ผู้สูงอายุเอาอยู่ ปัญหาผิวแห้งแตกลาย แก้ได้ด้วยการบำรุงถูกวิธี

เลือกน้ำมันธรรมชาติฤทธิ์บำรุงผิวและแก้ปวดข้อ เทคนิคดูแลสุขภาพคูณสอง แพทย์ชะลอวัย บอกต่อวิธีแก้ปัญหาผิวแห้ง ต้องบำรุงให้ถูกวิธี เภสัชกรผู้เชี่ยวชาญสมุนไพรแนะเลือกใช้น้ำมันธรรมชาติ แก้ได้ทั้งผิวแห้งและอาการปวดเมื่อยร่างกาย

ปัจจัยที่ทำให้คุณตาคุณยาย ต้องเผชิญกับปัญหาผิวแห้งแตกลาย โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาวอากาศแห้งอย่างนี้ ส่วนหนึ่งเกิดจากความเสื่อมของร่างกาย ที่ทำให้ผิวไม่สามารถเก็บกักความชุ่มชื่นได้ดีเหมือนแต่ก่อน สภาพอากาศที่แห้งและเย็นลงอย่างกะทันหัน กระทั่งการดื่มน้ำที่น้อยลงในผู้สูงวัย ก็ถือเป็นสาเหตุของผิวแห้งได้เช่นเดียวกัน แม้แต่การทาครีมบำรุงผิวที่ไม่ถูกวิธี หรือทาครั้งเดียวแล้วจบ ก็เป็นสาเหตุแห่งผิวลอกเป็นขุยได้เช่นกัน

The Reporters ได้สอบถามไปยัง พญ.พลอยลดา ธนาไพศาลวรกุล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและเวชศาสตร์ชะลอวัย พร้อมด้วย ภญ.ผกากรอง ขวัญข้าว ผู้ช่วยผู้อำนวยการ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้ให้ความรู้ในการดูแลผิวพรรณ เพื่อแก้ปัญหาผิวแห้งในผู้สูงวัยไว้น่าสนใจ ที่สำคัญสามารถทำตามได้ไม่ยาก หรือหากคุณตาคุณยาย จะกระซิบบอกต่อก๊วนวัยเก๋าก็ไม่มีใครว่า และถ้าจะให้เวิร์คหากบ้านไหนมีน้ำมันจากธรรมชาติอย่าง น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอกติดครัวไว้ รับรองว่าผิวไม่แห้งไม่ลอก และไม่ตกเทรนด์สวยธรรมชาติ ที่วนลูปกลับมาให้เราได้เลือกใช้ เพื่อสุขภาพที่ดีในราคาย่อมเยาอีกด้วย

พญ.พลอยลดา ให้ข้อมูลว่า “ อายุที่เพิ่มมากขึ้นย่อมทำให้ผิวสูญเสียการกักเก็บน้ำไว้ได้ หรือแม้แต่การที่ผู้สูงวัยมักจะดื่มน้ำน้อยลง ก็เป็นสาเหตุของผิวแห้งได้เช่นเดียวกัน ประกอบสภาพอากาศที่แห้งลงในช่วงหน้าหนาว ก็เป็นตัวกระตุ้นให้ผิวแห้งลอกคันได้เช่นเดียวกัน หรือแม้การอาบน้ำอุ่นนานๆ และการฟอกสบู่ถูตัวนานๆก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ปัญหาผิวแห้ง ดังนั้นการรับมือปัญหาผิวแห้งนั้น เพื่อป้องกันการเกาอันเนื่องจากอาการคันผิวแห้ง ซึ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรีย หรือติดเชื้อซ้ำซ้อนที่ผิวหนัง กระทั่งทำให้ติดเชื้อในกระแสเลือดในที่สุดนั้น นอกจากการอาบน้ำอุ่นให้น้อยลง ฟอกสบู่ที่ผิวให้น้อยลงแล้ว การบำรุงผิวให้ถูกวิธีก็เป็นสิ่งที่สำคัญ ทั้งนี้แนะนำว่าหลังจากที่ผู้สูงอายุอาบน้ำแล้ว ให้บำรุงผิวด้วยโลชั่นก่อนเป็นชั้นแรก จากนั้นให้ทาน้ำมันจากธรรมชาติทาทับลงไปอีก 1 ชั้น เช่น น้ำมันมะพร้าว หรือ น้ำมันมะกอก ทั้งนี้เพื่อให้น้ำมันจากธรรมชาติ เป็นตัวล็อคความชุ่มชื่นให้กับผิวของผู้สูงอายุ ที่มักจะแห้งกร้านได้ง่ายนั่นเอง ที่สำคัญน้ำมันจากธรรมชาติก็มักจะหาได้ง่ายในปัจจุบัน ดังนั้นจึงมีควรมีติดบ้านไว้ ก็เป็นเทคนิคคืนความชุ่มชื่นให้ผิวได้อย่างง่ายๆค่ะ

