HEALTH

บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก แนะ คนทุกวัยใส่ใจการดูแลสุขภาพฟันทั้งช่องปาก ลดปัญหาสูญเสียฟัน

ทันตแพทย์หญิงสุชาดา ก้องเกียรติกมล ผู้ช่วยผู้อำนวยการคลินิกทันตกรรม บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก (BDMS Wellness Clinic) ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการบูรณะฟันทั้งปาก หรือ การรักษาสุขภาพฟันทั้งหมดทุกซี่ในช่องปาก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ฟันมีสภาพสมบูรณ์ สามารถบดเคี้ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงส่งเสริมสร้างบุคลิกภาพ ด้วยการมีรอยยิ้มที่สวยงามมากยิ่งขึ้น และส่วนหนึ่งเพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพอื่นๆที่ร้ายแรงตามมา หากไม่ได้รับการดูแลรักษาสุขภาพช่องปาก

ทันตแพทย์หญิงสุชาดา กล่าวว่า “เมื่อไรถึงจำเป็นจะต้องบูรณะฟันทั้งปาก โดยผู้ที่ควรบูรณะฟันทั้งปาก ไม่เกี่ยวว่าจะต้องอายุเท่าไหร่หรือว่าเพศอะไร เนื่องจากส่วนใหญ่เกิดขึ้นจาก พฤติกรรมการรับประทานอาหาร และการดูแลรักษาฟันที่ดีเป็นหลัก โดยเฉพาะผู้ที่มีฟันผุลุกลามหลายซี่ สูญเสียฟัน ฟันบิ่น ฟันแตก ฟันหักหลายซี่ มีปัญหาขากรรไกร คนที่นอนกัดฟันจนฟันสึกโดยไม่รู้ตัว มีปัญหาเหล่านี้สะสมมาเป็นเวลานาน ผู้ป่วยที่มีความผิดปกติทางโครงสร้างของฟัน หรือผู้ที่เป็นโรคกรดไหลย้อน รวมไปถึงการรับประทานอาหารที่มีรสจัด ที่มีกรดกัดกร่อนชั้นเคลือบฟัน ปัจจัยต่างๆเหล่านี้คนทั่วไป อาจจะมองเป็นปัญหาเพียงเล็กน้อย และมาหาทันตแพทย์ในตอนที่ปัญหานั้นเริ่มลุกลาม ซึ่งมีโอกาสที่จะสูญเสียฟัน หรือโรคร้ายแรงเกิดขึ้นได้”

ขณะที่คนไข้ที่มีปัญหาฟันสึกสะสม อาจจะไม่ได้มีแค่อาการปวดฟัน แต่จะมีอาการปวดไปถึงขากรรไกรและกล้ามเนื้อ ซึ่งบางทีลามไปถึงอาการปวดหัวและคอ บ่า ไหล่ได้ จนทำการรักษาผิดจุด บางรายไปทำการรักษากับแพทย์กายภาพบำบัด และหาต้นตอของสาเหตุไม่เจอ เนื่องจากไม่ได้แก้ที่ต้นเหตุของปัญหา

สำหรับขั้นตอนบูรณะฟันทั้งปาก จะเริ่มต้นจากการที่ทันตแพทย์จะตรวจวินิจฉัย ซึ่งเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด และทำการออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคล ด้วยความชำนาญของทันตแพทย์และเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการรักษา อาทิ เอกซเรย์ 3 มิติ (Cone Beam CT), ใช้ Software ในการออกแบบรอยยิ้ม, การสแกนภายในช่องปากด้วย Intraoral Scanner เป็นต้น

สำหรับระยะเวลาในการรักษา ขึ้นอยู่กับปัญหาสุขภาพฟันและช่องปากของผู้ป่วย ซึ่งแต่ละบุคคลจะมีความแตกต่างกันไป โดยบางรายใช้ระยะเวลา 6-12 เดือน เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความเกี่ยวข้องกับระบบทางเดินอาหาร ในกลุ่มคนไข้ที่เป็นกรดไหลย้อน จะพบว่าในช่องปากจะมีฟันที่สึกมากๆ เพราะกรดจากกระเพาะไหลย้อน เข้าไปในช่องปากและกัดกร่อนฟัน บางรายเกิดจากกรณีเกิดจากความเป็นกรดเป็นด่าง ของน้ำลายที่มีความเสี่ยงให้เกิดฟันผุ หรือ เกิดจากโรคปริทันต์ อาทิ เหงือก เอ็นยึดปริทันต์ เคลือบรากฟัน และกระดูกเบ้าฟัน ซึ่งจะมีความสัมพันธ์ กับจำนวนหินปูนที่มีอยู่ในช่องปาก หากมีหินปูนจำนวนมากเชื้อแบคทีเรีย ก็จะไปอยู่ที่บริเวณนั้นและเข้าไปอยู่ในบริเวณเหงือก ทำให้เหงือกกร่อนกระดูกละลาย ฟันโยก และท้ายที่สุดอาจทำให้สูญเสียฟันซี่นั้นไป หากเป็นกรณีที่ไม่ได้มีความซับซ้อน ในการรักษาก็จะใช้ระยะเวลาน้อยกว่า 6 เดือน ซึ่งควรรักษากับทันตแพทย์ ที่มีความชำนาญเฉพาะทาง เพื่อผลลัพธ์ที่น่าพอใจและความสำเร็จในการรักษา

ทั้งนี้การรักษาแบบบูรณะฟันทั้งปาก ช่วยให้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น เปรียบเสมือนการยกเครื่องใหม่ทั้งหมด ทั้งในด้านการใช้งานของฟัน รวมไปถึงข้อต่อขากรรไกรและกล้ามเนื้อ ให้มีพัฒนาของการบดเคี้ยวให้มีประสิทธิภาพ ทานอาหารได้อร่อยขึ้น เมื่อได้รับการรักษา อย่างถูกต้องเหมาะสมแล้ว การติดตามผลสำหรับกรณี การบูรณะฟันทั้งปากยังคงเป็นสิ่งที่จำเป็น อย่างกรณีคนไข้ที่ทำครอบฟันทั่วไปยังคงต้องพบทันตแพทย์ ที่มีความอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำทุกๆ 6 เดือนเพื่อตรวจดูสุขภาพช่องปากและฟัน ส่วนผู้ที่มีการใส่รากเทียมไปหลายๆซี่ หรือมีภาวะโรคปริทันต์อักเสบ หรือ เหงือกอักเสบ เรื้อรัง ควรพบทันตแพทย์บ่อยครั้งทุก 3 เดือน เพื่อรักษาการบูรณะให้มีความทนทานในการใช้งานให้ดีที่สุด

สำหรับบีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก เน้นการตรวจและวางแผนรักษาเฉพาะแบบบุคคล โดยทีมทันตแพทย์ที่มีความชำนาญการ พร้อมด้วยเครื่องมือ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย ที่ตอบโจทย์ทุกปัญหาสุขภาพช่องปากและฟัน

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat