตั้งแม่ตาวคลินิค อ.แม่สอด จ.ตาก ซึ่งได้รับรางวัลแมกไซไซ สาขาบริการชุมชน ปี 2545 ยื่นขอแปลงสัญชาติเป็นไทยว่า หวังว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย(ม.ท.1) จะให้ความสำคัญกับการขอแปลงสัญชาติของ พ.ญ.ซินเทีย ด้วยคุณสมบัติการทำคุณประโยชน์แก่ประเทศด้านสาธารณสุข ด้านการศึกษา และความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้ทำหนังสือให้การรับรองการทำคุณประโยชน์

นางเตือนใจกล่าวว่า สำหรับขั้นตอนนั้น ต้องผ่านการพิจารณาตามกฎหมายจากระดับอำเภอ ระดับจังหวัด ระดับกรมการปกครอง (อนุกรรมการกลั่นกรอง) จนถึงระดับกระทรวง คือคณะกรรมการกลั่นกรองเกี่ยวกับสัญชาติ และส่งให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยใช้ดุลยพินิจอนุญาตหรือไม่อนุญาต โดยขั้นตอนจากอำเภอถึงส่งถึงระดับกระทรวงควรจะดำเนินไปได้โดยรวดเร็ว เพื่อให้ มท.1 แจ้งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้แปลงสัญชาติ แล้วประกาศรายชื่อในราชกิจจานุเบกษา และขั้นตอนสุดท้าย คือ กรมการปกครองแจ้งจังหวัด อำเภอ ให้ผู้ได้รับพระบรมราชานุญาต ปฏิญาณสาบานตน ว่าจะเป็นพลเมืองดี แล้วดำเนินการเพิ่มชื่อในทะเบียนบ้าน และทำบัตรประจำตัวประชาชน

นางเตือนใจกล่าวว่า คู่มือการแปลงสัญชาติที่กำหนดกรอบเวลาให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 ทั้ง 14 ขั้นตอน นับจาก ผู้ยื่นคำร้องฯ ยื่นคำร้องต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ คือ สำนักทะเบียนอำเภอ จนถึงทำบัตรประจำตัวประชาชน ใช้เวลา 730 วัน

“ดิฉันหวังว่าการทำคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศไทย และมวลมนุษย์อย่างไร้พรมแดนของคุณหมอซินเทีย เป็นเวลากว่า 30 ปี จะทำให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทุกขั้นตอน ตั้งแต่นายอำเภอแม่สอด ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก อธิบดีกรมการปกครอง ปลัดกระทรวงมหาดไทย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะกรุณาอำนวยความสะดวก และใช้เวลาน้อยกว่า 730 วัน” นางเตือนใจ กล่าว

ด้านนายสุรพงษ์ กองจันทึก ที่ปรึกษาประจำคณะกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ สภาผู้แทนราษฎร และประธานมูลนิธิช่วยเหลือทางสังคมเพื่อเด็กและสตรี กล่าวว่าหมอซินทีย เป็นแพทย์ชาวกะเหรี่ยงที่อพยพหนีการสู้รบในพม่าเข้ามาไทยเมื่อกว่า 30 ปีที่แล้ว โดยได้เปิดแม่ตาวคลินิก รับรักษาพยาบาลให้ประชาชนในพื้นที่ชายขอบอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก และพื้นที่ใกล้เคียง ช่วยเหลือให้ประชาชนเหล่านั้นได้เข้าถึงระบบสาธารณสุขอันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน ทั้งช่วยประสานงานและแบ่งเบาภาระงานของโรงพยาบาลของรัฐในพื้นที่

นายสุรพงษ์กล่าวว่า นอกจากนี้หมอซินเทียยังร่วมตั้งและเป็นที่ปรึกษามูลนิธิช่วยเหลือทางสังคมเพื่อเด็กและสตรี (SAW) ในการอุปถัมภ์เลี้ยงดูเด็กที่ถูกทอดทิ้งในแม่ตาวคลีนิคและโรงพยาบาลแม่สอด รวมทั้งเด็กที่ติดเชื้อ HIV และเด็กที่ถูกกระทำความรุนแรง เด็กที่ต้องการความคุ้มครอง ต่อมาขยายไปถึงผู้หญิงที่ติดเชื้อ HIV และถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัวด้วย ปัจจุบันมีผู้หญิงและเด็กผ่านมาช่วยเหลือนับหมื่นคน และมีเด็กกำพร้ายังอยู่ในการดูแลกว่าร้อยคน

ที่ปรึกษา กมธ.กิจการเด็กฯ กล่าวว่าหมอซินเทียได้รับรางวัลและการชื่นชมจากทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้รับรางวัลแม็กไซไซ ในฐานะที่ทำคุณประโยชน์ให้มนุษยชาติและสังคมไทย เมื่อหมอซินเทียซึ่งเป็นชาวกะเหรี่ยงอยู่ในประเทศไทยตลอดมากว่า 30 ปี และทำคุณประโยชน์ในกับสังคมไทยอย่างมากมาย จึงสมควรอย่างยิ่งที่รัฐจะให้สัญชาติไทยในฐานะผู้ทำคุณประโยชน์ช่วยเหลือสังคมไทยอย่างต่อเนื่องเนิ่นนาน และหากได้สัญชาติไทย จะทำให้หมอซินเทียมีศักยภาพในการทำงานช่วยเหลือสังคมไทยมากยิ่งขึ้น

Related Posts

Send this to a friend