ขบวนรถไฟ 260 น้ำตก-ธนบุรี ชนรางเหล็กเก่า พบคนร้ายวางพาดสะพานไว้ขณะรอขนย้าย
ขบวนรถไฟ 260 น้ำตก-ธนบุรี ชนรางเหล็กเก่า พนง.ขับรถบาดเจ็บเล็กน้อย พบ คนร้ายวางพาดสะพานไว้ขณะรอขนย้าย
นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า วันนี้ (27 ก.พ. 65) ได้รับแจ้งเหตุ ขบวนรถธรรมดาที่ 260 (น้ำตก-ธนบุรี) เฉี่ยวชนรางเหล็กเก่า บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 148/15 ระหว่างสถานีท่ากิเลน – วังเย็น อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ก่อนถึงป้ายหยุดรถบ้านโป่งเสี้ยว เจ้าหน้าที่พบรางเหล็กเก่าเสียบติดรถจักร เป็นเหตุให้รถจักรดีเซล 4016 ได้รับความเสียหาย ไม่สามารถเคลื่อนตัวได้ แต่ไม่มีผู้โดยสารได้รับอันตราย มีเพียงนายสมรักษ์ จันทรารมย์ พนักงานขับรถ ได้รับบาดเจ็บที่ขาเล็กน้อย
จากเหตุดังกล่าว การรถไฟฯ จำเป็นต้องงดเดินขบวนรถท้องถิ่นที่ 485 (กาญจนบุรี – น้ำตก) จากสถานีวังเย็น-น้ำตก ให้ทำขบวนกลับเป็น ขบวน 260 จากสถานีวังเย็น – ธนบุรี พร้อมทั้งประสานนำรถยนต์โดยสารมาขนถ่ายผู้โดยสารในขบวนรถธรรมดาที่ 260 จำนวน 5 ราย และผู้โดยสารขบวนธรรมดาที่ 485 ชุมทางหนองปลาดุก – น้ำตก จำนวน 30 ราย ได้ให้รถบัสมารับกลับแล้วเช่นกัน
สำหรับสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ สืบเนื่องจากมีกลุ่มคนร้ายเข้ามาขโมยรางรถไฟขนาด 80 ปอนด์ ความยาว 6 เมตร ในช่วงคืนวันเสาร์ถึงช่วงเช้ามืดวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นรางเหล็กที่การรถไฟฯ เตรียมไว้สำหรับใช้ติดตั้งบนสะพานรถไฟ ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุขบวนรถตกราง โดยคนร้ายได้ลากเหล็กรางรถไฟวางพิงไว้กับตัวสะพาน และลงมือตัดแยกส่วนในบริเวณด้านล่าง เพื่อไม่ให้มีผู้พบเห็น เนื่องจากเป็นหนองน้ำที่แห้งขอด ซึ่งจากการตรวจสอบบริเวณพื้นที่เกิดเหตุ พบร่องรอยการใช้แก๊สตัดรางรถไฟบางส่วนที่ตัดยังไม่เสร็จ จำนวน 1 ท่อน วางพาดไว้กับตัวสะพาน เป็นเหตุทำให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว
ทั้งนี้ การรถไฟฯ ได้กำชับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง วางมาตรการเพิ่มเติมเพื่อดูแลความปลอดภัย โดยให้เพิ่มความถี่ในการตรวจทาง พร้อมกับประสานกับงานสารวัตรบำรุงทางกาญจนบุรี ฝ่ายการช่างโยธา ปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน จะไม่วางรางเหล็กไว้หน้างานและต้องทำงานให้เสร็จภายในวันเดียว หรือต้องจัดเจ้าหน้าที่มาเฝ้าตลอดระยะเวลาที่ทำงาน และมอบหมายให้นายสถานีและนายตรวจทางในพื้นที่ เข้าแจ้งความดำเนินคดีการเกิดอุบัติเหตุและการถูกขโมยเหล็กรางรถไฟในครั้งนี้ที่สถานีตำรวจภูธร เมืองกาญจนบุรี เพื่อให้เร่งดำเนินคดีจับกุมผู้กระทำผิดโดยเร็ว เพราะถือเป็นคดีอุกอาจทำให้ทรัพย์สินของรัฐเกิดความเสียหาย และส่งผลต่อความปลอดภัยในการเดินรถ
