กองปราบฯ แถลงทลายเครือข่ายลักลอบนำเข้ารถยนต์ที่ถูกโจรกรรม จากมาเลเซีย

กองปราบฯ แถลงทลายเครือข่ายลักลอบนำเข้ารถยนต์ที่ถูกโจรกรรม จากประเทศมาเลเซีย ก่อนอำพรางรถ ใช้ ”ป้ายทะเบียน – ป้ายภาษี“ ปลอม นำส่งขายต่อประเทศเพื่อนบ้าน

วันนี้ (27 ต.ค. 66) เวลา 15:00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วย นายเสกสม อัครพันธ์ุ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก นายโหมด นาเดอ บิน คัสซิน ที่ปรึกษาเอกอัครราชทูตมาเลเซีย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง แถลงข่าวเปิดปฏิบัติการทลายเครือข่ายลักลอบ นำเข้ารถยนต์จากประเทศมาเลเซีย ก่อนอำพรางรถโดยใช้แผ่นป้ายทะเบียนปลอม นำส่งขายต่อประเทศเพื่อนบ้าน

พล.ต.ท.จิรภพ เปิดเผยว่า ปัจจุบันอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ผิดกฎหมายมีจำนวนมาก ซึ่งกลุ่มผู้กระทำความผิดเหล่านี้ มักจะกระทำการโดยหลบเลี่ยงการตรวจสอบของทางเจ้าหน้าที่ และกระทำการโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย โดยผลกระทบที่เกิดขึ้นก็มักจะส่งผลต่อสังคมในวงกว้าง จึงนำไปสู่การเปิดปฏิบัติการทลายเครือข่ายแก๊งปลอมป้ายทะเบียน ค้ารถข้ามชาติครบวงจร

กองบังคับการปราบปรามทลายเครือข่ายลักลอบนำเข้ารถยนต์จากประเทศมาเลเซีย ก่อนอำพรางรถโดยใช้แผ่นป้ายทะเบียน และเอกสารเกี่ยวกับรถปลอม เพื่อนำส่งขายต่อประเทศเพื่อนบ้าน โดยได้เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร นราธิวาส ปัตตานี และ สุราษฏร์ธานี รวมจำนวน 12 จุด จับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 11 ราย เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ 14 หมายจับ

กองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปรามสืบสวนทราบว่ามีขบวนการลักลอบนำรถยนต์จากประเทศมาเลเซียเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย โดยนางมะลิฯ ชาวเมียนมา กับพวก จะลักลอบนำเข้ารถยนต์ที่ถูกโจรกรรมมาจากประเทศมาเลเซียเข้ามาในประเทศ ก่อนจะนำมาพักไว้ที่ จ.สมุทรสาคร เพื่อนำไปขายต่อยังประเทศเมียนมา และในประเทศไทย

จากการตรวจสอบพบว่ากลุ่มของนางมะลิ หนึ่งผู้ต้องหา ได้มีการแบ่งหน้าที่กันทำลักษณะเป็นขบวนการ เมื่อมีลูกค้า นางมะลิ ซึ่งเป็นหัวหน้าขบวนการของกลุ่มเครือข่าย จ.สมุทรสาคร จะติดต่อไปยังกลุ่มเครือข่าย ให้นำเข้ารถมาจากประเทศมาเลเซียโดยผิดกฎหมายผ่านชายแดนภาคใต้ โดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากร จากนั้นกลุ่มของนางมะลิ จะเดินทางไปรับรถในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส ก่อนจะนำแผ่นป้ายทะเบียนปลอมมาติดแล้วขับนำรถกลับมาจอดพักไว้ที่ จ.สมุทรสาคร เพื่อรอนำส่งต่อไปยังประเทศเมียนมา

จากการสืบสวนพบว่ากลุ่มของนางมะลิ ได้กระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวมาแล้วกว่า 50 ครั้ง ในระยะเวลา 1 ปี

ซึ่งเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมาสามารถจับกุมนางมะลิ กับพวกได้รวม 3 คน ขณะกำลังขับรถยนต์ที่ไปรับมาจากพื้นที่ชายแดนใต้ พร้อมกันนี้ยังได้ตรวจยึดรถยนต์จำนวน 2 คัน จากนั้นจึงได้มีการติดตามยึดรถยนต์ที่นำมาพักไว้ที่ จ.สมุทรสาคร ได้อีกจำนวน 2 คัน

จากการตรวจสอบรถยนต์ทั้งหมดพบว่าไม่มีการจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก อีกทั้งยังมีการนำแผ่นป้ายทะเบียนปลอม แผ่นป้ายภาษีปลอม และสมุดคู่มือจดทะเบียนรถยนต์ปลอม มาใช้อีกด้วย จากการสืบสวนพบว่ากลุ่มของนางมะลิฯ มีการสั่งทำเอกสารที่เกี่ยวกับรถปลอม เพื่อนำมาใช้ในกระบวนการดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลออกหมายจับกลุ่มผู้ทำแผ่นป้ายทะเบียน ป้ายภาษี และเอกสารเกี่ยวกับรถยนต์ปลอม

อีกทั้งในวันที่ 26 กันยายน 2566 สามารถจับกุม เครือข่ายผู้ทำแผ่นป้ายทะเบียน ป้ายภาษี และเอกสารปลอม จำนวน 3 ราย พร้อมของกลาง 33 รายการ นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบว่าเคยมีประวัติคดีเกี่ยวกับการปลอมป้ายทะเบียนรถมาแล้วคดีอยู่ในชั้นศาล

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ทำการสืบสวนพบเครือข่ายที่ได้ครอบครองรถยนต์ต้องสงสัย ว่าได้มาโดยผิดกฎหมาย จึงได้ทําการสืบสวนความถูกต้อง โดยสามารถยึดรถยนต์ผิดกฎหมายได้จํานวน 24 คัน ซึ่งรถทุกคันติดป้ายภาษีปลอม และมีบางคันพบว่ามีการขูดลบแก้ไขเลขตัวถังและเลขเครื่องยนต์ นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบว่าเจ้าของรถบางราย มีการครอบครองสิ่งของผิดกฎหมาย เช่น อาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน อีกด้วย

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวนเครือข่ายดังกล่าว จนกระทั่งสามารถออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการได้ทั้งหมด 11 ราย จากการสอบถามผู้ต้องหาในเบื้องต้น ให้การรับสารภาพ จำนวน 2 ราย ให้การปฏิเสธ จำนวน 4 ราย และให้การภาคเสธ จำนวน 4 ราย ทั้งนี้ จากการจับกุมเครือข่ายดังกล่าว สามารถตรวจยึดรถยนต์ผิดกฎหมายคิดเป็นมูลค่ามากกว่า 20 ล้านบาท