
ร้านเสริมสวย ร้านตัดผม เป็นกลุ่มกิจการ กิจกรรมแรกที่ได้รับการผ่อนปรนตามมาตรการคลายล็อกของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) โดยมีมาตรการควบคุมหลักที่ร้านเสริมสวย และร้านตัดผมต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 และสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการ โดยในช่วงแรกร้านสามารถเปิดให้บริการเฉพาะบริการตัดผม สระผม แต่งหรือไดร์ผม โดยจัดร้านให้มีการระบายอากาศเพียงพอ และงดเว้นบริการที่มีความเสี่ยงสูงต่อการสัมผัสถูกสารคัดหลั่งหรือเลือด เช่น แคะหู ตัดขนจมูก ทำเล็บ งดเว้นบริการที่มีระยะเวลานาน เช่น ทำสีผม ยืดผม จัดให้มีระบบนัดคิวล่วงหน้า และให้มารับบริการตามเวลานัด โดยไม่มีการนั่งรอคิวภายในร้าน งดเว้นบริการที่ต้องใช้อุปกรณ์ร่วมกันที่ไม่สามารถทำความสะอาดทันทีหลังการใช้งานของลูกค้าแต่ละคนได้ เช่น อุปกรณ์แต่งหน้า
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จับมือกับ ลอรีอัล ประเทศไทย แผนกผลิตภัณฑ์ช่างผมมืออาชีพ จัดบรรยายให้ความรู้รายละเอียดมาตรการด้านสุขอนามัยสำหรับร้านเสริมสวย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทางเฟซบุ๊ก ไลฟ์ ของ ลอรีอัล ประเทศไทย โดยมีเจ้าของร้านเสริมสวย ช่างผม เจ้าหน้าที่ในร้านเสริมสวย และประชาชนผู้สนใจรับชมการบรรยายออนไลน์ดังกล่าวกว่า 9,000 ครั้ง ตอกย้ำบทบาทของลอรีอัล ในการช่วยเหลือและสนับสนุนธุรกิจร้านเสริมสวยในประเทศไทย และเป็นหนึ่งกิจกรรมในโครงการ L’Oréal Thailand Salon Solidarity
พญ. พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า การพิจารณาจะให้กลับมาเปิดกิจการใดขึ้นอยู่กับว่ากิจการ หรือกิจกรรมนั้นๆ มีความจำเป็นต่อประชาชนหรือไม่ ซึ่งได้มีการพิจารณาแล้วว่าการตัดผม แต่งผม สระไดร์ เป็นส่วนหนึ่งในการใช้ชีวิตประจำวัน และประชาชนยังมีความต้องการการให้มีช่างผมอาชีพมาดูแล แต่เมื่อเปิดกิจการ กิจกรรมใดให้แล้วก็อยากให้ทั้งผู้ประกอบการ และผู้ใช้บริการช่วยกันปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรค โดยเน้นที่การคัดกรองทั้งผู้ให้บริการและผู้รับบริการ การจัดเก็บข้อมูล ความสะอาดของร้านและอุปกรณ์ การลดความแออัดในร้านด้วยการทำระบบนัดไม่มานั่งรอ รวมไปถึงการใช้เวลาในร้านให้สั้นที่สุด
ด้าน นพ. สราวุฒิ บุญสุข รองอธิบดีกรมอนามัย เน้นย้ำในเรื่องการคัดกรอง สอบถามประวัติเบื้องต้นของผู้มาใช้บริการ และเน้นเรื่องการทำความสะอาดทั้งภายในร้าน อุปกรณ์ด้วยน้ำยาทำความสะอาดที่เหมาะสม การจัดเตรียมเจลแอลกอฮอล์ล้างมือไว้ให้บริการ รวมไปจนถึงการพักให้มีการระบายอากาศสำหรับร้านที่ติดเครื่องปรับอากาศ และการป้องกันตัวเองของช่าง ที่ควรใส่หน้ากากผ้า เฟซชิลด์ และเสื้อคลุมโดยขอให้ช่างผมล้างมือให้บ่อย และรักษาความสะอาดอุปกรณ์ทุกชิ้นต่อการใช้งานต่อคน
