ผบ.ตร. แจง คดี ‘เค ร้อยล้าน’ อยู่ระหว่างรอผลตรวจทางจิตเวช
ผบ.ตร. แจง กรณีการดำเนินคดี ‘เค ร้อยล้าน’ อยู่ระหว่างรอผลตรวจทางจิตเวช ชี้ ตำรวจจะคอยจับตาเป็นพิเศษ ป้องกันการก่อเหตุซ้ำกับคนเห็นต่าง และรองรับความปลอดภัยในการประชุมเอเปค
วันนี้ (24 ต.ค. 65) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ กล่าวถึงกรณี ของนายคเณศพิศณุเทพ จักรภพมหาเดชา หรือ ‘เค ร้อยล้าน’ ที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายนาย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ที่งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 27 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อวานนี้ (23 ต.ค. 65) โดยระบุว่าตำรวจจะบังคับใช้กฎหมายในทุกคดีที่เกิดขึ้น ซึ่งเคยได้กระชับไว้แล้วว่าสถานที่ราชการ หรือพื้นที่สาธารณะต่าง ๆ ก็จะเน้นย้ำเป็นพิเศษ หรือหากพบเห็นว่าเป็นการกระทำผิดซึ่งหน้าก็จะดำเนินการทันที แต่ในบางครั้งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้อยู่ในพื้นที่หรือพบเห็น ก็จะมีการดำเนินคดีในภายหลัง
กรณีของนายธนาธร ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งเรื่องการก่อเหตุ และการอ้างถึงการมีระเบิด แต่พฤติกรรมของนายคเณศพิศณุเทพนั้น มีลักษณะคล้ายกับผู้ป่วยทางจิต จึงได้ส่งตัวไปให้แพทย์ ตรวจ ขณะนี้กำลังรอผลตรวจกับทางโรงพยาบาล และรอความเห็นของแพทย์จิตเวชว่าจะสามารถดำเนินคดีต่อไปได้ หรือจะต้องชะลอการดำเนินคดีจนกว่ารักษาให้หายก่อน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเห็นของแพทย์
ส่วนการดำเนินคดีกับญาติของนายคเณศพิศณุนั้น พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า นายคเณศพิศณุ ก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว รวมทั้งเป็นเรื่องเฉพาะตัว ขณะนี้ต้องรอผลจากทางแพทย์เพื่อมาประกอบการพิจารณาในการดำเนินคดีต่อไป เพราะข้อหาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการแจ้งไปนั้นมีอัตราโทษทั้งจำทั้งปรับ แต่เป็นคดีลหุโทษ ซึ่งผู้ต้องหาปฏิเสธทุกข้อหา ตำรวจก็จะรอผลการตรวจของโรงพยาบาลก่อนเพื่อสรุปสำนวนคดี และดำเนินการต่อไป
สำหรับเหตุการณ์ในลักษณะนี้จะต้องมีการถอดบทเรียน และให้แพทย์แนะนำญาติด้วยว่าต้องรักษาตัวอย่างไร และไม่ให้ปล่อยให้ออกมาก่อเหตุซ้ำในลักษณะแบบนี้อีก
ผู้สื่อข่าวถามถึงการป้องกันการก่อเหตุความวุ่นวายในช่วงของการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปค 2022 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ระบุว่า ขณะนี้ นายคเณศพิศณุ อยู่ในการดูแลของแพทย์ ซึ่งจะอยู่ในสายตาของตำรวจ รวมทั้งในช่วงของการประชุมเอเปค ในเดือนพฤศจิกายน 2565 นี้ ก็จะมีการจับตาบุคคลประเภทนี้ทุกฝีก้าว และจะใช้ทุกมาตราการในการป้องกันให้ดีขึ้น เพื่อไม่ให้ไปก่อเหตุให้เกิดปัญหา ทั้งเรื่องการประชุมเอเปค และความเห็นต่างของฝ่ายตรงข้ามอีกด้วย