ชาวเล เกาะหลีเป๊ะ จี้ มหาดไทยสาวปมที่ดินบนเกาะหลีเป๊ะ
ชาวเล เกาะหลีเป๊ะ มอบค้อน! จี้ มท.สาวปมที่ดินหลีเป๊ะ เปิดเอกสาร รมว.มหาดไทยเคยมีคำสั่งเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ออกมิชอบแล้วตั้งแต่ปี 2533 แต่ไร้การดำเนินการ จนเป็นปัญหาบานปลาย จี้มหาดไทยชี้แจงและเร่งแก้ปัญหาด่วน
วันนี้ (16 ม.ค. 66) ที่กระทรวงมหาดไทย ชาวเลเกาะหลีเป๊ะเข้ายื่นหนังสือและค้อนเพื่อขอให้สะสางปัญหาที่ดินบนเกาะที่เป็นปัญหามาอย่างยาวนาน ต่อ พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ขอให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดินบนเกาะหลีเป๊ะ ซึ่งมีผลการศึกษาแล้วว่าออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และมีคำสั่งของรมว.มหาดไทยให้เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ แล้วตั้งแต่ปี พ.ศ.2533 โดยมีนายสุทธิ ปัญญาสกุลวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายนริศ ขำนุรักษ์) เป็นผู้รับหนังสือ
หนังสือระบุว่า ตามที่มีความขัดแย้งเรื่องที่ดินบนเกาะหลีเป๊ะ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล ซึ่งเกิดความขัดแย้งขึ้นระหว่างภาคเอกชนกับกลุ่มชาวเลอูรักลาโว้ย ที่เกิดจากการทับซ้อนกันของเอกสารสิทธิที่ดิน การแจ้งความครอบครองที่ดินที่ไม่ตรงกับเอกสารสิทธิที่ดินดั้งเดิมคือ สค.1 การออกเอกสารสิทธิที่ดินทับพื้นที่สาธารณะ และบางรายก็มีการรุกที่ดินของโรงเรียนบ้านเกาะหลีเป๊ะ จนนำมาซึ่งการฟ้องร้องคดีอาญาต่อกลุ่มชาวเลอูรักลาโว้ยมากกว่า 30 คดี ในปัจจุบัน
ซึ่งที่ผ่านมาทางรัฐบาลได้ตั้งกรรมการขึ้นมาแล้วหลายชุดด้วยกัน เพื่อศึกษาและหาทางแก้ไขปัญหาที่ดินและที่อยู่อาศัยบนเกาะหลีเป๊ะ โดยกรรมการในแต่ละชุดก็ได้มีผลการศึกษาและมีความเห็นออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อาทิ
ความเห็นของคณะกรรมการชุดที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ได้ร่วมกันตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องการบุกรุกที่ดินบนเกาะหลีเป๊ะ ซึ่งได้นำเสนอผลการตรวจสอบต่อคณะรัฐมนตรีเมื่อ 19 มิถุนายน 2533 โดยมีผลการตรวจสอบว่ามีเอกสารสิทธิที่ดิน สค.1 ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายทั้งสิ้น 17 แปลง และเห็นควรให้จำหน่าย และมี นส.3 อีก 12 แปลงที่ออกมาจาก สค.1 ที่ไม่ชอบ นั่นคือเข้าทำกินหลังจากวันที่ 19 พฤษภาคม 2482 และมีข้อสั่งการให้กรมที่ดินและจังหวัดสตูลเร่งรัดดำเนินการขอเพิกถอน สค.1 จำนวน 17 แปลง และ นส.3 จำนวน 12 แปลง ที่ออกโดยมิชอบตามกฎหมาย
จะเห็นได้ว่าในกรณีปัญหาเรื่องที่ดินบนเกาะหลีเป๊ะ ได้มีการศึกษาและตรวจสอบมาแล้วโดยคณะกรรมการที่ทางรัฐบาลได้แต่งตั้งขึ้น หรือโดยองค์กรอิสระที่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง แต่แล้วกลับพบข้อเท็จจริงว่า ยังไม่มีการดำเนินการตามรายงานหรือความเห็นขององค์กรอิสระใด ๆ และระยะเวลาก็ได้ผ่านมาเนิ่นนานแล้ว ทำให้ความขัดแย้งในเรื่องที่ดินบนเกาะหลีเป๊ะได้ทวีความรุนแรงมากขึ้น จนเกิดการเผชิญหน้ากันระหว่างภาคเอกชนกับชาวเลอูรักลาโว้ย
ดังนั้นทางเครือข่ายชาวเลอันดามันและภาคีเครือข่าย จึงมีข้อเรียกร้องต่อ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตลอดจนผู้บริหารกระทรวงมหาดไทยในทุกระดับดังนี้
1.ขอให้กระทรวงมหาดไทยเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาที่ดิน ที่สาธารณะประโยชน์ บนเกาะหลีเป๊ะตามผลการศึกษาของคณะกรรมการชุดต่างๆ และรายงานขององค์กรอิสระ ให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน
2.ขอให้กระทรวงมหาดไทยได้มีการติดตามผลจากการตรวจสอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยที่เสนอต่อคณะรัฐมนตรีเมื่อ 19 มิถุนายน 2533 ว่ามีความคืบหน้าและมีการดำเนินการต่อเนื่องอย่างไร
3.ขอให้กระทรวงมหาดไทยได้เร่งดำเนินการเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดินที่ออกทับพื้นที่สาธารณะประโยชน์ที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน ภายในเวลา 6 เดือน
ด้านนายสุทธิ ปัญญาสกุลวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายนริศ ขำนุรักษ์) เป็นผู้รับหนังสือ พร้อมระบุว่า เรื่องนี้รัฐบาลได้ให้ความสำคัญ และนายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้งคณะทำงานแก้ปัญหาแล้ว ขอให้พี่น้องสบายใจได้ว่ากระทรวงฯ ไม่ทอดทิ้ง จะเร่งแก้ปัญหา คืนความเป็นธรรม พร้อมจะหยิบคำสั่งกระทรวงมหาดไทยปี 2533 ขึ้นมาดูใหม่ว่าปัญหาเป็นอย่างไร มีสิ่งใดตกค้าง ไม่ได้รับการแก้ปัญหา
ทั้งนี้ ทางชาวเลยังได้กล่าวว่าหากยิ่งดำเนินการล่าช้ามากเท่าไหร่ จำนวนชาวเลที่ถูกฟ้องร้องก็จะมีจำนวนมากขึ้น จึงเร่งให้ทางรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยเร่งแก้ปัญหา