CRIME

‘มงคลกิตติ์’ มั่นใจ คดีแตงโม ไม่ใช่ประมาท ‘แม่’ มั่นใจทีมทนายใหม่จะคืนความเป็นธรรมให้ลูก

‘มงคลกิตติ์’ แถลงขั้นตอนการดำเนินคดี การเสียชีวิตของแตงโมต่อ หลังมั่นใจไม่ใช่ประมาท ด้านแม่ภนิดา มั่นใจทีมทนายใหม่ ยืนยันไม่เทแน่นอน เชื่อจะคืนความเป็นธรรมให้ลูกได้

วันนี้ (27 พ.ค. 65) นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ พร้อมทีมทนายความ และ
นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน มารดาของแตงโม หรือน.ส.นิดา พัชรวีระพงษ์ ดาราสาวที่เสียชีวิต กลางแม่น้ำเจ้าพระยาแถลงข่าวร่วมกันเกี่ยวกับขั้นตอนการดำเนินคดีต่อ

นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า จากการที่คุณแม่แตงโมมาร้องตนและชมรมช่วยเหลืออาชญากรรมมาช่วยเหลือดูแลคดี การเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการสั่งฟ้อง
เบื้องต้นตนจะเป็นที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิและให้นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เป็นที่ปรึกษาดำเนินคดีนี้ มีพลโทกิตติศักดิ์ รัฐประเสริฐ เป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ และมีนายวินัย ชุมสวัสดิ์ และนายสุธีพงศ์ เจิดเจริญ ทนายความจากคำลงช่วยเหลืออาชญากรรม ดูแลด้านคดี โดยมีทีมที่ปรึกษากฎหมายมีนายศยุน ชัยปัญญา เลขาธิการพรรคไทยศรีวิไลย์ นายศฤงคาร ข่ายสุวรรณ กรรมการบริหารพรรคไทยศรีวิไลย์ และนายบัญชา สุชญา หรือทนายอู๋ พร้อมแต่งตั้งน.ส.ภคอร จันทรคณา
ช่วยดูแลแม่แตงโมตลอดช่วงการต่อสู้คดีประมา 2 ปี 6เดือน ในช่วงดำเนินคดี เพื่อคืนความยุติธรรม ให้เป็นไปตามความเป็นจริงตามความรู้สึกของผู้เสียหายโดยตรง คือมารดาและคดีนี้จะเป็นคดีตัวอย่างของการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ซึ่งภาคประชาสังคม จะได้ร่วมกันและส่งผลต่อการปฏิรูปกฎหมาย ยืนยันพร้อมสนับสนุนการทำงานของอัจฉริยะและพร้อมดูแลมารดาตั้งแต่ต้นจนจบ

ด้านนางภนิดา ยืนยันมั่นใจทีมนายมงคลกิตติ์ และนายอัจฉริยะ เพราะมีทั้งทนายความที่ปรึกษาและมีทุกอย่างที่มีความรู้ความสามารถ ซึ่งนายอจฉริยะเก็บรวบรวมข้อมูลหลักฐานไว้เยอะมาก จนคุณแม่ รู้สึกสงสารและขอเบอร์จากทนายเดชา เพื่อขอบคุณ แต่นายเดชาบอกไม่ให้โทร เพราะเตือนว่าจะหาทางลงไม่เจอ จน 1 สัปดาห์ผ่านไปก็ได้มาเจอตัวจริง และก่อนออกมาทำงานก็บอกแตงโมว่ามาทำงานเพื่อแตงโมขอให้กำลังใจด้วย ซึ่งคุณแม่ก็ยืนยัน 100% ว่า จะสำเร็จแต่อาจจะต้องใช้เวลาหน่อย

ยืนยันมั่นใจทีมนี้ ว่าจะคืนความเป็นธรรมให้กับลูกสาวได้ ส่วนจะให้ความมั่นใจได้อย่างไรว่าจะไม่เทในอัจฉริยะ และจะทำงานสำเร็จนั้น นางภนิดา ระบุว่า ทำไมถามคำถามนี้ เพราะคุณแม่เทมา 2 ทนายแล้วใช่หรือไม่ แม่หัวเราะ พร้อมบอกว่าลองใช้วิจารณญาณดูแล้วกัน ไม่อยากกล่าวหาใคร แต่ก็ทราบดีว่าทั้งสองคนเป็นอย่างไร โดยนายอัจฉริยะ มีข้อมูลเต็มเพียบร้อยเปอร์เซ็นต์จะไปเทได้อย่างไร

นางภนิดา ยังได้อ่านคำแถลงของตัวเองระบุว่า รัฐสภาเป็นสถานที่แก้ไขความทุกข์ร้อนของประชาชนทุกคน และแม่มีความอึดอัดใจในทุกประเด็นของการเสียชีวิตของแตงโมลูกสาวคนเดียวของคุณแม่ ที่คุณแม่รักสุดหัวใจตั้งแต่เห็นสภาพร่างกายของลูกเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2565 น้องโมเป็นลูกพี่กตัญญูมากดูแลคุณพ่อคุณแม่มาโดยตลอดเรียกได้ว่าเป็นอภิชาตบุตรและเป็นคนรักความยุติธรรมอยากทำงานด้านการเมือง ในใจลึกๆของแม่เจ็บปวดชอกช้ำและจนถึงวันนี้ยังลืมไม่ได้ คงใช้เวลาเป็นปี

และถึงเวลาแล้วที่จะต้องทวงความยุติธรรมให้กับแตงโม ซึ่งเป็นลูกของแม่ ลูกสาวคนเดียวที่รักสุดหัวใจ และแม่มีความเข้าใจว่าแตงโมไม่ได้เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุและเชื่อว่าจะเป็นการเสียชีวิตด้วย เหตุฆาตกรรมอำพรางจึงได้ดำเนินคดีต่อศาลอาญานนทบุรีด้วยตนเอง โดยได้รับความช่วยเหลือทางกฎหมายจากนายมงคลกิตดิ์ และทีมทนายจากชมรมช่วยเหลือ เหยื่ออาชญากรรมรวมถึงแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ส.ว. รวมถึงประชาชนคนอื่นที่เห็นเหตุการณ์ พร้อมกันนี้ขอให้เข้าใจว่าอย่าให้ข่าวคุณแม่ผิดและอย่าบิดเบือนเพราะคุณแม่ตั้งใจที่จะหาความจริงในเรื่องของลูกสาวว่าโดนฆาตกรรมด้วยวิธีใด อันนี้เป็นเรื่องสำคัญ

“คุณแม่มีความรู้สึกเสียใจมากกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับลูกสาวคุณแม่และต้องไปเสียเวลากับอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นมาแล้ว คุณแม่เสียเวลา ไป 3 เดือนเต็มๆคุณแม่ต้องลุกขึ้นมาสู้ด้วยความถูกต้อง คุณแม่จะสู้เพื่อลูกที่ผ่านมาก็สู้แต่ไม่ได้บอกใคร แม่มีคำถามเยอะแยะแต่ไม่ได้บอกใคร แม่เก็บหลักฐานเอง ที่ผ่านมาคุณบอกไม่ช่วยลูกเลยคุณไม่ต้องประกาศด้วยเหรอว่าช่วยวิธีไหน คุณแม่น้ำหนักลดลง 7 กิโลกรัม” แม่แตงโม กล่าว

ด้านนายอัจฉริยะ กล่าวว่า ตนได้รับมอบอำนาจจากคุณแม่แตงโมอย่างเป็นทางการเรียบร้อย พร้อมทนายสุธีพงษ์ และใช้สิทธิ์ตามกฎหมายในการฟ้องร้องบุคคลบนเรือทั้งหมด วันนี้ได้ให้หลักฐานบางกับคุณแม่ดูและเชื่อว่าเข้าใจเรื่องที่ตนทำเรื่องของพฤติกรรมอำพราง และเห็นว่าที่มาถึงวันนี้ได้ เพราะสื่อมวลชนช่วยผลักดัน และต้องขอบคุณอัยการสูงสุดและอัยการจังหวัดนนทบุรีที่ให้ความสำคัญในการที่ตนไปยื่นร้องขอความเป็นธรรมตามสิทธิรัฐธรรมนูญจำนวน 8 ข้อจึงมีคำสั่งเลื่อนการฟ้องร้องคนบนเรือทั้ง 5 คนกับผู้ที่วางแผน และสิ่งที่เกิดขึ้นก็จะมีการพิสูจน์เรือใหม่รวมถึงสิ่งที่ตนร้องขอ ซึ่งขณะนี้ต่อจิ๊กซอว์ไปได้เยอะแล้วและจากนี้จะฟ้องร้องดำเนินคดีกับบุคคลต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมอำพรางของแตงโม ซึ่งบางส่วนไม่สามารถเปิดให้สื่อมวลชนและประชาชนดูได้แต่ได้ให้คุณแม่ดู

หลังจากนี้ตนจะเชิญอดีตอัยการมาร่วมร่างคำฟ้องและมีผู้เเชี่ยวชาญทั้งหมด 15 คนทุกสาขา รวมถึง แพทย์หญิงหญิงพรทิพย์ นายแพทย์วัฒนชัย กาญจนรินทร์ มาดูบาดแผลก้างปลา และผู้เชี่ยวชาญทางเรือ บุคคลที่เชี่ยววชาญในระบบ GPS ในการทวงคืนความยุติธรรมให้กับแตงโมและที่ผ่านมาเสียเวลามามากแล้ว และสิ่งที่ทำให้แม่ยอมรับว่าคดีนี้ไม่ใช่อุบัติเหตุ เกิดจากการที่แตงโมไปปัสสาวะท้ายเรือ ซึ่งตนมีหลักฐานบางอย่างเอาให้แม่แตงโมดู

ทั้งนี้คาดว่าใช้เวลาไม่นานในการรวบรวมพยานหลักฐาน และในวันนี้ถือว่าเป็นนิมิตหมานที่ดีและในวันจันทร์จะ ใช้โดรนใต้น้ำเข้าไปสำรวจใต้น้ำ

