ตลาดกาแฟไทยโตต่อเนื่อง ทั้งบริโภคในประเทศ และส่งออก
สนค. ชี้ ไทยมีศักยภาพด้านการแปรรูปกาแฟดิบเป็นกาแฟสำเร็จรูปเพื่อส่งออก แนะผู้ประกอบการเร่งปรับตัว ดันส่งออกขยายตัวไปยังตลาดใหม่
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ข้อมูลจาก Euromonitor International รายงานมูลค่าตลาดกาแฟไทย พบว่ากาแฟเป็นสินค้าที่มีความต้องการเพิ่มขึ้น โดยมูลค่าตลาดกาแฟไทยเติบโตต่อเนื่อง ในช่วงระยะเวลา 3 ปี (2564–2566) มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ร้อยละ 8.55 ต่อปี ขณะที่ปี 2566 มีมูลค่าตลาด 34,470.3 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 7.34
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณายอดขายตามประเภทกาแฟ ในปี 2566 พบว่ากาแฟสำเร็จรูปมีมูลค่าตลาดถึง 28,951.3 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 84 ของมูลค่าตลาดกาแฟในประเทศ และกาแฟสดมีมูลค่าตลาด 5,519.1 ล้านบาท มีปัจจัยสนับสนุนจากความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มวัยทำงาน สภาพอากาศที่ร้อนของไทย และไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคปัจจุบันที่ต้องการความสะดวกในการบริโภคเครื่องดื่ม
ในปี 2566 ประเทศไทยมีผลผลิตกาแฟ 16,575 ตัน แบ่งเป็นพันธุ์อาราบิก้า ร้อยละ 48.2 และโรบัสตา ร้อยละ 51.8 เมื่อพิจารณามูลค่าการนำเข้ากาแฟ พบว่าการนำเข้ากาแฟของไทยเติบโตต่อเนื่อง แบ่งเป็นนำเข้ากาแฟดิบ 184.76 ล้านเหรียญสหรัฐ (62,171.01 ตัน) กาแฟคั่ว 27.55 ล้านเหรียญสหรัฐ (1,647.14 ตัน) และกาแฟสำเร็จรูป 126.11 ล้านเหรียญสหรัฐ (15,947.11 ตัน) ทั้งนี้ ในปี 2566 ไทยนำเข้าเมล็ดกาแฟดิบจากเวียดนามมากที่สุด รองลงมา ได้แก่ อินโดนีเซีย และ สปป.ลาว
ขณะที่มูลค่าการส่งออกกาแฟของไทยก็ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2566 ไทยมีมูลค่าการส่งออกกาแฟ 125.89 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 15.59 เมื่อเทียบกับปี 2565 (108.92 ล้านเหรียญสหรัฐ) แบ่งเป็น กาแฟดิบ 2.20 ล้านเหรียญสหรัฐ (255.18 ตัน) กาแฟคั่ว 2.75 ล้านเหรียญสหรัฐ (243.23 ตัน) และกาแฟสำเร็จรูป 120.95 ล้านเหรียญสหรัฐ (24,517.72 ตัน) ส่วนตลาดส่งออกกาแฟสำเร็จรูปอันดับหนึ่งของไทยในปี 2566 คือ กัมพูชา รองลงมา ได้แก่ สปป.ลาว และฟิลิปปินส์
นายพูนพงษ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ตลาดกาแฟของไทยมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งการบริโภคในประเทศ และการแปรรูปเพื่อส่งออก ประเทศไทยมีศักยภาพในการแปรรูปกาแฟดิบเป็นกาแฟสำเร็จรูปเพื่อการส่งออก ซึ่งถือเป็นจุดเด่นที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า ปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสำคัญกับประเด็นด้านสุขภาพและความยั่งยืนมากขึ้น ดังนั้น ผู้ผลิตและผู้ประกอบการไทยต้องปรับตัวให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะช่วยให้การส่งออกกาแฟไทยไปยังตลาดคู่ค้าใหม่ ๆ มีโอกาสขยายตัว
