CRIME

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เดินหน้าฟ้องหมิ่นประมาท พล.ต.อ. คนหนึ่งใน ก.ตร.

ปูด กูรูบางคนยังเคยนั่งร้องไห้ที่ ‘บ้านป่าที่อยู่ในเมือง’ เพราะไม่ได้ ผบ.ตร. ย้ำ ขัดแย้งใน ตร.มีจริง ถ้าได้กลับไปไม่เช็คบิล แต่อโหสิกรรมให้ ความขัดแย้งต้องจบตอนนี้เพราะ ผบ.ตร.จะเกษียณแล้ว

วันนี้ (25 มิ.ย. 67) เวลา 10:30 น. ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยื่นฟ้องคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. ท่านหนึ่ง ยศพลตำรวจเอก และเป็นกูรูด้านกฎหมาย ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา หรือใส่ความต่อบุคคลที่ 3 จากกรณีให้สัมภาษณ์ซึ่งทำให้ประชาชน เข้าใจว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดเว็บพนันออนไลน์ หลังศาลอาญาอนุมัติหมายจับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ในคดีดังกล่าว

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า วันนี้มาใช้สิทธิตามกฎหมาย ยื่นฟ้องคดีอาญากับหนึ่งใน ก.ตร. ซึ่งเป็นคณะกรรมการตรวจสอบประเด็นความขัดแย้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา จากพฤติการณ์ที่ไปพูดยืนยันให้ประชาชน และนักข่าวฟังว่าตนกระทำความผิดจากที่ศาลจะออกหมายจับตนเองในคดีเว็บพนันออนไลน์ แต่ความจริงแล้วเป็นเพราะตนเองไม่ไปตามหมายเรียก ไม่ใช่เพราะตนเองกระทำความผิด ซึ่งการที่กูรูดังกล่าว มีหน้าที่เพียงตรวจสอบ และรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบ ไม่ได้มีหน้าที่ออกมาพูดวินิจฉัยเรื่องคดี หรือพิพากษาคดีเองแทนศาล รวมถึงต้องให้สิทธิผู้ถูกกล่าวหาได้ชี้แจง ฟังความ และพยานจากทั้ง 2 ฝ่าย โดยตราบใดที่ศาลยังไม่พิพากษาคดีถึงที่สุด ก็ถือว่าผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์

ดังนั้น ถ้าบุคคลใดเอาเรื่องเหล่านี้ไปแสดงความคิดเห็นในลักษณะวินิจฉัยคดี แสดงความคิดเห็นชี้นำสังคม ทำตัวแทนศาล เหล่านี้จะทำใหตนเองเกิดความเสียหาย และทำให้ประชาชนเชื่อไปแล้ว ว่าตนเองมีความผิดจริงรับเงินเว็บพนันจริง เพราะมีการพูดไปถึงว่า “เชื่อว่ามีความผิด”

ส่วนกูรูเหล่านี้ เกษียณไปนานแล้ว ควรให้คนใหม่ๆ เขาทำหน้าที่ โดยกูรูบางคนก็ยังเคยร้องไห้กับตนเองที่โต๊ะม้าหินอ่อนใน ‘บ้านป่าที่อยู่ในเมือง’ ซึ่งโต๊ะนี้ก็ยังมีอยู่จริงในบ้านดังกล่าว ว่างๆ จะพานักข่าวไปถ่ายรูปได้

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่า กูรูสามารถให้ความรู้ทางกฎหมายได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการออกหมายจับหรือหมายเรียก แต่ไม่ใช่ชี้นำสังคมให้เข้าใจว่าบุคคลใดมีความผิด แต่กูรูท่านนี้อาจเกษียณจากราชการตำรวจไปนาน ลืมข้อกฎหมาย จนละเมิดสิทธิ์ทางอาญา โดยตนมาใช้สิทธิตามหลักกฎหมาย ซึ่งวันนี้จะฟ้องก่อน 1 คน และในวันศุกร์ ที่ 28 มิ.ย. นี้ จะฟ้องเพิ่มอีก 1 คน เพื่อไม่ให้ลุแก่อำนาจ และสัปดาห์หน้าจะยื่นฟ้องผู้บังคับบัญชาระดับสูงด้วย

ส่วนการประชุม ก.ตร. ที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ ก็ให้เป็นไปตามดุลพินิจของคณะกรรมการฯ ตนเองไม่ขอแทรกแซง แต่กระบวนการต้องถูกต้อง และชอบธรรม เคารพสิทธิ์ตนเองด้วย ยืนยันว่า ตนเองมาใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย ไม่ใช่การขู่หรือฟ้องปิดปาก เพียงออกมาต่อสู้เพื่อความยุติธรรม ใครไม่โดนแบบตนเองก็คงไม่รู้ ส่วนผลการประชุม ก.ตร. หากออกมาเป็นลบกับตนเอง ตนเองก็ยังมีช่องทางที่จะเรียกร้องสิทธิ์ฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุดต่อได้ ตอนนี้เพียงรอคำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.)

ส่วนที่ตนเองถูกดำเนินคดีเรื่องพนันออนไลน์ หาผิดก็น้อมรับ ถ้าไม่ผิดก็คือไม่ผิด แต่จะไม่ขอพูดชี้นำสังคม และปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน แต่ก็เชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ ถ้าตนเองเป็นผู้รักษากฎหมายเอง แต่ไปรับเงินเว็บพนันเอง ก็คงไม่มียางอาย ที่จะมารับใช้ประชาชน และหากตนเองผิดชัดเจน ก็ถือว่า “เกมโอเวอร์”

ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยอมรับว่า ที่ผ่านมามีความขัดแย้งภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติจริง โดยเป็นความขัดแย้งหลายระดับตามที่นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ออกมาแถลงข่าว พร้อมยืนยันว่า ถ้าตนเองได้กลับไป ก็อโหสิให้ทั้งหมด ไม่ได้กลับไปเพื่อการล้างแค้น และมองว่า กระบวนการสกัดกั้นมีอยู่แล้ว ดิ้นต่อไป ไม่มีประโยชน์ และวันนี้ความขัดแย้งมันต้องจบตอนนี้เพราะ ผบ.ตร.จะเกษียณแล้ว

ส่วนที่ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม นำรถส่วนตัวไปจอดในช่องที่จอดรถประจำตำแหน่งของตนในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และอ้างว่าพูดคุยกับสำนักงานของตนเองแล้วนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่า ตนเองไม่ทราบเรื่องนี้ และไม่มีการประสานใดๆ มา

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat