ป.ป.ส. แถลงผลอายัดทรัพย์ เครือข่าย ‘ทุนมินลัต’ เกือบ 1.4 พันล้านบาท

ป.ป.ส. แถลงผลอายัดทรัพย์ เครือข่าย ‘ทุนมินลัต’ เกือบ 1.4 พันล้านบาท ยันไม่ตัดไฟฟ้าฝั่งท่าขี้เหล็ก รอทางการเมียนมาเปลี่ยนผู้รับสัมปทาน หวั่นกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ยอมรับ พบเงินบางส่วนจากบริษัทอัลลัวร์ เชื่อมโยงนักการเมือง

วันนี้ (22 มี.ค. 66) เวลา 10:30 น. นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พร้อมด้วย นายมานพ แสงโสทร นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการพิเศษ ผู้อำนวยการส่วนตรวจสอบทรัพย์สิน สำนักงาน ปปส.กทม. แถลงผลการยึดอายัดทรัพย์สินเครือข่ายยาเสพติดของ นายทุน มิน ลัต และผู้เกี่ยวข้อง รวมมูลค่าเกือบ 1,400 ล้านบาท

นายวิชัย ระบุว่า ตั้งแต่ปี 2562 จนถึงปี 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลได้จับกุมผู้ต้องหา พร้อมยึดของกลางยาเสพติด จำนวน 6 คดี โดยจากการขยายผลพบว่า คดีทั้งหมดมีความเกี่ยวข้องเป็นเครือข่ายเดียวกัน จึงได้มีการสืบสวนเส้นทางการเงินพบเงินเข้ามาในบัญชีม้า จำนวน 111 บัญชี จำนวน 163.58 ล้านบาท ซึ่งต่อมาได้มีการออกหมายจับผู้ต้องหา 6 ราย และนิติบุคคลอีก 3 บริษัท ในข้อหาสมคบกันกระทำผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด สนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับ ป.ป.ส. สามารถติดตามจับกุมได้ 4 ราย ส่วนอีก 2 ราย คือนายพันณรงค์ ขุนพิทักษ์ และน.ส.กัลยวีร์ ธีระประภาวงศ์ หลบหนีไปได้ ซึ่งมีตัวการใหญ่ของเครือข่ายนี้ คือ นายทุนมินลัตและคดีอาญาอยู่ในการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ส่วนการดำเนินการของ ป.ป.ส. ได้ออกคำสั่งยึดทรัพย์สินทั้งหมด 1,398.5 ล้านบาท โดยทรัพย์สินที่มีคำสั่งตรวจยึด หรืออายัดไว้ มีทรัพย์สินประเภทที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง เครื่องประดับ เงินสด เงินฝากในบัญชีธนาคาร ยานพาหนะ หลักทรัพย์ เงินประกันและทรัพย์สินอื่น จำนวนหลายรายการ

ส่วนกรณีที่บริษัทอัลลัวร์ ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้และทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอ แม่สาย ทางสำนักงาน ป.ป.ส.ได้ดำเนินการสั่งให้ตรวจสอบ และยึดหรืออายัดทรัพย์สิน รวมถึงการแจ้งให้ระงับการรับเงินค่าใช้ไฟฟ้าจากบริษัทอัลลัวร์กรุ๊ป และบุคคลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นการชำระเงินในนามของบริษัทอัลลัวร์กรุ๊ปฯ และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอแม่สายได้รับทราบและดำเนินการตามที่ สำนักงาน ป.ป.ส. แจ้งแล้ว

แต่เนื่องจากการซื้อ-ขายไฟฟ้า ระหว่างการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอแม่สายกับผู้ใช้ไฟฟ้าในฝั่งจังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมานั้น จะต้องทําสัญญากับบริษัทที่ได้รับสัมปทานจากรัฐบาลเมียนมา จึงจะสามารถทำการซื้อ-ขายไฟฟ้าดังกล่าวได้ ซึ่งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอแม่สายได้ประสานงานไปยังประเทศเมียนมาเพื่อเร่งดำเนินการให้สัมปทานแก่บริษัทอื่น เพื่อมาทําสัญญา ซื้อ-ขายไฟฟ้าแทนบริษัทอัลลัวร์กรุ๊ประหว่างรอการดำเนินการ

ทั้งนี้ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอแม่สายแจ้งว่ากลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าในฝั่งจังหวัดท่าขี้เหล็ก ได้เก็บรวบรวมเงินค่าไฟฟ้ามาชำระค่าไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคโดยตรง นอกจากนี้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ยังแจ้งให้ทราบว่า การส่งไฟฟ้าไปใช้ในฝั่งท่าขี้เหล็ก มีความสำคัญเนื่องจากเป็นการขายไฟฟ้าให้กับต่างประเทศ ซึ่งหากมีการหยุดการส่งกระแสไฟฟ้า จะทำให้เกิดปัญหากับประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าทั่วไปในฝั่งจังหวัดท่าขี้เหล็ก และเป็นการกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ ซึ่งหากจะดำเนินการหยุดส่งกระแสไฟฟ้า จะต้องผ่านกระบวนการของกระทรวงต่างประเทศ และกระทรวงมหาดไทยก่อน

ด้านนายมานพ แสงโสทร เปิดเผยว่า ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบทรัพย์สินกว่า 1 พันล้านบาท ที่ตรวจยึดของนายพันณรงค์ กับภรรยา ว่ารายการใดมีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดหรือไม่ ก่อนจะส่งสำนวนไปให้ศาลพิจารณาในการยึดทรัพย์ในคดียาเสพติดต่อไป ส่วนทรัพย์สินใดที่ได้มาจากการกระทำความผิดอื่น หรือเกี่ยวข้องกับการพนัน ทางคณะกรรมการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือป.ป.ง. ที่จะต้องเป็นผู้พิสูจน์ทราบ และดำเนินการต่อ แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าทั้งคู่ถูกดำเนินคดีในมูลฐานความผิดเกี่ยวการพนันหรือไม่

สำหรับทรัพย์สินที่มีการตรวจยึดทั้งหมดเป็นทรัพย์สินที่อยู่ในประเทศไทย ของกลุ่มผู้ต้องหา ส่วนทรัพย์สินที่อยู่ในต่างประเทศ อยู่ระหว่างการประสานไปยังต่างประเทศ แต่ยอมรับว่าเป็นเรื่องยากที่จะตรวจยึดอายัดทรัพย์กลุ่มผู้ต้องหาที่อยู่ในต่างประเทศ เพราะข้อบังคับใช้กฎหมายไม่เหมือนกัน

ส่วนความเชื่อมโยงของเครือข่ายทุนมินลัต กับนักการเมืองใหญ่ นายมานพ ระบุว่า ขณะนี้อยู่ในระหว่างการทำสำนวนคดีอาญา โดยอยู่ในความรับผิดชอบอัยการสูงสุดกับตำรวจ ส่วนความจากที่มีการตรวจสอบบัญชีมากว่า 111 บัญชีที่ยึดมาจากบริษัทอัลลัวร์กรุ๊ป พบว่ามีบางส่วนที่เชื่อมโยงไปถึงนักการเมือง ในเรื่องเกี่ยวกับเส้นทางการเงิน ซึ่งจะต้องไปพิสูจน์ว่าเส้นทางการเงินดังกล่าว ว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำความเกี่ยวกับยาเสพติดหรือไม่