เซียนพนันแจ้งความบ่อนเลียบด่วนคลุมถุงดำรีดทรัพย์
เซียนพนันแจ้งความบ่อนเลียบด่วนคลุมถุงดำรีดทรัพย์ เผยตำรวจใหญ่ส่อเอี่ยว-โทรเจรจา แต่เรื่องไม่คืบนับเดือน ‘สายไหมต้องรอด’ ซัด สน.โคกครามปล่อยบ่อนเกลื่อน จี้ ตร.-บช.น. พิจารณา
วันนี้ (28 ต.ค. 65) นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด นำนักเล่นพนันผู้เสียหายจากเหตุทำร้ายร่างกายภายในบ่อนพนันย่อนเลียบทางด่วนรามอินทรา เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลโคกคราม
นายเอกภพ กล่าวว่า ผู้เสียหายระบุว่ามีการนำถุงดำครอบศีรษะแล้วม้วนถุง ตลอดจนมีนายตำรวจระดับสูงของโรงพักนี้เข้ามาเจรจากับผู้เสียหาย คือการสอบถามเพียงการเล่นพนัน โดยไม่สอบถามถึงข้อมูลการกระทำความผิด หรือรูปพรรณสัณฐานของคนร้าย ยืนยันว่าข้าราชการไม่จำเป็นต้องเกรงกลัวอะไร ดำเนินการเลยเว้นเสียแต่มีผลประโยชน์ร่วมกัน วันนี้จึงเข้าแจ้งความในข้อหาพยายามฆ่า ร่วมกันปล้นทรัพย์ ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว
นายเอกภพ กล่าวว่า สิ่งที่คนไทยทั้งประเทศอยากจะทราบคือ ข้อเท็จจริงว่าจุดนั้นมีบ่อนได้อย่างไร พนักงานสอบสวนจึงต้องสอบให้ชัด สายไหมต้องรอดไม่ได้มีหน้าที่จับเรื่องบ่อน พวกเราและสื่อมวลชนต่างเป็นผู้ดู แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีหน้าที่ปราบปรามเรื่องนี้โดยตรง
จึงขอฝากถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บชน.) และกองบังคับการตำรวจนครบาล ภาค 2 (น.2) ว่าหาก สน.โคกคราม เอาไม่อยู่ ต้องพิจารณาด้วย ผ่านมาเดือนกว่าแก้ปัญหาไม่ได้ ผู้เสียหายต้องมาโวยวายกับเพจสายไหมต้องรอด
ด้านผู้เสียหายหญิงข้ามเพศ ระบุว่า ส่วนตัวมาเล่นที่บ่อนนี้ได้ประมาณ 4 ครั้งแล้ว คิดว่าเขาเห็นว่าเราได้เงินเยอะ แต่ส่วนตัวมองว่าเงินที่ได้มาวันละหลักหมื่นถึงหลักแสนก็สมส่วนกับที่เล่นไป ที่ต้องเจอคือเขาบังคับให้นั่ง แล้วใช้ถุงดำครอบหัว มัดมือมัดขา บังคับให้บอกรหัสผ่านไปโอนออกจากบัญชี รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 2.5 ล้านบาท
ผู้เสียหาย ระบุว่า เจ้าของบ่อนเป็นคนในพื้นที่ แม้จะให้ผู้ใหญ่โทรศัพท์เข้าไปเคลียร์หลายครั้งเป็นเวลาเดือนกว่าแล้ว แต่ที่ผ่านมานายตำรวจระดับสูงในโรงพักนี้กลับทำมึน ไม่สนใจ ระบุว่านึกว่าจบไปแล้ว วันนี้จึงต้องมาแจ้งความดำเนินคดี ยืนยันว่าที่ผ่านมาพูดตามความจริงทุกอย่าง แต่ตำรวจพยายามบ่ายเบี่ยงไม่ให้เกี่ยวข้องกับบ่อนและ สน.โคกคราม
“บ่อนกับตำรวจใครก็รู้กันว่าอยู่กันอย่างไร แต่เราคือทำยังไงได้ ยอมไปก่อน เพราะผู้ก่อเหตุก็ยอมมาเจรจาคืนเงิน มีการทำสัญญาบนโรงพัก”
นอกจากนี้ ผู้เสียหายยังนำหลักฐานเป็นภาพถ่ายบรรยากาศภายในบ่อนการพนัน มายืนยันต่อสื่อมวลชนว่า สถานที่ที่นำชี้เมื่อวานนี้ เป็นบ่อนการพนันจริงๆ ไม่ใช่เรื่องที่แต่งขึ้นมา
ขณะที่ผู้เสียหายชาย ระบุว่า เคยเล่นที่บ่อนอื่นย่านนวลจันทร ซอย 22 ซอย 27 และซอย 36 รวมถึงพื้นที่อื่นในกรุงเทพมหานครนับได้กว่า 100 บ่อน เป็นระยะเวลามากว่า 3 ปี แล้วเพิ่งย้ายมาเล่นที่นี่ได้แค่ 3 วัน มีทั้งถั่ว ไฮโล และเสือมังกร ซึ่งไม่เคยเจอที่ไหนเลวร้ายเท่ากับบ่อนนี้ ที่เขาบอกว่าเราโกงเพราะเห็นว่าเราได้เยอะ และอ้างว่าเรารู้จักเด็กเปิดไพ่
ผู้เสียหายชาย ระบุว่า เจ้าของบ่อนเป็นคนจีน อักษรย่อ ต. อายุ 50 กว่าปี และมีคนจีนเข้าไปเล่นในบ่อนแห่งนี้เยอะ เป็นบ่อนถาวร ไม่ใช่บ่อนวิ่งอีกด้วย
“บ่อนก็คือบ่อน มันมีไปแล้ว สน.โคกคราม เอาไม่อยู่ ปล่อยให้มันขึ้นมาขนาดนี้ได้ไง ทำไมท่านไม่ดำเนินการและปล่อยล่วงเลยมา” ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าว