หมออายุรกรรมสมองเฉลย แคะจมูก – ถอนขนจมูกทำเสี่ยงอัลไซเมอร์จริงหรือไม่
เตือนคนที่มีพฤติกรรมชอบแคะจมูก ดึงขนจมูก เสี่ยงติดเชื้อ อักเสบ กระทบสมอง
จากที่มีการแชร์กันทางโลกออนไลน์อย่างกว้างขวางระบุว่า “อย่าแคะขี้มูก-อย่าถอนขนจมูกบ่อย เสี่ยงป่วยเป็นโรคสมองเสื่อมอัลไซเมอร์” โดยอ้างอิงผลการศึกษาในต่างประเทศว่าผู้ป่วยอัลไซเมอร์ระยะท้ายมักมีร่องรอยของเชื้อแบคทีเรีย Chlamydia pneumoniae ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่ก่อโรคปอมบวม-ปอดอักเสบ อันเกิดจากพฤติกรรมแคะจมูก-ถอนขนจมูก
The Reporters ได้สอบถามไปยัง นายแพทย์สุวินัย บุษราคัมวงษ์ แพทย์อายุรกรรมสมอง แผนกประกันสังคม รพ.กล้วยน้ำไท1 เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวเพื่อคลายความสงสัย
นายแพทย์สุวินัย ให้ข้อมูลว่า “โดยทฤษฏีของการติดเชื้อ และทำให้เกิดอาการปอดอักเสบ ไม่ได้ทำให้เกิดอัลไซเมอร์แต่อย่างใด เพราะอัลไซเมอร์จำเป็นต้องติดตามอาการระยะยาวในคนไข้ ประกอบกับโรคสมองเสื่อม และตามมาด้วยอาการอัลไซเมอร์นั้น เป็นโรคที่ยังไม่รู้สาเหตุของการเกิดโรคด้วยซ้ำ”
อย่างไรก็ตาม นายแพทย์สุวินัยระบุว่า ในคนปกติการแคะจมูก ถอนหรือดึงขนจมูกบ่อยๆ มีความเสี่ยงเกิดการอักเสบ และมีเลือดออกที่บริเวณเนื้อยุบุในโพรงจมูกได้จริง แต่ในผู้ที่มีร่างกายอ่อนแอ หากมีพฤติกรรมแคะจมูก ถอนขนจมูกเป็นประจำ จนทำให้เกิดการอักเสบและติดเชื้อได้บ่อยๆ เมื่อนั้นจะทำให้คนไข้ได้รับผลกระทบต่อสมอง เพราะจมูกและสมองมีส่วนที่เชื่อมโยงถึงกัน และการที่สมองอักเสบรุนแรงบ่อยๆ ก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความผิดปกติทางสมองได้
“การติดเชื้อและอักเสบรุนแรง ในที่นี้ หมายถึงการติดเชื้อจนต้องเข้ารับการรักษาในห้อง ICU เป็นเวลานานๆ และคำว่าบ่อยๆ ก็หมายถึงเกิดขึ้นเกินกว่า 3 ครั้ง ซึ่งหากมีความรุนแรงและความบ่อยในระดับนั้น ก็อาจทำให้เกิดโรคสมองอักเสบได้ และอาจเชื่อมโยงไปถึงการเกิดอัลไซเมอร์ แต่การติดเชื้อแบคทีเรียที่ปอด และทำให้ปอดอักเสบไม่บ่อย และไม่รุนแรงจากพฤติกรรมดังกล่าว ก็ไม่ได้ทำให้เป็นโรคอัลไซเมอร์แต่อย่างใดครับ” นายแพทย์สุวินัย กล่าว
นายแพทย์สุวินัย อธิบายเพิ่มเติมว่า โรคสมองเสื่อม คือกลุ่มโรคที่ทำให้สมองเกิดความเสื่อม มีทั้งโรคสมองเสื่อมที่หาสาเหตุได้ เช่นสาเหตุจากเนื้องอก หรือขาดวิตามินบางอย่าง และโรคสมองเสื่อมที่หาสาเหตุไม่ได้ ส่วนอัลไซเมอร์คืออาการของโรคสมองเสื่อม ที่ยังหาสาเหตุไม่ได้ แต่คนมักเข้าใจผิดโดยเรียกรวมทั้ง 1 โรค และ 1 อาการของโรค รวมเป็นอันเดียวกันว่า “โรคสมองเสื่อมอัลไซเมอร์” นั่นเอง แต่อันที่จริงแล้วเป็นคนละอันกัน แต่มีความเกี่ยวข้องกันเท่านั้น
