DSI ค้นโรงงานรับฝากอาหารแช่แข็งใหญ่ ในสมุทรสาคร “ไม่พบหมูเถื่อน“

“ไม่พบหมูเถื่อน“ DSI นำกำลังเข้าค้นโรงงานรับฝากอาหารแช่แข็งใหญ่ ในสมุทรสาคร หลังขยายผลขบวนการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน พบ ทำเอกสารเท็จ ว่านำหมูมาฝากไว้ อธิบดีฯ เผย เตรียมส่งสำนวนต่อ ป.ป.ช.เอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐ 10 คน เอี่ยวขบวนการ ด้านเจ้าของห้องเย็น ยืนยัน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง มีหลักฐานแน่น จ่อฟ้องผู้แอบอ้างชื่อบริษัท
วันนี้ (21 พ.ย. 66) เวลา 09:00 น. เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) โดย พ.ต.ต.สุริยา สิงกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย พ.ต.ต. ณัฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อน นำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษเข้าตรวจค้นบริษัท รักชัยห้องเย็น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทรับฝากอาหารแช่แข็ง ในตำบลโคกขาม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร
เจ้าหน้าที่แสดงหมายค้น และได้มีการพูดคุยกับพนักงานของโรงแช่เย็นดังกล่าว พร้อมกับเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน และเข้าไปตรวจสอบภายในโกดังแช่เย็นที่อยู่ภายใน เพื่อตรวจสอบว่ามีเนื้อหมูเถื่อนที่ถูกลักลอบนำเข้ามาจากเครือข่ายขบวนการที่ DSI รับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ หลังมีรายงานว่า ในจำนวนนี้มีเนื้อหมูบางส่วนที่อาจเกี่ยวข้องกับเครือข่ายชิปปิ้งที่ DSI แจ้งข้อกล่าวหากับผู้บริหารบริษัทจำนวน 8 คน และอาจเกี่ยวพันไปถึงนายทุน 2 พ่อลูก (นายวิรัช และนายธนกฤต) ผู้บริหารบริษัทนำเข้าเนื้อสุกร ที่ DSI พึ่งจับกุมไปเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
ภายหลังการตรวจค้นกว่า 2 ชั่วโมง พ.ต.ต.สุริยา เปิดเผยว่า การเข้าตรวจค้นในครั้งนี้ สืบเนื่องจากจากการดำเนินคดีกับกลุ่มบริษัทชิปปิ้ง และนายทุน 2 พ่อลูก เบื้องต้นจากการตรวจสอบโรงแช่เย็นภายในพื้นที่พบว่าไม่มีเนื้อหมูเถื่อนต้องสงสัยตามที่ DSI มีข้อมูลอยู่ มีเพียงเอกสารการนำฝากเนื้อหมูเถื่อนจำนวนหนึ่ง ซึ่งมีความเกี่ยวพันไปถึงบริษัทชิปปิ้งที่ DSI แจ้งข้อกล่าวหา และ 2 พ่อลูกนายทุนที่ DSI พึ่งจับกุมตัว ส่วนเนื้อหมูที่นำมาฝากไว้จากการตรวจสอบไม่พบเนื้อหมูจำนวนดังกล่าวภายในโรงแช่ แต่บริษัทของนายทุน 2 พ่อลูกสร้างเอกสารหลักฐานเท็จว่านำเนื้อหมูจำนวนดังกล่าวมาฝากไว้
ทั้งนี้ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ยอมรับว่า มีความพยายามนำเนื้อหมูจำนวนดังกล่าวถึง 282 ตู้ เข้ามาฝากไว้ที่โรงแช่ดังกล่าว แต่โดนกระบวนการตรวจสอบของโรงงานที่ค่อนข้างเข้มงวดสกัดไว้ เนื่องจากมีระเบียบการรับฝากที่ค่อนข้างชัดเจน จึงพบพิรุธหลายอย่าง เช่น ไม่มีเอกสารการนำเข้า การเสียภาษี และการตรวจจากกรมปศุสัตว์ หรือกรมประมงอีกครั้ง เมื่อเปิดดูภายในตู้แช่กลับพบว่ามีการสำแดงเท็จ โดยในเอกสารรับฝากระบุว่าเป็นหัวปลาแซลมอน แต่เมื่อเจ้าหน้าที่โรงงานขอเปิดดูกลับกลายเป็นชิ้นส่วนหมู จึงปฏิเสธการรับฝากไป
สำหรับสาเหตุของการปลอมแปลงเอกสาร พ.ต.ต.สุริยา ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบ แต่พนักงานสอบสวนจะไปขยายผลว่าเพราะเหตุใด ซึ่งเมื่อมีการสำแดงเอกสาร และข้อความที่ลักษณะเป็นเท็จ แล้วนำไปยื่นแสดงต่อกรมประมงเพื่อเป็นการหลบเลี่ยงภาษี และนำสินค้าล็อตนี้ออกไป จึงถือเป็นการกระทำที่ชัดเจนอยู่แล้ว โดยจากการตรวจสอบร่องรอยเอกสาร และการทำบันทึกของบริษัทรับฝากแช่อาหารที่เป็นระบบ ทำให้เราพบเบาะแสที่เราจะสามารถตามต่อได้ คือเอกสารจะต้องมีการแสดงถิ่นที่มา หรือแหล่งกำเนิด หากไม่มีเอกสารดังกล่าวมาประกอบ ทางบริษัทรักชัยห้องเย็นก็จะไม่รับฝาก ทำให้เอกสารชุดนี้ เป็นหลักฐานชั้นดีที่จะนำไปดำเนินการตรวจสอบต่อ
