CRIME

‘สนธิญา’ แจงไม่มาศาล เหตุ “จดวันที่ผิด” เร่งเข้ารายงานตัวต่อศาลอาญา

‘สนธิญา’ แจงไม่มาศาล เหตุ “จดวันที่ผิด” เร่งเข้ารายงานตัวต่อศาลอาญา หลังถูกออกหมายจับฐานมีพฤติกรรมหลบหนีคดีหมิ่นประมาท ‘เสรีพิศุทธ์’ หวังศาลเมตตาให้กลับบ้าน

วันนี้ (26 เม.ย. 67) ที่ศาลอาญา นายสนธิญา สวัสดี เดินทางมาเพื่อรายงานตัวต่อศาลอาญา สืบเนื่องจากกรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสนธิญา กรณียื่นคำร้องอันเป็นเท็จต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวหาว่าโจทก์ขาดคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่ง สส. พร้อมทั้งให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนใส่ความโจทก์ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ทำให้โจทก์ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตาม ปอ.ม.137 ,326 และ 328 ศาลจึงนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในข้อหาหมิ่นประมาท แต่นายสนธิญาไม่มาตามนัดศาล จึงมีความเห็นว่านายสนธิญามีพฤติกรรมหลบหนี และมีคำสั่งออกหมายจับ ลงเมื่อวันที่ 25 เม.ย. 2567 โทษจำคุก 4 เดือนปรับ 50,000 บาท

วันนี้นายสนธิญาจึงเดินทางมาที่ศาลอาญาเพื่อเข้าชี้แจงต่อศาล หลังถูกออกหมายจับ โดยแจ้งว่าทนายของตนเองเข้าใจผิด คิดว่าเป็นศาลแพ่ง จึงไม่ได้ไปศาล ตามคำชี้แนะของทนาย

นายสนธิญา กล่าวว่า คดีนี้ในชั้นต้นศาลพิพากษาไปแล้ว ปรับ 50,000 บาท จำคุก 8 เดือน ให้รอลงอาญา แต่โจทก์ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลเพื่อเพิ่มโทษ และตนเองก็ได้ยื่นอุทธรณ์กลับ แต่เนื่องจากจำวันผิด จึงอยากขอโทษคณะตุลาการ เพราะไม่มีประโยชน์ที่ตนเองจะหลบหนี วันนี้จึงมารายงานตัวต่อศาลเพื่อขอความเมตตา นายสนธิญาย้ำว่าไม่ได้ตั้งใจ และอ้างว่าตนเองจดวันที่ไว้ผิด พร้อมหวังว่า หลังจากเข้ารายงานตัววันนี้จะได้กลับบ้าน โดยในรายละเอียด คดีนี้เป็นคดีหมิ่นประมาท แต่ตนเองรับสารภาพตั้งแต่ศาลชั้นต้น ย้ำเจตนาว่าตนเองไม่มีความต้องการที่จะหนีเพราะตนเองเป็นผู้อุทธรณ์

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าได้เจรจากับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ หรือไม่ นายสนธิญา กล่าวว่า ได้เจรจาผ่านทนายความมาโดยตลอด แต่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ก็ยังใจแข็งอยู่ โดยเป็นเรื่องหมิ่นประมาทตั้งแต่ตนเองยังดำรงตำแหน่งที่ปรึกษากรรมาธิการการกฎหมาย สภาผู้แทนราษฎร และย้ำว่าทุกเรื่องที่ตนเองดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรมไม่ใช่เรื่องส่วนตัว เป็นเรื่องที่มาจากการทำงานในขณะนั้น แต่ในบางเรื่องก็ให้ประสบการณ์ตนเองว่า ต้องสู้บ้าง ส่วน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จะมีความเห็นอย่างไร มองว่าเป็นสิทธิส่วนตัวของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ แต่ถ้าเลือกได้ในวันนี้จะเลือกสู้มากกว่า จะไม่ยอมรับสารภาพ แต่เมื่อคดีมาถึงวันนี้คาดว่าเรื่องน่าจะจบแล้ว เพราะมาวันนี้ตนเองมาขอความเมตตาในการพิจารณาจากศาลเพียงเท่านั้นเอง แต่ถ้าหากศาลพิพากษาให้จำคุก ก็ได้ทำใจมาแล้วตั้งแต่ในการทำงานเป็นกรรมาธิการการกฎหมาย ว่าต้องพร้อมที่จะเสียสละตนเอง เสียสละทุกอย่าง เพื่อให้ความจริงปรากฏ ดังนั้นการทำงานการเมืองไม่ใช่เรื่องสนุก แต่เป็นเรื่องที่ต้องรับผิดชอบ

Related Posts

Send this to a friend