เปิด 11 ฉายาตำรวจปี 2565 ของสมาคมผู้สื่อข่าวฯ
ผบ.ตร. คว้าฉายา ผบ.ปีชง ด้าน ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ รับฉายา “โจ๊ก เต็มคาราเบล”
วันนี้ (24 ธ.ค. 65) เวลา11:30 น. ที่ศูนย์ปฎิบัติการสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย นำโดย นายไพโรจน์ เทศนิยม นายกสมาคมผู้สื่อข่าวฯ พร้อมคณะตัวแทนสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ร่วมแถลงข่าวการตั้งฉายาตำรวจประจำปี 2565
นายไพโรจน์ กล่าวว่า ผู้สื่อข่าวในสายงสนด้านอาชญากรรมได้ทำงานใกล้ชิดกับแหล่งข่าวที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตลอดปีที่ผ่านมา และได้เฝ้าติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจนำเสนอผลงานสู่สายตาประชาชน เพื่อสะท้อนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ร่วมกันตั้งฉายาตำรวจประจำปีขึ้นทุกปี ซึ่งเกณฑ์ในการตั้งฉายานั้น มีการประชุมร่วมกันกับตัวแทนสื่อมวลชนจากสังกัดต่างๆ เสนอรายชื่อนายตำรวจเข้ามา และทำการคัดเลือกในปีนี้เหลือเพียง 11 นาย ดังนี้
- พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รับฉายา “ผบ.ปีชง”
นับตั้งแต่การก้าวเข้ามารับตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 65ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน 3 เดือน “บิ๊กเด่น” พล.ต.อ.คำรงศักดิ์ ต้องเผชิญกับสารพัดปัญหา ตลอดจนเจอมรสุมเรื่องวงการสีกากี เช่น อดีตตำรวจก่อเหตุกราดยิงที่ จ.หนองบัวลำภู, อดีตตำรวจ สภ.ปากเกร็ด ขโมยปืนหลวงไปขาย, กลุ่มทะลุฟ้ายื่นเรียกร้อง ผบ.ตร. 3 ข้อให้รับผิดชอบกล่าวหาตำรวจใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุม “ราษฎรหยุด เอเปค 2022” คดีทุนจีนสีเทา ที่สงสัยว่าจะมีข้าราชการตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้อง เรียกรับผลประโยชน์ แลกปล่อยรถหรูผับจินหลิง ล่าสุดกับกรณีการโกงสอบเข้าเป็นตำรวจในพื้นตำรวจภูธรภาค 9 ซึ่งทั้งหมด ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ตำรวจตรวจสอบถอดบทเรียนความผิดพลาดทุกกรณี จนสามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ไปได้ในระดับหนึ่ง ซึ่ง
เปรียบเสมือนปีนี้เป็นปีชงของ ผบ.ตร.จริง ๆ
- พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ ได้รับฉายา “หิน คลีนนิ่ง”
เป็นที่ทราบกันดีว่าในรอบปีที่ผ่านมาข่าวคราวในแวดวงตำรวจเป็นไปในทิศทางลบ มีเรื่องราวต้องให้แก้ไข และทุกครั้งจเรตำรวจแห่งชาติจะถูกมอบหมายให้รับภารกิจในการตรวจสอบข้อเท็จจริง เปรียบเสมือนพ่อบ้านที่คอยเก็บกวาดขยะที่ซุกซ่อนอยู่ใต้พรม ในปีนี้ พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรดำรวจแห่งชาติ ได้ทำการตรวจสอบตั้งแต่เดือน ม.ค.-พ.ย.65 มีข้าราชการตำรวจถูกลงโทษทั้งสิ้น 229 นาย เป็นการไล่ออกราชการ จำนวน 178 นาย และปลดออกจากราชการ จำนวน 51 นาย จึงเป็นที่มาของฉายา “หิน คลีนนิ่ง”
- พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ได้รับฉายา “โจ๊ก เต็มคาราเบล”
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ที่ถือได้ว่าเป็นนายตำรวจที่มีประชาชนติดตามการทำงาน ได้รับมอบหมายงานด้านสืบสวนสอบสวน เป็นผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์และภาคประมง ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบและปราบปรามน้ำมันเถื่อน ก็มีผลงานปรากฏสู่สายตาประชาชนในการทำคดีต่าง ๆ มากมาย และคดีล่าสุดได้ดำเนินการกวาดล้างขบวนการกลุ่มทุนจีนสีเทาที่เข้ามาใช้ไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด
รวมทั้งขยายผลยึคทรัพย์จับกุมนายตู้ห่าว ผู้ต้องหาสำคัญซึ่งเชื่อว่าเป็น 1 ใน 5 มาเฟียกลุ่มจีนสีเทา โดยการดำเนินการในแต่ละครั้ง “บิ๊กโจ๊ก” จัดหนัก จัดเต็ม ทุกรูปแบบทุกมิติ ทั้งขยายผลตรวจสอบเส้นทางการเงิน ยึดทรัพย์ จึงเป็นที่มาของฉายา “โจ๊ก เต็มคาราเบล”
- พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ได้รับฉายา “แมวหลวง สตช.”
พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ เป็นนายตำรวจที่เก่งทั้งเรื่องบู๊ และบุ๋น ซึ่งเป็นหนึ่งเดียวในระดับผู้ช่วย ผบ.ตร.ได้รับความไว้วางใจจาก ผบ ตร. และ รอง ผบ.ตร.ดูแลงานครบทุกหน้างานและทุกมิติ ทั้งงานสืบสวน สอบสวน งานป้องกันปราบปราม งานมั่นคงและกิจการพิเศษ อีกทั้งยังได้รับหมายให้ดูแลงาน ป้องกัน บำบัด ผู้ติดยาเสพติด โดยเน้นนำผู้เสพยาเสพติดเข้าสู่ขบวนการบำบัด ซึ่ง เป็นนโยบายของรัฐบาล ผลงานการปราบปรามอาชญากรรมสำคัญ ๆ ที่สามารถปิดคดีได้ ก็เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมดล่าสุดสามารถจับกุมผู้ที่ลักลอบเล่นพนันทายผลฟุตบอลโลก จับกุมผู้ต้องหาได้ 12,245 ราย ยึดทรัพย์กว่า 1,770 ล้าน เงินสะพัดกว่า 1.1 หมื่นล้านจึงได้รับฉายาว่า “แมวหลวง สตช.”
- พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้รับฉายา “โอ๋ เดอะสตาร์”
พล.ต.ท.ธนายุตม์ เป็นนายตำรวจฝีมือดีที่ทำงานเชิงรุกจนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ได้รับความไว้วางใจดูแลพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 7 ช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาสามารถจับกุมคดียาเสพติด ยาบ้า ยาไอซ์ ยาเค เฮโรอีน ได้เป็นจำนวนมาก และตรวจยึดทรัพย์สินมูลค่าร่วม 100 ล้านบาท จับกุมคดีอาวุธสงคราม 2 พันกว่ากระบอก ผู้ต้องหา 2,589 ราย และจับกุมบุคคลตามหมายจับ 3,033 คดี ผู้ต้องหา 3,024 ราย ล่าสุดสามารถจับกุมผู้ที่เล่นพนันทายผลฟุตบอลโลกเป็นอันดับ 1 ของกองบัญชาการจนเป็นที่โดดเด่นในสายตาของประชาชนและสื่อมวลชนจึงได้รับฉายาว่า “โอ๋ เดอะสตาร์”
- พล.ต.ต.กิตติ์ธเยศ ธนนันท์ทวีสิน อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ได้รับฉายา “นายพลรูบิค”
จากกรณีคดีกราดยิงในพูลวิลล่าพื้นที่จังหวัดชลบุรี มีการจับกุมผู้ก่อเหตุได้ แต่ต่อมาภายหลังชุดทำงานของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ หักพาล พบความผิดปกติว่ามีกระบวนการในการช่วยเหลือสับเปลี่ยนตัวผู้ต้องหาโดยมีข้าราชการตำรวจเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง มีทั้งระดับรองผู้บังคับการ และยังปรากฏมีชื่อ พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ต่อมา ผบ.ตร.ลงนามในคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 543/2565 ให้ พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยขาดจากการปฎิบัติหน้าที่ตำแหน่งเดิม เพื่อปฎิบัติหน้าที่ตามที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติมอบหมาย ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง สั่ง ณ วันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ.2565 สุดท้ายรูบิคจะหมุนไปถูกสีถูกต้องหรือไม่ จะถูกหรือผิดก็ต้องรอดูผลการสอบต่อไป
- พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ได้รับฉายา “นายพลดับเครื่องชน”
พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ รอง ผบช.ภ.8 เป็นนายตำรวจอีกท่านหนึ่งที่ “ฝันสลาย” หลัง “ดับเครื่องชน” ร้องศาลปกครองฟ้องผู้เป็นนายที่แต่งตั้งโยกย้ายคนอื่น “ข้ามหัว” พร้อมระบุมีคุณสมบัติครบถ้วนและดีกว่าคนอื่นที่ได้รับการพิจารณาเลื่อนตำแหน่ง โดยครองยศ พล.ต.ต.มานานกว่า 7 ปี และครองตำแหน่ง รอง ผบช.ถึง 4 ปีเต็ม อาวุโสเป็นอันดับ 1 ของภาค 8 และลำดับที่ 24 ของ สตช.ซึ่งก่อนหน้าที่จะมีคำสั่งแต่งตั้งก็เป็นตัวเก็งว่าจะถือตั๋วคว้าตำแหน่ง ”ผบช.ภ.8″ ตั้งแต่ไก่โห่ จนกระทั้งมติ ก.ตร.แต่งตั้งโยกย้ายเสร็จสิ้นกลับไม่ปรากฎชื่อเป็นผู้บัญชาการใดสักแห่ง ล่าสุดการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับผู้บังคับการ (ผบก.) – ผู้บัญชาการ (ผบช.) นอกวาระประจำปีปรากฏว่ามีชื่อ พล.ต.ต.วันไชย เป็นจเรตำรวจ (สบ.8) เทียบเท่าผู้บัญชาการ จึงเป็นที่มาของฉายา“นายพลดับเครื่องชน”
- พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.ได้รับฉายา “จ๋อ ขอดเกล็ดมังกร”
พล.ต.ต.ธีรเดช หรือ “จ๋อ” ธรรมสุธีร์ อดีตลูกหม้อนครบาลที่มีผลงานโดดเด่นตอนสไลด์ไปเป็นผู้การสืบภาค 2 ตามเช็คบิลคดีสำคัญได้มากมายจนได้รับความไว้วางใจให้กลับมาดูแลศูนย์สืบนครบาล จนล่าสุดนำกำลังปฏิบัติการทลายผับ “จินหลิง” ย่านยานนาวา จับกุมกลุ่มคนจีนอัพยาในสถานบันเทิงจนนำไปสู่การเปิดโปงขบวนการของนายตู้ห่าว นำไปสู่การกวาดล้างกลุ่มทุนจีนสีเทาที่เข้ามาทำผิดกฎหมายในเมืองไทย จึงได้รับฉายาว่า “จ๋อ ขอดเกล็ดมังกร”
- พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม.ได้รับฉายา “มือปราบคอลเซ็นเตอร์”
เนื่องจากปีที่ผ่านมามีกลุ่มแก็งคอลเซ็นเตอร์ อาละวาดหลอกลวงคนไทยในหลายรูปแบบ ทำให้มีประชาชนตกเป็นเหยื่อ สูญเสียเงินมหาศาลจนถึงขึ้นฆ่าตัวตายหลายราย ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงจัดตั้งศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) หรือ PCT โดยมี พล.ต.ต.พันธนะ หรือรองเม่น เป็นหัวหน้าชุดปฎิบัติการพิเศษ นำกำลังร่วมกับตำรวจกัมพูชาเข้าทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ณ ประเทศกัมพูชา ทั้งหมด 7 ครั้ง จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 164 ราย ยอดรวมความเสียหายกว่า 546 ล้านบาท ถือว่าช่วยทำให้คนไทยหลุดพ้นไม่ตกเป็นเหยื่อของแก็งคอลเซ็นเตอร์ได้เป็นจำนวนมาก จึงได้รับฉายา “มือปราบคอลเซ็นเตอร์”
- พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม.ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับฉายา “องครักษ์พิทักษ์ สตช.”
เรียกได้ว่า พล.ต.ต.อาชยน เป็นโฆษกของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มีผลงานโดดเด่นในการทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ซึ่งทุกครั้งที่มีการแถลงข่าวหรือประชาสัมพันธ์งานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็จะปรากฏภาพของทาง พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ออกมาคอยตอบปัญหาชี้แจงรายละเอียดต่าง ๆ และคอยให้ข้อมูลข่าวสารกับทางสื่อมวลชนเป็นอย่างดี จึงเป็นที่มาของฉายา “องครักษ์พิทักษ์ สตช.”
- พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป.ได้รับฉายา “มือปราบคอรัปชั่น”
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ หรือ “ผู้การเต่า” นับตั้งแต่เข้ามาดำรงตำแหน่ง ผบก.ปปป.ได้ปรับโฉมภาพลักษณ์หน่วยงานที่แต่เดิมเปรียบเสมือน “กรุร้าง” พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ จนปัจจุบัน บก.ปปป. กลายเป็นหน่วยงานที่สร้างชื่อของกองบัญชาการสอบสวนกลาง ที่ออกกวาดล้างกลุ่มผู้มีอิทธิพลและข้าราชการบางคนที่เรียกรับผลประโยชน์โดยมิชอบ เช่น คอรัปชั่น ฮั้วประมูลงานต่าง ๆ ตลอดจนคดีเงินทอนวัดที่เป็นข่าวโด่งดัง จึงเป็นที่มาของฉายามือปราบคอรัปชั่น