‘พ.ต.อ.ทวี’ เผย จับกุม ‘แป้ง นาโหนด’ ได้แล้วที่อินโดนีเซีย

‘พ.ต.อ.ทวี’ เผย จับกุม ‘แป้ง นาโหนด’ ได้แล้วที่อินโดนีเซีย หลังหนีเที่ยวที่บาหลี ยัน เป็นตัวจริง พร้อมรับตัวมาดำเนินการต่อที่ไทยพรุ่งนี้
วันนี้ (30 พ.ค. 67) ที่ทำเนียบรัฐบาล พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ว่า ทางรัฐบาล และทางการอินโดนีเซียได้ทำการจับกุม นายเชาวลิต ทองด้วง หรือแป้ง นาโหนด ได้ที่บาหลี และในวันพรุ่งนี้จะประสานเพื่อรับตัวกลับมาจากจากาตาร์
สืบเนื่องจากนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กระทรวงยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงการต่างประเทศ ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และเมื่อวันศุกร์ – เสาร์ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้ให้ตนเองบินไปที่ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อประสานกับทางการอินโดนีเซีย พร้อมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงยุติธรรม หรือกรมราชทัณฑ์ ป.ป.ส. และอธิบดีดีเอสไอ รวมถึงมอบพลเอก นิพัทธ์ ทองเล็ก ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการต่างประเทศ เนื่องจากนายเชาวลิต จากประเทศไทย ได้ปลอมแปลงพาสปอร์ต เข้าประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งอยู่อย่างระมัดระวัง โดยจะอาศัยอยู่ที่เมืองเมดัน บาหลี และอีกหลายแห่ง ซึ่งทางตำรวจอินโดนีเซียให้ความร่วมมืออย่างดียิ่ง จนกระทั่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้มีการจับกุมตัวได้ และเมื่อสักครู่ได้มีการวิดีโอคอลกับตนเอง เพื่อสอบปากคำ ซึ่งยืนยันว่าเป็นตัวจริง
พันตำรวจเอกทวี ระบุว่า ต้องขอขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเฉพาะกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 กระทรวงยุติธรรม และได้ตั้งดีเอสไอ ป.ป.ส. หน่วยงานราชการติดตามมาตลอด จนกระทั่งได้เบาะแส และที่สำคัญอย่างยิ่ง อาจได้เครือข่ายอาชญากรรมเกี่ยวกับยาเสพติดที่เราไปสืบมา ซึ่งงานเป็นการร่วมมือกันระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อประสานงาน
พันตำรวจเอกทวี ย้ำว่า เราติดตามเรื่องนี้มาตลอด โดยเฉพาะมีผู้หญิงหลายคนบินไปหา ซึ่งไม่ใช่คนในครอบครัว และโยงไปถึงการจับคนอินโดนีเซียไปเรียกค่าไถ่เมื่อเร็ว ๆ นี้ด้วย แต่ในเรื่องรายละเอียด ขอให้เป็นเรื่องของการสืบสวนสอบสวน ซึ่งหากนำตัวมาแล้วจะมีข้อมูลมากกว่านี้
ส่วนขั้นตอนการรับตัว ต้องรอดูว่าทางประเทศอินโดนีเซีย จะมีขั้นตอนทางกฎหมายหรือไม่เนื่องจากว่ามีการถือหนังสือเดินทางปลอม ก่อนหน้านี้ก็เคยโดนตรวจหลายครั้ง แต่แกล้งเป็นคนใบ้ ไม่สามารถสื่อสารได้
พันตำรวจเอกทวี ระบุว่า การสืบสวนเริ่มมาจากฝั่งประเทศไทย และเพิ่งประสานทางประเทศอินโดนีเซียให้ทราบ โดยต้องยอมรับในความสามารถของเจ้าหน้าที่ตำรวจอินโดนีเซีย ตนเองได้เดินทางไป 2 – 3 วัน ดูวิธีการสืบสวนสอบสวนของอินโดนีเซีย ถือว่ามืออาชีพ และขอให้มั่นใจว่าจะทำอย่างเต็มที่ ขอให้เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม พร้อมทั้งช่วงหลังมานี้ มีการประสานกับทางการอินโดนีเซียในเรื่องการแก้ไขปัญหาเรื่องยาเสพติด ถือเป็นความร่วมมือที่ดี
พันตำรวจเอกทวี ยืนยันว่า เราทำงานเต็มที่หลังจากคว้าน้ำเหลวในการปิดล้อม เราก็ได้ติดตาม ซึ่งต้องยอมรับว่านายเชาวลิต เป็นมืออาชีพ เจ้าหน้าที่ตำรวจจากอินโดนีเซียก็บอกว่าเขาเป็นมืออาชีพ
การจับกุมได้ที่บาหลี เนื่องจากว่า นายเชาวลิตเดินทางไปเที่ยว เพราะรู้สึกสบายใจ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้พักที่คอนโดขนาดใหญ่ในเมืองเมดัน และนายเชาวลิต ยอมรับการจับกุม เขาจนมุมแล้ว และเราได้บอกให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม พร้อมรับรองเรื่องความปลอดภัย ซึ่งเขาไม่เคยเตรียมตัวเตรียมใจว่าถูกจับได้ เพราะคิดว่าเป็นยุคที่เขาปลอดภัยที่สุด จึงเดินทางไปเที่ยว โดยก่อนถูกจับกุมนายเชาวลิต ไปเที่ยวบาหลี และทะเลาะกับผู้หญิงชาวอินโด จึงเป็นที่มาของการจับกุม
ส่วนก่อนหน้านี้ที่มีการปิดล้อมเพื่อจับกุมตัวนั้น พันตำรวจเอกทวี ระบุว่า เราก็สงสัยว่าเป็นประเทศเพื่อนบ้านเท่านั้น แต่ไม่ทราบว่าเป็นที่ไหน และให้ผู้เชี่ยวชาญก็วิเคราะห์ว่าไม่ใช่ในพื้นที่ใต้