พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และ ทูตไทยในเมียนมา เร่งช่วยเหลือคนไทยเหยื่อค้ามนุษย์ในเมืองเลาก์ก่าย

‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ และ ‘ทูตไทยในเมียนมา’ เร่งช่วยเหลือคนไทยเหยื่อค้ามนุษย์ในเมืองเลาก์ก่าย ยันอยู่ในที่ปลอดภัย 162 คนแล้ว และจะช่วยที่ติดค้างอีกกว่า 62 ให้ได้กลับไทยเร็วที่สุด

วันนี้ (6 พ.ย. 66) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมายังสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง พร้อมด้วย นายรุจ ธรรมมงคล อธิบดีกรมการกงสล พ.ต.ต.สิริวิชญ์ ชาญเตชะสิทธิ์กุล ผอ.กองคดีการค้ามนุษย์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ประชุมร่วมกับ นายมงคล วิศิษฎ์สตัมภ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง ณ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่าการประชุมได้หารือถึงการช่วยเหลือคนไทยจากเมืองเล้าก์ก่าย ประเทศเมียนมา เหยื่อการค้ามนุษย์ ซึ่งได้รับการช่วยออกมาแล้ว 162 คนถูกนำตัวมาพักไว้ที่ค่ายทหารในเมืองเล้าก์ก่าย ซึ่งเป็นสถานที่ปลอดภัย แต่สถานการณ์สู้รบมีต่อเนื่อง ทำให้ต้องหาทางนำตัวทั้งหมดเพื่อให้เดินทางกลับไทย ซึ่งรัฐบาลโดยทางสถานทูต มีแนวทางชัดเจนช่วยคนไทยออกมาให้เร็วที่สุด

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า การช่วยเหลือคนไทยออกจากเมืองเล้าก์ก่าย ต้องพิจารณาถึงการเดินทางจะต้องกระชับเวลา ทำให้เร็วที่สุด จึงต้องวางแนวทางประสานกัน ไม่ว่าจะในส่วนรัฐบาลจีน เมียนมา เพราะนอกจากคนไทยแล้วยังมีคนหลายชาติ ทุกส่วนต้องบูรณาการร่วมกันทั้งหมด แนวทางที่จะช่วยเหลือ ชัดเจนแล้วว่าจะเคลื่อนย้ายอย่างไร แต่ขอเป็นความลับ

“ขอให้ญาติพี่น้องในฝั่งไทย พ่อแม่ที่โทรหาผมด้วยความเป็นห่วง ขอให้มั่นใจว่าลูกท่านยังปลอดภัยอยู่ในการดูแลของทหารรัฐบาลเมียนมา ซึ่งประเทศไทย โดยกระทรวงการต่างประเทศ ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลเมียนมา”

ส่วนที่เหลืออีก 62 คน ที่ยังติดค้างอยู่ตามอาคารในเมืองเล้าก์ก่าย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ทางท่านทูตไทย กำลังเร่งรัดประสานการช่วยเหลือ จึงไม่น่าจะหนักใจอะไร ทุกส่วนก็ต้องทำการช่วยเหลือทุกชาติออกมาก ทางการไทยมีข้อมูลครบแล้ว รอความพร้อมเดินทางไปเล้าก์ก่าย เพื่อยืนยันตัวบุคคล ว่าชื่ออะไรบ้างเข้ามาอย่างไร ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของเมียนมา ซึ่งตนเองได้มอบหมายให้รองบังคับการค้ามนุษย์ ลงพื้นที่ไปร่วมคัดกรองผู้เสียหายด้วย

ขณะที่เอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง เปิดเผยว่าที่ผ่านมา สถานทูตฯ ทำงานกับฝ่ายเมียนมาอย่างใกล้ชิด ซึ่งหลายวันก่อนเกิดเหตุสู้รบเมื่อวันที่ 27 ต.ค. มีคนไทยทยอยออกมา แล้วไปพักคอยที่ค่ายทหาร จนกระทั่งเกิดการสู้รบ ทำให้ต้องเร่งประสานกับทางการเมียนมา เพื่อช่วยคนออกมาได้ 162 คน แต่ทราบว่ายังมีอีกบางส่วนก็ทยอยช่วยเหลือออกมา แต่การทำงานท่ามกลางความเร่งรัดเรื่องเวลา สถานทูต ณ กรุงย่างกุ้ง ขอยืนยันว่าจะทำอย่างดีที่สุด โดยประสานงานอย่างใกล้ชิดกับสถานกุงสุลใหญ่นครคุณหมิง และปักกิ่งของจีน เราทำงานเป็นหนึ่งเดียวทำให้ความช่วยเหลือออกจากเมืองเล้าก์ก่าย ราบรื่นในที่สุด

ส่วนกรณีทางครอบครัวเป็นกังวลเรื่องความเป็นอยู่ภายใต้การดูแของเจ้าหน้าที่ฝ่ายเมียนมา เอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง เปิดเผยว่าได้ประสานกับทหารเมียนมา ในการดูแลอาหารน้ำ การดูแลสุขภาพ ความเป็นอยู่ และต้องขอขอบคุณ มูลนิธิต่างๆที่ช่วยเป็นธุระ ประสานงานค่าใช้จ่ายดูแลคนไทย ทางกรมการกงสุล มาก็ติดตามการช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด

“เป้าหมายของเรา นำคนไทยทุกท่านกลับบ้านอย่างปลอดภัย” เอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง กล่าวย้ำ