CRIME

กระทรวงดิจิทัลฯ – ตำรวจไซเบอร์ แถลงจับกุม ”King Spy ราชาแอบถ่าย“

กระทรวงดิจิทัลฯ – ตำรวจไซเบอร์ แถลงข่าวจับกุม ”King Spy ราชาแอบถ่าย“ พบภาพ และคลิปแอบถ่ายเหยื่อหลายราย ตามสถานที่ต่างๆ กว่า 6 หมื่นไฟล์ รวมความจุกว่า 1.4 TB

วันนี้ (22 ธ.ค. 66) เวลา 13:45 น. ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DES) พร้อมด้วย พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. และคณะ แถลงข่าวปฏิบัติการจับกุม “King Spy ราชาแอบถ่าย“ หลังเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พบว่า มี ภาพสื่อลามกอนาจารในลักษณะการแอบถ่ายตามที่ต่างๆ จำนวน 62,773 ไฟล์ รวบความจุกว่า 1.4 เทราไบต์

สืบเนื่องจาก กลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. ได้รับแจ้งเบาะแส การกระทำผิดจาก The Scientia Program (โปรแกรมซายเอนเทีย) ซึ่งขับเคลื่อนโดยกลุ่ม NGO ที่ดำเนินการ ในประเทศไทย เพื่อสนับสนุนผู้บังคับใช้กฎหมายของไทยในการต่อสู้กับการค้ามนุษย์และการแสวงหาประโยชน์ จากเด็ก โดยแจ้งว่าให้ตรวจสอบบัญชีผู้ใช้งานรายหนึ่งบนแอปพลิเคชัน X (twitter) ใช้ชื่อ “ราชาแอบถ่าย” มีการโพสต์เชิญชวนให้เข้ากลุ่มชื่อ “KING SPYCAM” เป็นกลุ่ม LINE Official Account มีผู้ติดตามจํานวน 596 คน มีระบบตอบรับอัตโนมัติเพื่อยืนยันการเข้ากลุ่ม โดยบุคคลที่เข้ากลุ่มดังกล่าว ต้องเสียค่าบริการ จำนวน 150 บาท ต่อคน จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ

ต่อมา ผบช.สอท. ได้สั่งการให้สืบสวนสอบสวนกรณีดังกล่าวเพื่อนำตัว ผู้เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย พร้อมให้ประสานปิดกลุ่มและบัญชีผู้ใช้งานดังกล่าว เนื่องจากเป็นภัยสังคม อาจมีการกระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชน หรืออาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับ การค้ามนุษย์ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงส่งสายลับเข้าแฝงตัวในกลุ่ม ได้ทำการโอนเงินเพื่อเข้ากลุ่ม โดยได้เข้ากลุ่มชื่อ “LINE STICKER” มีสมาชิกจำนวน 258 คน ภายในกลุ่มพบอัลบั้ม และให้ตกลุ่มที่เป็นสื่อลามกอนาจารเด็ก และผู้ใหญ่ มีทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวเป็นลักษณะแอบถ่าย อีกทั้งยังมีการเก็บไฟล์ไว้ในระบบ MEGA Cloud อีกเป็นจำนวนมาก จึงสืบสวนข้อมูลจนทราบว่า ผู้เป็นแอดมินกลุ่มดังกล่าว คือนายณัฐพร (ขอสงวน นามสกุล) อายุ 26 ปี ชาว อ หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลจังหวัดหัวหิน ออกหมายค้น

กระทั่งเข้ามืดของวันที่ 21 ธ.ค. 2566 พ.ต.ท.พิชิต เอียงสา รอง ผกก.กลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิด ทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. ได้นำหมายค้นศาลจังหวัดหัวหินพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าตรวจบ้านพักหลังหนึ่งในพื้นที่ซอยหมู่บ้านเขาน้อย ต.หัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พบนายณัฐพรฯ จึงได้ตรวจยึดโทรศัพท์มือถือเป็นของกลาง จำนวน 2 เครื่อง เมื่อตรวจสอบข้อมูล พบหลักฐานยืนยันว่า นายณัฐพรฯ เป็นผู้ใช้งานแอปพลิเคชัน X (twitter) ชื่อบัญชี ราชาแอบถ่าย แต่ปัจจุบันได้ถูกระงับไป จึงได้สร้างบัญชี X (twitter) ขึ้นมาอีกบัญชีหนึ่งชื่อบัญชี CODE มี ID:@CODE 1380077 สำหรับโพสต์เชิญชวน ให้เข้ากลุ่มลับโดยแนบลิงก์ไลน์และเรียกเก็บเงินจากสมาชิกที่เข้าสนใจเข้ากลุ่ม โดยกำหนดราคาค่าสมาชิก เข้ากลุ่มไว้

นอกจากนี้ ยังพบแอปพลิเคชัน MEGA Cloud ที่ลงชื่อเข้าใช้อยู่ในเครื่อง ตรวจสอบพบภาพสื่อลามกอนาจาร ทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวในลักษณะแอบถ่าย โดยมีการแยกหมวดหมู่ของงานตั้งชื่อตามสถานที่สาธารณะ ต่างๆ ที่แอบถ่าย อาทิ บนรถไฟฟ้า ตลาด ห้องน้ำร้านอาหาร ห้องน้ำโรงเรียน ห้องน้ำห้างสรรพสินค้า ห้องน้ำมหาวิทยาลัย ห้องน้ำนักศึกษาวิชาทหารหญิง และสถานที่อื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก รวมไฟล์ที่ตรวจพบ จํานวน 62,773 ไฟล์ รวมความจุประมาณ 1.4 เทราไบต์ หรือ 1,400 จิกะไบต์

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ร่วมกันจับกุม นายณัฐพรฯ อายุ 26 ปี ชาว อ หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ในฐานความผิด “เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการจ่ายแจกหรือเพื่อการแสดงอวด แก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ หรือทำให้แพร่หลายโดยประการใดๆ ซึ่งเอกสาร ภาพเขียน ภาพพิมพ์ ภาพระบาย สี สิ่งพิมพ์ รูปภาพ ภาพโฆษณา เครื่องหมาย รูปถ่าย ภาพยนตร์ แถบบันทึกเสียง แถบบันทึกภาพหรือสิ่งอื่นใด อันลามก” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287 (1) และ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ และส่งต่อ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้น ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงใต้ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 14(4)(5) เบื้องต้นผู้ต้องหา รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงนำตัวส่ง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

อย่างไรก็ตาม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้ร่วมมือกับกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวน อาชญากรรมทางเทคโนโลยี ในการป้องกันปราบปรามภัยออนไลน์ที่ละเมิดความเป็นส่วนตัวของ พี่น้องประชาชน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน อย่างไรก็ตาม ของให้พี่น้องประชาชนโปรดตรวจสอบทุกครั้ง ก่อนทำธุระส่วนตัวในสถานที่สาธารณะ รวมทั้ง โรงแรมและที่พักต่างๆ เนื่องจากปัจจุบัน อาจยังมีคนร้ายที่มี พฤติกรรมแบบนี้แฝงตัวอยู่ในสังคม ทั้งนี้ หากประชาชนมีข้อสงสัย สามารถโทรปรึกษาสายด่วน AOC 1441 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

Related Posts

Send this to a friend