ผบ.ตร.เผย ยังไม่ได้รับผลสอบวินัยของ ’พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์’ ลั่น หากพบมีความผิด ยศ พล.ต.อ.ก็เอาออกจากราชการได้

‘พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ‘ เผย ยังไม่ได้รับรายงานการตรวจสอบวินัยร้ายแรงของ ’พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์’ ชี้ หากครบกำหนดสามารถขยายเวลาได้ไม่เกิน 90 วัน ระบุ ไม่ต้องรอผล ’ป.ป.ช.‘ ลั่น หากพบ มีความผิดจริงยศ พล.ต.อ.ก็เอาออกจากราชการได้
วันนี้ (19 ก.พ. 68) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีครบกำหนดการตรวจสอบวินัยร้ายแรงของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. ในวันพรุ่งนี้ (20 ก.พ. 68) ว่า ขณะนี้ตนเองยังไม่ได้รับรายงาน เพราะเป็นเรื่องระหว่างคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ซึ่งตามขั้นตอนถึงแม้ในวันพรุ่งนี้ จะเป็นวันครบกำหนด 270 วัน ก็ยังสามารถที่จะขยายเวลาได้ (ไม่เกิน 90 วัน) แต่ตามขั้นตอนหากคณะกรรมการพิจารณาแล้วเสร็จ ต้องส่งมาให้กองวินัย จากนั้นกองวินัยจะประมวลผลทั้งหมด และส่งมาให้ตนเองที่เป็นขั้นตอนสุดท้ายในการพิจารณา ก่อนที่จะประกาศผลการสอบสวน
อย่างไรก็ตาม การสอบสวนคดีวินัยร้ายแรงที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นผู้ดำเนินการไม่เกี่ยวข้องกับ คดีอาญาที่ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ถูก ป.ป.ช. พิจารณา ดังนั้นผลการสอบสวนจึงแยกออกจากกัน แต่หากทางคณะกรรมการ มีการขยายเวลาเกิดขึ้น ยืนยันว่าไม่ได้เป็นเพราะรอผล หรือรอดูท่าทีจาก ป.ป.ช.
ทั้งนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ยืนยันว่าการสอบสวนหากพบว่ามีความผิดจริง ไม่ว่าจะเป็น พล.ต.อ. พล.ต.ท. พล.ต.ต. หรือแม้แต่ชั้นประทวนก็สามารถดำเนินการได้ไม่ยาก ย้ำว่าการเอาข้าราชการตำรวจออกจากราชการ ทำได้ทุกระดับชั้นหากมีความผิดจริง
ส่วนที่มองว่ามีการชะลอหรือประวิงเวลาในการพิจารณามานานเกือบ 270 วัน เป็นเพราะว่าจเรตำรวจแห่งชาติในฐานะประธานกรรมการ ใจไม่ถึงในการพิจารณาที่จะมีคำสั่งเด็ดขาด เมื่อครบกรอบเวลา
“ไม่เกี่ยวกับว่าใจถึงหรือไม่ถึง และจเรจะเป็นใครก็ตาม ก็ต้องดูตามพยานหลักฐาน หากพยานหลักฐานชัดเจนเพียงพอว่าตำรวจผู้นั้นกระทำผิดวินัยก็ว่าไปตามสถานะของวินัยนั้น เนื่องจากบางครั้งการถูกตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงอาจจะไม่มีความผิดก็สามารถเป็นไปได้“ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าว
ทั้งนี้ หากตนเองได้รับรายงานก่อนวันที่ 20 ก.พ. ก็จะนำมาพิจารณาอีกครั้ง แต่ย้ำอีกครั้งว่าขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานแต่อย่างใด