อย.เตือน ผู้บริโภคเช็กก่อนซื้อ ทดสอบก่อนใช้ ผลิตภัณฑ์กำจัดขนเสี่ยงแพ้ได้ง่าย
วันนี้ (8 ก.พ. 66) เภสัชกร วีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เผยว่าล่าสุด อย.ออกประกาศเตือน กรณีมีผู้ใช้ครีมกำจัดขนแล้วเกิดอาการระคายเคือง เป็นผื่นแดง เนื่องจากผลิตภัณฑ์กำจัดขน มีฤทธิ์เป็นด่างค่อนข้างสูง อาจเกิดการแพ้ได้ จึงแนะนำให้เช็กก่อนซื้อ ทดสอบก่อนใช้ อ่านฉลากให้ถี่ถ้วน เพื่อความปลอดภัย และใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดขนเฉพาะแขนและขาเท่านั้น เลี่ยงใช้บริเวณร่มผ้าอื่นๆ
เภสัชกร วีระชัย กล่าวว่า “กรณีมีกระแสในโลกโซเชียล ล่าสุดมีคำเตือนผู้ใช้ครีมกำจัดขนให้ทดสอบกับผิวก่อน เพราะมีผู้ใช้เกิดอาการ ระคายเคือง เป็นผื่นแดง โดยเฉพาะบริเวณผิวข้อพับที่แขนและขา เนื่องจากผลิตภัณฑ์กำจัดขน เป็นเครื่องสำอางที่มีส่วนประกอบของสารเคมี ที่มีฤทธิ์เป็นด่าง โดยสารเคมีจะเข้าไปละลายโครงสร้างเคราตินโปรตีน ของเส้นขนที่อยู่เหนือผิวหนัง ทำให้เส้นขนนุ่มลงและขาดออกจากรากขนได้ง่าย จึงอาจก่อให้เกิดการแพ้และระคายเคืองได้ อย.ขอแนะนำให้ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดขน “เช็กก่อนซื้อ” และ “ทดสอบก่อนใช้”
“สำหรับการเช็กก่อนซื้อ แนะนำให้อ่านฉลากให้เข้าใจและปฏิบัติตามวิธีใช้ รวมทั้งคำเตือนอย่างเคร่งครัด ตรวจสอบว่ามีฉลากภาษาไทย และระบุรายละเอียดครบถ้วน ตามที่กฎหมายกำหนด ได้แก่ ชื่อเครื่องสำอาง ชื่อทางการค้า ประเภทหรือชนิดของเครื่องสำอาง ชื่อของสารทุกชนิดที่ใช้เป็นส่วนผสม วิธีใช้ ชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิตหรือผู้นำเข้า ปริมาณสุทธิ ครั้งที่ผลิต เดือนปีที่ผลิตและหมดอายุ คำเตือน ที่สำคัญต้องมีเลขที่ใบรับจดแจ้ง และควรซื้อจากร้านค้า หรือแหล่งจำหน่ายที่น่าเชื่อถือ”
“ส่วนการทดสอบก่อนใช้ ทาเครื่องสำอางในปริมาณเล็กน้อย ที่บริเวณท้องแขนหรือหลังใบหู ทิ้งไว้ 24 – 48 ชั่วโมง หากพบความผิดปกติ เกิดผื่นแดง คัน ระคายเคือง ห้ามใช้ผลิตภัณฑ์นี้ แต่หากไม่พบความผิดปกติใดๆ สามารถใช้ได้โดยให้สวมถุงมือขณะใช้ ระวังอย่าให้เข้าตา หากเข้าตาต้องรีบล้างออกด้วยน้ำสะอาด รีบปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร ควรเก็บให้พ้นมือเด็ก ผลิตภัณฑ์ประเภทนี้เหมาะสำหรับใช้กำจัดเส้นขนบริเวณแขนและขาเท่านั้น ไม่ควรใช้กับใบหน้าเพื่อกำจัดหนวด เครา หรือขนคิ้วเด็ดขาด รวมถึงบริเวณที่ลับใต้ร่มผ้า หรือผิวหนังบริเวณใกล้อวัยวะเพศ หรือเส้นขนในรูจมูกซึ่งเป็นผิวหนังที่บอบบาง อย่าใช้ผลิตภัณฑ์ถ้าผิวหนังมีรอยแดง ระคายเคืองหรือมีบาดแผล ถ้าใช้แล้วมีอาการผิดปกติ ควรหยุดใช้ทันทีและปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร ไม่แนะนำให้ใช้ซ้ำบ่อยๆ ในบริเวณเดียวกัน เพราะอาจส่งผลต่อการระคายเคืองผิวหนังบริเวณนั้น”