ด้านนายลือศักดิ์ ลือสุขประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท รักชัย ห้องเย็น จำกัด ยืนยันว่าทางโรงงานไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการรับฝากเนื้อหมูเถื่อนจำนวนดังกล่าวล้านเปอร์เซ็นต์ เพราะทางบริษัทมีมาตรฐานการตรวจสอบและรับฝากอย่างชัดเจน โดยสังเกตได้จากขั้นตอนการตรวจสอบที่ตรวจพบว่าบริษัทของกลุ่มผู้ต้องหามีการสำแดงเท็จมาตั้งแต่แรกก็ปฏิเสธไป ทั้งนี้เชื่อว่าที่กลุ่มผู้ต้องหาแอบอ้างชื่อของบริษัทไปเนื่องจากทางโรงแช่มีขนาดใหญ่พอที่จะรับฝากเนื้อหมูเถื่อนจำนวนดังกล่าวได้ ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับทางบริษัทเป็นอย่างมากเพราะจะต้องเตรียมนำบริษัทเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จึงเตรียมฟ้องร้องดำเนินคดีเรื่องการแอบอ้างชื่อและทำเอกสารเท็จกับกลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าว
นอกจากนี้ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวถึงกรณีนายสมนึก กยาวัฒนกิจ กรรมการบริหารของบริษัทจำหน่ายสินค้าเกษตรแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นกลุ่มนายทุนหรือผู้จ้างวานบริษัทชิปปิ้ง นำเข้าหมูเถื่อน ที่ทีรายงานว่าถูกออกหมายเรียกมาสอบปากคำกับกรมสอบสวนคดีพิเศษในวันนี้จากกรณีนำเข้าเนื้อหมูเถื่อนในจำนวน 161 ตู้ ว่า เบื้องต้นกรณีดังกล่าวนายสมนึกไม่ได้เป็นผู้ถูกออกหมายเรียก แต่เป็นผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับในคดีนำเข้าหมูเถื่อน
ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้รับการประสานว่าจะเข้ามามอบตัวที่ DSI ภายในวันนี้ หากว่าประสานเข้ามาก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่หากเจ้าตัวไม่เดินทางเข้ามามอบตัวหรือไปพบตัวในพื้นที่ใดก็จะเข้าจับกุมดำเนินคดีทันที และมั่นใจว่ายังอยู่ในประเทศ โดยจากข้อมูลพบว่านายสมนึกมีการนำเข้าเนื้อหมูเขื่อนเข้ามาที่ท่าเรือแหลมฉบัง 1 ตู้จากจำนวน 161 ตู้ ทั้งนี้แม้ว่าจะเป็นจำนวนไม่มากแต่ได้มีการสืบสวนย้อนกลับไปพบว่านายสมนึกมีการสั่งนำเข้าเนื้อหมูเข้ามาตั้งแต่ปี 2564 จำนวนมากกว่า 2,385 ตู้ จึงเตรียมดำเนินคดีย้อนหลังในเรื่องดังกล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หนักใจหรือไม่ ที่มีการกดดันจากนายกรัฐมนตรี ที่ให้รายงานความคืบหน้าในสัปดาห์นี้ พ.ต.ต.สุริยา ระบุว่า ตนเอง และคณะพนักงานสอบสวน ไม่มีแรงกดดันจากทางไหนทั้งสิ้น ในทุกคดีที่ดีเอสไอ รับผิดชอบในหลายคดีที่เป็นคดีใหญ่ทั้งนั้น ฉะนั้นคิดว่าแรงกดดันไม่มีผลต่อพนักงานสอบสวน และเราจะดำเนินหน้าต่อ ซึ่งขอบคุณทุกเบาะแสที่ประชาชน ข้าราชการ และอดีตข้าราชการ ที่แจ้งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ให้กับพนักงานสอบสวนของดีเอสไอ
ส่วนความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในการสำแดงเอกสารนำเข้าสินค้าเท็จของผู้ต้องหาเครือข่ายค้าหมูเถื่อนจำนวนดังกล่าว DSI เตรียมทำสำนวนส่ง ปปช. ภายในสัปดาห์นี้ โดยพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องมากกว่า 10 คนซึ่งมาจาก 3 หน่วยงาน คือกรมศุลกากร กรมปศุสัตว์ และกรมประมง