นางสาวอรอนงค์ ประทักษ์พิริยะ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรและองค์กรสัมพันธ์ บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การปฏิบัติมาตรการด้านสุขอนามัยอย่างถูกต้องนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งสำหรับทุกๆ ฝ่ายในการป้องกันการแพร่ระบาด ลอรีอัล ประเทศไทย ในฐานะพันธมิตรที่เคียงข้างช่างผมมากกว่า 110 ปี รู้สึกยินดีที่ได้ร่วมมือกับกรมอนามัยในการให้ความรู้และสร้างความเข้าใจในมาตรการด้านสุขอนามัยสำหรับร้านเสริมสวย ให้สามารถนำไปปฏิบัติได้ถูกต้องยิ่งขึ้น เพื่อความปลอดภัยของช่างผม พนักงานในร้าน และลูกค้า อีกทั้งเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นของลูกค้าในการเข้ารับบริการในช่วงสถานการณ์โควิด-19 นี้
ทั้งนี้มาตรการสำหรับร้านเสริมสวย ร้านทำผมตามคู่มือการปฏิบัติตามมาตรการผ่อนปรนกิจการและกิจกรรมเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุขที่ออกเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2563 ประกอบด้วย
การเตรียมสถานที่และอุปกรณ์ป้องกันโรค
- ทำความสะอาดโดยการเช็ดทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสของร้าน อุปกรณ์ก่อนและหลังการ ให้บริการ และให้กำจัดขยะมูลฝอยทุกวัน
- เว้นระยะห่างระหว่างเก้าอี้ตัดผม อย่างน้อย 5 เมตร
- ควรให้มีฉากกั้นในการให้บริการ และลดการพูดคุยที่ไม่จำเป็นระหว่างให้บริการ
- พิจารณาควบคุมจำนวนผู้ใช้บริการมิให้แออัด ด้วยการลดเวลาในการทำกิจกรรมให้สั้นลง เท่าที่จำเป็น และงดรอรับบริการภายในร้าน โดยถือหลักหลีกเลี่ยงการติดต่อสัมผัสระหว่างกัน
- ให้มีการเปลี่ยนผ้าคลุมตัดผมทุกครั้งที่ให้บริการ (ผู้รับบริการแต่ละคนไม่ใช้ผ้าคลุมเดียวกัน)
- จัดการให้มีการระบายอากาศภายในร้านที่ดี
- บันทึกข้อมูลของผู้เข้าใช้บริการ หรือในบางพื้นที่อาจเพิ่มมาตรการใช้แอพพลิเคชั่นติดตามตัว
การเตรียมความพร้อมในการให้บริการ
- มาตรการคัดกรองอาการป่วย ไข้ ไอ จาม หรือเป็นหวัด สำหรับพนักงานทุกคน โดยอาจตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายพนักงานทุกคนก่อนเข้าทำงานทุก ครั้ง และให้มีแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมในการดูแล หรือส่งต่อผู้ที่มีอาการป่วยไป สถานพยาบาล
- จัดให้มีการคัดกรองอาการป่วย ไข้ ไอ จาม หรือเป็นหวัด สำหรับผู้ใช้บริการก่อนเข้าร้าน
- ขยายระยะเวลาในการเปิดบริการ เพื่อรองรับการเหลื่อมเวลาการทำงานของพนักงาน
มาตรการในการป้องกันโรค
- สวมหน้ากากผ้า หรือ หน้ากากอนามัยทั้งผู้ให้บริการและผู้มารับบริการ ตลอดเวลาที่อยู่ในร้าน
- งดให้บริการผู้ที่มีอาการดังนี้ มีไข้ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ เหนื่อยหอบ
