‘พวงเพ็ชร’ สั่ง สคบ.ทลายแหล่งจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่เมืองชลบุรี
‘พวงเพ็ชร’ สั่ง สคบ.ทลายแหล่งจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่เมืองชลบุรี ยึดของกลางกว่า 6 พันชิ้น มูลค่า 1.8 ล้านบาท
ดร.พวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กำชับให้ตนในนามที่เป็นรัฐมนตรีที่กำกับดูแลสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ทำงานเชิงรุกเพื่อปราบปรามแหล่งจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ตัดวงจรการแพร่ระบาด โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 25 มีนาคม นายธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์ เลขาฯ สคบ. สั่งการให้ พ.ต.อ.ประทีป เจริญกัลป์ รองเลขาฯ สคบ. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ประสานตำรวจ กก.2 บก.สอท. ตรวจสอบร้านลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าย่าน ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี ภายหลังได้รับแจ้งว่ามีการซุกซ่อนบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ไว้ในบ้านหลังหนึ่ง เพื่อส่งต่อไปให้ร้านค้าอีกทอดหนึ่ง จึงขอหมายค้นบ้านหลังดังกล่าว
เมื่อเดินทางไปถึง พบบุคคลตามหมายค้น เจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปยังร้านซึ่งได้เช่าไว้เพื่อขายบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าจำนวน 2 คูหา ผลการตรวจค้นพบบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก จึงดำเนินการยึดของกลางจำนวน 6,600 ชิ้น คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 1.8 ล้านบาท ก่อนจะควบคุมตัวผู้ขายและนำของกลางส่งให้ สภ.แสนสุข ดำเนินคดีต่อไป
“รัฐบาลเร่งปราบปรามการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าอย่างจริงจัง หลังพบว่ามีการแพร่ระบาดในกลุ่มเด็กและเยาวชนจำนวนมาก เราพบร้านค้าที่จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าทั้งในแหล่งชุมชน ใกล้สถานศึกษา และสามารถหาซื้อได้ตามช่องทางออนไลน์ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากังวลว่าเด็กและเยาวชนเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าได้ง่าย ตอนนี้เราได้บูรณาการทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจไซเบอร์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร เพื่อปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าให้หมดไป ทั้งที่จำหน่ายแบบมีหน้าร้านและแบบ” ดร.พวงเพ็ชร กล่าว
ทั้งนี้ การลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า เป็นความผิดตามคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองที่ 8/2558 เรื่อง “ห้ามขายหรือห้ามให้บริการบารากู่ บารากู่ไฟฟ้า บุหรี่ไฟฟ้าหรือน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า” หากฝ่าฝืนเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