CRIME

อัจฉริยะ หอบหลักฐานร้อง ปปป. เอาผิดพนักงานสอบสวนคดีแตงโม

ปมปล่อยให้สร้างหลักฐานเท็จ บอกไม่ให้ค่าแม่แตงโม ปัดหิวแสง แต่ต้องการช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมเท่านั้น

วันนี้ (21 เม.ย.65) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญา 157 กับคณะพนักงานสอบสวน และผู้เกี่ยวข้อง กรณีปล่อยให้มีการสร้างพยานหลักฐานเท็จ และไม่อายัดของกลางคดีการเสียชีวิตของแตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.)

นายอัจฉริยะ ตั้งข้อสังเกตถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานโดยเฉพาะเรื่องเส้นผมของแตงโมที่เพิ่งพบเมื่อเก็บวัตถุพยานครั้งที่ 4 และตรวจเจอแก้วไวน์ เมื่อครั้งเก็บพยานหลักฐานครั้งที่ 5 จึงมองว่ามีคนสร้างพยานหลักฐานขึ้นมา จึงไม่เชื่อใจในการทำงานขของเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน โดยเฉพาะเรื่อง บาดแผลลักษณะฟันปลาที่ขาด้านหลัง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้พูดถึง

“หน้าที่ของพนักงานสอบสวน ต้องห้ามคนนอกเข้าข้องเกี่ยวกับพยานหลักฐาน แต่กลับปล่อยคนนอกอย่างทนายตั้มเข้ามาดูเรือลำเกิดเหตุได้ แล้วความเชื่อถือของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอยู่ตรงไหน”

ผู้สื่อข่าวถามเพิ่มเติมว่า มั่นใจในพยานหลักฐานที่นำมามอบวันนี้หรือไม่ นายอัจฉริยะ กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของพนักงานนสอบสวนที่ต้องดำเนินการต่อ ขอไม่ตอบที่มาขของข้อมูล ส่วนตัวไม่ทราบว่าหลักฐานนี้อยู่ในสำนวนหรือไม่ แต่ทราบมาว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมีข้อมูลนี้แล้ว แต่ไม่นำมาเปิดเผยให้ประชาชนทราบ ทั้งนี้ยังมีหลักฐานอีก 2 ชิ้นที่เตรียมจะเปิดหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจแถลงปิดสำนวนคดีวันที่ 26 เม.ย.นี้

นายอัจฉริยะ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจปักธงเชื่อแซน วิศาพัช มโนมัยรัตน์ ที่เป็นผู้ต้องหา รู้ได้อย่างไรว่าแตงโมจับขาแซนแล้วตกน้ำ เพราะยังไม่เคยมีหลักฐานจากภาพวงจรปิดยืนยัน ซึ่งภาพเหตุการณ์ที่ตำรวจมีเป็นภาพเดียวกันกับที่ตนเองได้มาจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) หากเจ้าหน้าที่ตำรวจดัดแปลง ตัดต่อก็จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ไม่ได้บอกว่า คลิปที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีเป็นหลักฐานเท็จ แต่อยู่ที่มุมมอง และต้องพิสูจน์จุดตกเรือของแตงโมให้ชัดเจน

ส่วนประเด็นที่นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน หรือแม่แตงโม ไม่ได้ดูการแถลงข่าวเปิดหลักฐาน นายอัจฉริยะกล่าวว่าส่วนตัวไม่ได้ให้ค่าคุณแม่อยู่แล้ว เพราะคนเป็นแม่จะไม่พูดเช่นนี้กับคนที่มาช่วยลูก ย้ำว่าไม่ได้หิวแสง แต่ทำไปเพราะช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม

Related Posts

Send this to a friend