“อย่างน้อยที่สุดเป็นนิมิตรหมายที่ดีที่อัยการนนทบุรีได้เล็งเห็นความสำคัญในการยื่นขอความเป็นธรรม และสามารถพิสูจน์ได้ว่าถ้าอัยการสอบ 8 ประเด็นที่เราร้องขอไปจะบอกอะไรได้ว่าไม่ได้มีการประมาท ดังนั้นเอกสาร 2,000กว่าแผ่น ที่มีคนบนเรือเพียง 5 คนพยานแวดล้อมมาจากไหนจำนวนมาก และขณะนี้จะมีการตรวจสอบและดำเนินคดีตามกฎหมายกับคนที่เป็นพยานเท็จ เพราะหากปล่อยไว้จะทำให้คดีเกิดความเสียหาย เรือลำที่จะขอตรวจไม่เหมือนเรือธรรมดาแต่ยังขอไม่เปิดเผยเพราะสิ่งที่ผมทำทั้ง 8 ข้อมีเหตุผลของตัวเอง หากเปิด อย่าลืมว่าผมไม่ได้รบกับแค่คนบนเรือ แต่รบกับคนที่มีอาวุธข้างกายซึ่งอาจจะทำลายหลักฐานได้ดังนั้นเพื่อความโปร่งใสขอให้เจ้าหน้าที่รัฐได้ทำงานซึ่งอะไรที่ผิดพลาดไปแล้วก็มาแก้ไขกันเชื่อว่าเริ่มต้นใหม่ได้ ไม่ใช่ไปอิงคนรวย” นายอัจฉริยะกล่าว

นายอัจฉริยะ ย้ำว่า แนวทางของคดีนี้หากอัยการได้เห็นประจักษ์พยานและได้สอบผู้เชี่ยวชาญทางเรือ ก็จะได้ข้อเท็จจริงว่าไม่ประมาทและนำไปถึงการแก้ข้อกล่าวหาประมาทเพราะมีพยานหลักฐานใหม่ที่ทางพนักงานอัยการได้สอบแล้ว และก็มีสิทธิ์แจ้งข้อหาเพิ่มเป็นคดีฆ่าก็ได้ ซึ่งทุกอย่างเป็นไปได้หมดหากสามารถดำเนินการตามที่ตกลงร้องขอ 8 ข้อ

พร้อมยืนยันไม่ทิ้งแม่แตงโม เพราะตนมีหน้าที่ดูแลกฎหมายและนายมงคลกิตติ์ดูแลแม่ ซึ่ง แตงโมก็เสมือนน้องของตนคนหนึ่ง และที่ทำวันนี้ทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อเหยื่ออาชญากรรมอีกมากมายที่วันข้างหน้าไม่ทราบว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้หรือไม่

นายอัจฉริยะ ยืนยันด้วยว่า ที่ทำคดีนี้ไม่ได้หวังผลด้านใดด้านหนึ่ง แต่ทำงานของคดีแตงโมมาตั้งแต่ต้น แม้มีทนายความคนอื่นดูแลแม่แตงโมอยู่ จนกระทั่งประชาชนให้ความหวังและให้กำลังใจตน ยืนยันจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังเพราะคดีนี้เป็นหนึ่งคดีในประเทศไทยที่มีการบิดเบือนมาก

ขณะนี้มีภาพเกี่ยวกับคนบนเรือ 550 ภาพถูกลบไป และมีคลิปสำคัญ 2 คลิปที่มีผลกับคดี ก่อนหน้านี้เพิ่งจะทราบรายละเอียด ขอให้รอวันที่ 2 มิ.ย. 65 มีรายละเอียดให้แน่นอน แล้วจะได้คนถามบังแจ็คด้วยว่าเมื่อไหร่จะคืนโทรศัพท์และข้อมูลที่บอกว่ากู้ได้ 40,000 ภาพเป็นจริงหรือไม่

ส่วนเมื่อถามเรื่องเงินฟ้องร้องค่าเสียหาย นั้น นายอัจฉริยะกล่าวว่าเป็นสิทธิ์ ตามกฎหมาย แต่ได้บอกคุณแม่ไปแล้วว่าประเด็นนี้เป็นแค่ความฝัน ยังไม่ใช่ความจริงเพราะยังไม่ทราบว่าแตงโมเสียชีวิตด้วยสาเหตุอะไร แต่จะทำให้เห็นว่าคดีนี้ ไม่ใช่คดีประมาท และเมื่อถึงตอนนั้น ก็ดำเนินการเป็นขั้นเป็นตอนต่อไปได้ และยืนยันจะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด

สำหรับบรรยากาศในช่วงท้ายของการแถลงข่าว นางพนิดา ได้ร้องเพลง “ใต้ร่มมลุลี” ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ให้สื่อมวลชนฟัง ซึ่งเป็นหนึ่งในเพลงที่ใช้ร้องเมื่อวาน หลังนัด ส.ส.มงคลกิตติ์ ทานข้าวเมื่อวานนี้ พร้อมระบุว่า เพลงนี้ไม่ได้สื่อความหมายอะไร

ภนิดา ศิระยุทธโยธิน มารดาของแตงโม

Related Posts

Send this to a friend