- เปิดให้บริการได้ เฉพาะการตัดหรือซอย และไดร์ผม เท่านั้น และกำหนดให้ใช้เวลาให้บริการไม่เกิน 1 ชั่วโมง ต่อผู้รับบริการ 1 คน หรือให้บริการในเวลาที่สั้นที่สุด
- กำกับให้ผู้ให้บริการทุกคน สวมอุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล ได้แก่ หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย ถุงมือยาง ผ้ากันเปื้อน และ Face shield เป็นต้น
- จัดเตรียมสถานที่ล้างมือพร้อมสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจล 70% อย่างเพียงพอตลอดระยะเวลาที่ให้บริการ
- หากพบว่าผู้ปฏิบัติงานในร้าน เป็นผู้ป่วยยืนยัน หรือมีข้อมูลบ่งชี้ว่าร้านอาจเป็นจุดแพร่เชื้อ
- ได้ ให้เจ้าของร้านปิดร้านอย่างน้อย 1 วัน ทำความสะอาดสถานที่ และดำเนินการตาม
- ประกาศของกรมควบคุมโรค
- จัดให้มีการบันทึก รายชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์เคลื่อนที่ วันที่และเวลา ของลูกค้าทุกราย
- ที่มาใช้บริการ เพื่อให้สามารถติดตามตัวได้ กรณี ต้องมีการสอบสวนโรค หรือ จัดให้มีการ
- ใช้ระบบกำกับติดตามผ่าน application
- ควรลดการใช้เงินสด และเปิดให้มีการรับชำระเงินผ่าน e-payment
การทำความสะอาด
- จัดให้มีแอลกอฮอล์เจลบริเวณทางเข้าร้านและจุดที่มีการใช้งานร่วมกันบ่อย ๆ เช่น หน้าประตูทางเข้าร้าน และห้องต่างๆ
- ทำความสะอาด ล้างภาชนะอุปกรณ์ เครื่องมือ หรือสิ่งของเครื่องใช้ให้สะอาด ภายหลังมีผู้มาใช้บริการทุกครั้ง ด้วยน้ำยาทำความสะอาด เช่น แอลกอฮอล์ 70% หรือ โซเดียมไฮโปรคลอไรท์ 0.1% หรือ น้ำยาฆ่าเชื้อที่มีส่วนผสมของคลอรีน หรือนึ่งหรือต้มหรืออบด้วยความร้อนที่ อุณหภูมิอย่างน้อย 70°C
- เครื่องใช้ เช่น ผ้าเช็ดผม ผ้ายางพลาสติก ผ้าคลุมตัว ต้องทำความสะอาดทุกครั้ง ก่อนนำกลับมาใช้กับผู้รับบริการรายอื่น
- วัสดุ อุปกรณ์ที่สัมผัสผิวหนังและสารคัดหลั่งของผู้ใช้บริการ เช่น มีดโกน ถุงมือ ไม่นำมาใช้ซ้ำกับผู้รับบริการรายอื่น และทิ้งของมีคมที่ใช้แล้วในภาชนะที่ปลอดภัยและแยกไว้เป็นการเฉพาะ เพื่อนำไปรวบรวมและส่งกำจัดอย่างถูกต้อง
- ห้ามรับประทานอาหารในพื้นที่ให้บริการ
- ทำความสะอาดสถานที่ โต๊ะ เคาน์เตอร์ อุปกรณ์ ทุก 2 ชั่วโมง
- จัดเตรียมเครื่องป้องกันอันตรายส่วนบุคคล ได้แก่ หมวกคลุมผม หน้ากากอนามัย และถุงมือสำหรับพนักงานทำความสะอาด
- จัดให้มีภาชนะรองรับขยะที่มีฝาปิดมิดชิด และมีภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด สำหรับใส่ของมีคมและรวบรวมนำออกจากร้านทุกวัน
- ทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศภายในร้านสม่ำเสมอ
- หากพบว่าผู้ปฏิบัติงานในร้าน เป็นผู้ป่วยยืนยัน หรือมีข้อมูลบ่งชี้ว่าร้านอาจเป็นจุดแพร่เชื้อได้ ให้เจ้าของร้านปิดร้านตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ พร้อมทั้งทำความสะอาดสถานที่ และดำเนินการตามประกาศของกรมควบคุมโรค