นอกจากนี้การดูแลสุขภาพภายใน เพื่อป้องกันโรคหวัดหรือโรคทางเดินหายใจ ที่มาพร้อมอากาศหนาวเย็น ผู้สูงวัยต้องให้ความสำคัญเช่นกัน หมอแนะนำว่าให้ผู้สูงวัยรับประทานอาหาร ให้เพียงพอและครบหมู่ อย่าให้ขาดทั้งผักผลไม้หลากสี กินคาร์โบไฮเดรตหรือแป้งอย่างพอเหมาะ อย่าลืมกินโอเมก้า3 จากปลาน้ำจืดที่เราได้ เช่น ปลาทู ปลาช่อน และไขมันชนิดดี อีกทั้งต้องไม่ลืมกินโปรตีน รวมถึงยังสามารถกินวิตามิน เพื่อเสริมความแข็งแรงได้เล็กน้อย พยายามไม่ไปออกไปอยู่ในที่อากาศเย็นและชื้น เพื่อเสี่ยงทั้งโรคหวัดและผิวแห้งได้ ดังนั้นควรอยู่ที่มีอุณหภูมิอุ่นๆ ใส่เสื้อกันหนาวตลอด และใส่ถุงเท้าเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น เลี่ยงการดื่มสุราเพราะผู้สูงอายุ มักควบคุมอุณหภูมิในร่างกายไม่ได้ เราจึงเห็นคนดื่มสุราในหน้าหนาวเสียชีวิต เพราะร่างกายสูญเสียความร้อน จากการที่เส้นเลือดขยายตัว และต้องอยู่ในสภาพอากาศเย็นจัด อีกทั้งสุราหรือแอลกอฮอล์ทำให้ร่างขาดน้ำ เพราะมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ดังนั้นจึงแนะนำให้ผู้สูงอายุดื่มชาอุ่นๆ ที่ช่วยป้องกันโรคหวัด และเติมน้ำให้ผิวชุ่มชื่นไม่แห้งกร้านจะดีที่สุดค่ะ”

ด้าน ภญ.ผกากรอง ให้ข้อมูลว่า “ การบำรุงผิวของผู้สูงอายุนั้น สามารถทาครีมบำรุงผิวปกติได้ แต่ถ้าผู้สูงวัยท่านใดที่มีผิวแห้งกร้านมากๆ แนะนำว่าให้เลือกใช้ “น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น” เนื่องจากเป็นน้ำมันที่ไม่ผ่านความร้อน และไม่ใช้ตัวทำละลายเพื่อสกัดเอาน้ำมันออกมา ซึ่งปกติตัวทำละลายจะเป็นสารเคมี ก็จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวได้ แบบปลอดสารเคมี นอกจากนี้สามารถใช้ “น้ำมันรำข้าวสกัดเย็น” ที่ช่วยทั้งบำรุงผิวและช่วยลดอาการปวดแขนปวดขาได้ หรือแม้แต่ “น้ำมันงา” ที่มีสรรพคุณช่วยลดการอักเสบ ของข้อต่อต่างๆในร่างกาย และยังช่วยบำรุงผิวไม่ให้แห้งกร้านอีกด้วย”