ญาติผู้ต้องหาคดียาเสพติดแบกโลง ร้อง ก.ยุติธรรม หลังพ่อถูกตำรวจ ปส.วิสามัญ ขณะหลบหนี

ญาติผู้ต้องหาคดียาเสพติด แบกโลงศพ ร้องกระทรวงยุติธรรม สอบการปฏิบัติหน้าที่เกินกว่าเหตุ หลังพ่อถูกตำรวจ ปส. วิสามัญ ขณะหลบหนีการจับกุม
วันนี้ (22 ธ.ค. 65) เวลา 10:00 น. ที่กระทรวงยุติธรรม น.ส.ธมลวรรณ สุริวงษ์ ลูกสาวของนายธีรยุทธ สุริวงษ์ ผู้ต้องหาคดีค้ายาเสพติด ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจปส. วิสามัญ เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา บริเวณปากซอยสุวินทวงศ์ 40 ในพื้นที่ สน.ลำผักชี เข้าร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมกับกระทรวงยุติธรรม โดยมี น.ส. ณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วย รมว.ยุติธรรม เป็นตัวแทนรับเรื่องแทน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ช่วงเวลาประมาณ 17:00 น. นายธีรยุทธ ได้ชักปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ขณะขอตรวจค้น ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องยิงป้องกันตัว จากนั้นนายธีรยุทธได้ขับรถแหกด่านออกมายังบริเวณซอยฉลองกรุง 30/1 แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กทม. แต่เมื่อจวนตัวได้ลงจากรถพร้อมยาเสพติดในถุง ก่อนกระโดดลงคลอง สุดท้ายพบนายธีรยุทธเสียชีวิต เป็นเหตุให้บุตรสาวตัดสินใจแห่โลงศพพ่อมาร้องขอความเป็นธรรมกับกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปส. ว่ากระทำโดยเกินกว่าเหตุหรือไม่ และมีคราบเขม่าดินปืนที่มือของผู้ตายหรือไม่ เพื่อพิสูจน์ว่าผู้ตายได้ชักปืนยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่
นาย ธนากร ทองประดิษฐ์ อายุ 38 ปี เพื่อนรุ่นน้องในชุมชนของผู้ตาย กล่าวว่า เบื้องต้นตนขอบคุณกระทรวงยุติธรรมที่รับเรื่องไว้ เพราะสงสารลูกสาวของนายธีรยุทธ เพราะจากที่ตนได้เห็นภาพจากกล้องวงจรปิด เห็นว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้มีการยิงกระสุนสกัดโดยเล็งไปที่ล้อรถ แต่กลับยิงเข้าที่คนขับ ซึ่งเสมือนล็อกเป้าไว้แล้ว และอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ของนายธีรยุทธ ที่เจ้าหน้าที่พบ ตนเห็นภาพแล้วเล็งเห็นว่าเป็นปืนที่ไม่สามารถใช้งานได้ เพราะแม็กกาซีนมีการใส่กลับด้าน
นายธนากร กล่าวอีกว่า ตนเอง และครอบครัวนายธีรยุทธ แค่อยากรู้ว่านายธีรยุทธได้ต่อสู้ตำรวจจริงหรือไม่ เพราะถ้าไม่ได้ต่อสู้ ก็แปลว่าเจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุ อีกทั้งพยานแวดล้อมบริเวณตลาดนัดแถวนั้น ก็เห็นว่ามีพ่อค้าในตลาดที่ถูกลูกหลงจากเหตุการณ์นี้ด้วย ทั้งนี้ ตนเองและครอบครัวของนายธีรยุทธ ยอมรับว่าผู้เสียชีวิตทำผิดเรื่องคดียาเสพติด และยอมรับว่าผู้เสียชีวิตเคยมีคดีเรื่องยาเสพติด และเรื่องอาวุธปืน ซึ่งถ้าคนของเราต่อสู้เจ้าหน้าที่ ปส.จริง เราน้อมรับ แต่ถ้าเขาไม่ได้สู้ เรายอมรับไม่ได้
อีกทั้งในวันเกิดเหตุ พยานแวดล้อมได้แจ้งกับตนว่า ตอนที่นายธีรยุทธตัดสินใจวิ่งหนีลงคลองภายหลังหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ นายธีรยุทธยังไม่เสียชีวิต และเจ้าหน้าที่ได้นำตัวขึ้นมาบนบก แล้วจับใส่กุญแจมือ และเจ้าหน้าที่ยังได้กล่าวว่าไม่ต้องปั๊มหัวใจอีกด้วย แม้ว่านายธีรยุทธจะมีร่องรอยการถูกยิงเข้าที่กลางอก และต้นแขนขวาก็ตาม
ด้าน น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ ผู้ช่วย รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า วันนี้ครอบครัวผู้เสียชีวิตได้เข้ามาร้องขอความเป็นธรรม สาเหตุมาจากเล็งเห็นว่าเจ้าหน้าที่ชุด บช.ปส ได้เข้าจับกุมผู้เสียชีวิต และมีการวิสามัญเกิดขึ้น ทางครอบครัวจึงสงสัยว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ ที่ทำเกินกว่าเหตุหรือไม่อย่างไร ซึ่งทางญาติได้ให้รายละเอียดว่า เจ้าหน้าที่มีการยิงเข้ารถยนต์และภายหลังผู้เสียชีวิตวิ่งลงมาจากรถ กระโดดลงคลอง เพื่อหลบหนี ตำรวจก็ได้ไปอุ้มขึ้นมา ซึ่งขณะนั้นยังไม่เสียชีวิต แต่มาเสียชีวิตภายหลังจากที่ถูกอุ้มตัวขึ้นมาไว้บนบก
น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ กล่าวต่อว่า ทางครอบครัวผู้เสียชีวิตต้องการให้กระทรวงยุติธรรม ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบเรื่องคราบเขม่าดินปืนบนมือผู้เสียชีวิต เพื่อพิสูจน์ว่าได้มีการยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่จริงหรือไม่ นอกจากนี้ ตนได้สอบถามเรื่องการจัดการศพแล้วทราบว่า ปัจจุบันศพนายธีรยุทธอยู่ที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ แต่ต้องใช้เวลาประมาณ 30-45 วัน จึงจะทราบผลการชันสูตร ทางกระทรวงยุติธรรมจึงบรรเทาด้วยการให้นำศพไปเก็บที่ ห้องเก็บศพ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต แทนระหว่างที่รอผลการชันสูตร เพราะถ้าเก็บที่วัด ทราบว่าจะเสียค่าใช้จ่ายจำนวนหลายร้อยบาทต่อวัน ทั้งนี้ ทางญาติไม่ได้ติดใจเรื่องยาเสพติด เพราะเข้าใจถึงความผิดดังกล่าวของผู้ตาย แค่เพียงอยากพิสูจน์ว่าที่มือของผู้ตายมีเขม่าดินปืนหรือไม่ เพื่อจะได้นำไปสู่การตั้งคำถาม และตรวจสอบว่าเจ้าหน้าที่มีการเข้าจับกุมผู้ต้องหา ทำที่เกินกว่าเหตุหรือไม่