ตร. แถลงสรุปสำนวนคดีแตงโม ไล่ไทม์ไลน์วันเกิดเหตุ ยัน ไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่มีคนประมาท ทำให้แตงโม เสียชีวิต

วันนี้ (26 เม.ย.65) พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พร้อมคณะพนักงานตำรวจชุดสืบสวนคลี่คลายคดี แถลงข่าวสรุปสำนวนคดีการเสียชีวิตของแตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ โดยเปิดวิดีโอความยาว 25 นาที ระบุพฤติการณ์การเกิดเหตุ ไทม์ไลน์ก่อนเกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ พร้อมชี้แจงทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิต สภาพบาดแผล และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์

โดยคลิปช่วงเวลาสำคัญอยู่ที่ช่วงเวลา 22.33.51 น. กล้องวงจรปิดบริเวณการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) เห็นลักษณะแสงเงา มีวัตถุบางอย่างอยู่ท้ายเรือ จากนั้นเวลา 22.34 น. เรือผ่านบริเวณท่าเรือพิบูลสงคราม ยังเห็นเเสงและเงาเหมือนวัตถุบางอย่างอยู่ท้ายเรือ ผ่านไปช่วงเวลา 22.34.09 – 22.34.10 จากการตรวจสอบเเสงเงาไม่พบวัตถุดังกล่าวที่ท้ายเรือเเล้ว จึงสันนิษฐานว่าเเตงโมตกเรือในช่วงเวลาดังกล่าว สอดคล้องกับคำให้การของเเซน ที่ให้การว่าเเตงโมเกาะขาเพื่อปัสสาวะ เเละคำให้การของคนบนเรือ ที่ให้การว่าเห็นเเตงโมเดินไปท้ายเรือ

ส่วนผลการชันสูตรศพของแตงโม พบว่า กระดูกยังอยู่ในสภาปกติ ฟันไม่หัก ผิวหนังใต้ศีรษะไม่พบบาดแผล ไม่พบสารเสพติด แต่พบโคลนในหลอดลม ส่วนบาดแผลพบ 26 บาดแผล แบ่งเป็น 10 กลุ่ม กลุ่ม 1 แผลที่ขาด้านใน กลุ่มที่ 2 บาดแผลค่อนข้างเรียบที่ข้อผับเข่าขวา กลุ่มที่ 3 แผลที่น่องขวาแนวขวาง กลุ่มที่ 4 แผลแนวยาวขาซ้ายด้านใน กลุ่มที่ 5 แผลที่ข้อพับเข่าซ้ายเป็นแนวยาว กลุ่มที่ 6 แผลแนวยาวข้อพับเข่าซ้ายถึงน่องซ้ายด้านใน กลุ่มที่ 7 แผลถลอกที่เข่าซ้ายด้านใน กลุ่มที่ 8 แผลฟกช้ำที่ขาซ้ายด้านหน้า กลุ่มที่ 9 แผลฟกช้ำบริเวณเข่าซ้าย และกลุ่มที่ 10 แผลฟกช้ำบริเวณหน้าแข้งซ้าย

โดยแผลทั้งหมดเป็นแผลที่เกิดก่อนการเสียชีวิต เมื่อเทียบบาดแผลที่ขาขวากับขนาดใบพัดเรือ พบว่า เข้ากันทั้งแนวเว้าโค้ง จึงเชื่อว่าแผลนี้โดนใบพัดเรือ ส่วนบาดแผลที่ขาในจุดอื่น สอดคล้องกับการปั่นของใบพัดเรือ จึงเชื่อว่าแตงโมตกน้ำ และโดนใบพัดเรือปั่น ส่วนสาเหตุการเสียชีวิต แพทย์นิติเวชสรุปว่า ขาดอากาศหายใจจากการจมน้ำ

พล.ต.ท.จิรพัฒน์ กล่าวว่า แตงโมไปปัสสาวะที่ท้ายเรือหรือไม่ มีเพียงแซน ที่เห็นเหตุการณ์เท่านั้น จึงไม่สามารถตอบชี้ชัดได้ เพราะเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานไม่สามารถตรวจหาคราบกรดยูลิคบริเวณท้ายเรือได้ เนื่องจากถูกชะล้างไปกับน้ำแล้ว การรวบรวมหลักฐานจึงเน้นไปที่การกระทำโดยประมาทมากกว่าปัสสาวะท้ายเรือ ยืนยันว่าคดีนี้ไม่ใช่คดีฆาตกรรม แต่เป็นการกระทำโดยประมาทจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งขอไม่ระบุรายละเอียดเพราะเป็นผลได้ผลเสียกับการต่อสู้คดีของผู้ต้องหา

พล.ต.ต.ธวัชชัย นาคฤทธิ์ รอง ผบช.ภ.1 เปิดเผยว่า คำให้การของผู้ต้องหาประเด็นปัสสาวะท้ายเรือ ต้องดูว่าสอดคล้องกันหรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้พิสูจน์เรื่องนี้ผ่านขั้นตอนทางนิติวิทยาศาสตร์ และอยู่ในสำนวนคดีเพื่อนำส่งอัยการแล้ว

ประเด็นที่มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอคล้ายมีการทำร้ายร่างกายบนเรือ พล.ต.ต.วสันต์ ผบก.สส.ภ.1 เปิดเผยว่า ฝ่ายสืบสวนสอบสวนได้ตรวจสอบทุกคลิปทุกพยานหลักฐาน เพื่อสร้างความเชื่อมั่น โดยคลิปดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังแตงโมตกจากเรือสปีดโบ๊ท ก่อนจะถูกนำมาเปรียบเทียบ จึงไม่ใช่การทำร้ายร่างกายกันบนเรืออย่างที่เป็นข่าว

พล.ต.ต.หญิง ชุติมา ชัยมุสิก ผบก.ศพฐ.1 ยืนยันว่า บนเรือไม่พบคราบเลือด หากมีคราบเลือดถูกล้างก็สามารถตรวจพบได้ เช่น กรณีคดีฆ่าหั่นศพที่ จ.อยุธยา โดยข้อมูลเกี่ยวกับดีเอ็นเอ รอยนิ้วมือแฝงและเส้นผม ถูกบรรจุในสำนวนหมดแล้ว

ด้าน พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ทิ้งท้ายว่า จากการสอบสวนไม่พบการต่อสู้กันบนเรือ เพราะหากเป็นคดีฆาตกรรม ก็ต้องมีฆาตกร