รองผบ.ตร.แถลงปิดคดี แก๊งพนันอุ้มโปรแกรมเมอร์ทำร้ายร่างกาย
รองผบ.ตร.แถลงปิดคดี แก๊งพนันอุ้มโปรแกรมเมอร์ทำร้ายร่างกาย พร้อมดำเนินคดี ผู้การฯ เพื่อนร่วมรุ่น เจ้าของเว็บพนัน ยืนยัน เอาผิดเต็มที่ไม่มีละเว้น
จากกรณีเมื่อวันที่ 6 ก.พ.66 เพจสายไหมต้องรอด พานายเชิดเกียรติ ศักดิ์ศรี อายุ 24 ปี ผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กรณีถูกกลุ่มผู้ต้องหาจํานวน 7 คน อุ้มจากที่พักย่านลาดพร้าว กรุงเทพฯ ไปทำร้ายร่างกาย ทวงเงิน และได้เอาทรัพย์สินของผู้เสียหายเป็นเงินสด โทรศัพท์มือถือและแทปเล็ต รวมมูลค่าประมาณ 100,000 บาท โดยมูลหนี้มีความเกี่ยวข้องกับการลักลอบเปิดเว็บพนันออนไลน์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 ม.ค.66 ในพื้นที่ สน.โชคชัย ซึ่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุได้ครบทั้ง 7 คน รวมทั้งยังดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐที่ให้ความช่วยเหลือ ในการค้นข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของผู้เสียหายส่งให้กลุ่มผู้ก่อเหตุอีก 1 ราย พร้อมแจ้ง 6 ข้อหาหนัก
ล่าสุด วันนี้ (21 มิ.ย. 66) เวลา 10:30 น. ที่สโมสรตำรวจ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. แถลงผลคดีดังกล่าวว่า ในส่วนของคดีปล้นทรัพย์นั้นได้สรุปสำนวนฟ้องเสนอพนักงานอัยการไปแล้วคดีอยู่ในชั้นศาล และในส่วนของสำนวนคดี ป.ป.ช. ซึ่งดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ค้นข้อมูลทะเบียนราษฎร์นั้น ป.ป.ช. ได้พิจารณาชี้มูลความผิดและส่งให้ ภ.จว.สระแก้ว ดำเนินตามกฎหมายแล้ว
นอกจากนี้ชุดสืบสวนสามารถขยายผลไปถึง นายพลตำรวจเพื่อนร่วมรุ่น คือ ‘ผู้การเบ้’ พบว่ามีความเกี่ยวข้องเป็นเจ้าของเว็บพนันออนไลน์ RRD789, BLUE789, SEXY789 เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าเล่นพนันออนไลน์ผ่านช่องทางเว็บไซต์ โดยแบ่งหน้าที่การทำงานอย่างชัดเจน กลุ่มผู้ดูแล กลุ่มแอดมิน กลุ่มบัญชีม้า โดยมีสถานที่ทำการอยู่ในจ.ชลบุรี ก่อนเปลี่ยนไปใช้รูปแบบเวิร์คฟอร์มโฮม จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งหมด 9 คน ซึ่งทั้งหมดได้ถูกดำเนินคดีและจับกุมไปแล้ว และยังพบว่ามีนายตำรวจระดับผู้กำกับการเข้ามาเกี่ยวข้อง
เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาฐานความผิด ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือเป็นผู้สนับสนุน จัดให้มีการเล่นหรืออุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยตรง หรือทางอ้อมผู้อื่นเล่นการพนันออนไลน์ , สมคบโดยกระทำตั้งแต่สองคนขึ้นไป ในความผิดฐานฟอกเงิน และจะตรวจสอบทรัพย์สินทั้งสิ้นกว่า 200 ล้านบาท จะส่งให้ ป.ป.ง.ตรวจสอบ ยึดทรัพย์ โดยผู้การเบ้ให้การปฎิเสธในชั้นสอบสวน ขอให้การในชั้นศาล
สำหรับการจะแจ้งข้อหาผู้การเบ้ ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการอุ้มผู้เสียหายนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า หลักฐานไปไม่ถึง เนื่องผู้ต้องให้รายอื่นไม่ได้ให้การซัดทอด ซึ่งเกรงว่าอาจจะหลุดในชั้นศาล แต่เชื่อว่าข้อกล่าวหาที่แจ้งไปนั้นก็เพียงพอแล้ว
ส่วนกรณีที่ต้องดำเนินคดีกับเพื่อนร่วมรุ่น นรต.47 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เผยว่าแม้ผู้ต้องหาจะเป็นนายตำรวจเพื่อร่วมรุ่น ใครผิดก็ว่าไปตามผิด เดินหน้าเอาผิดเต็มที่โดยไม่มีละเว้น ถึงเป็นเพื่อนกันก็ขออนุญาตดำเนินคดี