’ทนายกุ้ง‘ ร้องเอาผิด ‘ว.วชิรเมธี’ หลังพบเทศน์ชักชวน ร่วมลงทุน ’ดิไอคอนกรุ๊ป‘
’ทนายกุ้ง‘ ร้องเอาผิด ‘ว.วชิรเมธี’ หลังพบเทศน์ชักชวนประชาชน ร่วมลงทุนบริษัท ’ดิไอคอนกรุ๊ป‘ เข้าข่ายสนับสนุนฉ้อโกงประชาชน ยัน ไม่กลัวกระแสตีกลับ
วันนี้ (18 ต.ค. 67) เวลา 13:40 น. ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง น.ส.อำนวยพร มณีวรรณ์ หรือ ทนายกุ้ง ทีมทนายคลายทุกข์ ซึ่งได้รับมอบอำนาจนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ ทนายเดชา เข้าแจ้งความร้องทุกข์พระเมธีวชิโรดม หรือ พระ ว.วชิรเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระสิงห์ พระอารามหลวง จังหวัดเชียงราย ในฐานความผิดสนับสนุนฉ้อโกงประชาชน
น.ส.อำนวยพร เปิดเผยว่า วันนี้นำหลักฐานมาร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับ พระ ว.วชิรเมธี ในข้อหาสนับสนุนการฉ้อโกงประชาชน ของบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป จำกัด โดยมีหลักฐานคลิปไวรัลต่าง ๆ ที่ พระ ว.วชิรเมธี ได้ไปเทศน์ให้กับตัวแทนจำหน่ายของบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป ฟัง โดยมีประชาชนรับชมกว่า 1,000 คน โดยในเนื้อหามีบางประเด็นที่ระบุว่า “ตื่นมารวยเลย หากทำแบบนั้นก็ ดิไอคอนแล้ว ซึ่งตอนนั้นยังไม่รู้จัก ดิไอคอน แต่ก็โฆษณาให้แล้ว” ซึ่งคำนี้เชื่อว่า เป็นการตอกย้ำให้คนที่กำลังลังเลว่า จะลงทุนกับบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป ซึ่งเป็นการพูดที่ทำให้มีการตัดสินใจง่ายขึ้นต่อการลงทุน และอาจจะทำให้มีผู้เสียหายจำนวนมาก เหมือนกรณีที่มีคนลงทุนเพราะชื่นชอบบอสต่าง ๆ
ส่วนกรณีที่พระ ว.วชิรเมธี อ้างว่า ไม่ได้มีเจตนา ถือเป็นเรื่องที่เจ้าตัวมีหน้าที่ต้องไปชี้แจงกับตำรวจ เพราะหลังจากนี้ เราจะนำหลักฐานในทางคดีมามอบให้กับพนักงานสอบสวน ซึ่งการที่จะบอกว่าเจตนาหรือไม่นั้น เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนและสำนักสงฆ์ ที่จะเป็นผู้พิจารณา โดยวันนี้ได้นำหลักฐาน ทั้งคำพูดที่ถอดเทป ภาพนิ่ง และคลิป
ส่วนการกระทำของพระ ว.วชิรเมธี จะเล็งเห็นผลในการฉ้อโกงประชาชนหรือไม่ นางอำนวยพร ระบุว่า ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวน เพราะวันนี้เรามาแจ้งแค่ข้อกล่าวหา การสนับสนุนให้เกิดการฉ้อโกง ประชาชน หากพนักงานสอบสวนตรวจสอบแล้วมีข้อหาอื่นอีกก็สามารถแจ้งเพิ่มได้ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของตำรวจ
ส่วนเงินที่ บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป ถวายเงินทำบุญให้กับพระ ว.วชิรเมธี จะต้องอายัดหรือไม่ นางอำนวยพร กล่าวว่า ถ้าเงินมาจากการกระทำความผิดก็ต้องอายัดทั้งหมด และจำนวนเงินดังกล่าวที่นำมาเป็นหลักฐานมาจากการเทศน์เพียงครั้งเดียว หากใครมีหลักฐานการเทศน์ครั้งไหนอีก ก็สามารถส่งหลักฐานมาที่ตนเองได้ หรือหากพบว่ามีการรับเงินในลักษณะเดียวกันกับกลุ่มบอสดารา ที่เป็นรายเดือน หรือตามยอดขาย ก็จะถูกดำเนินคดีในข้อหาเดียวกัน
ส่วนเนื้อหาการเทศน์ที่หลายคนมองว่าการเทศน์ให้กับ บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป ไม่ได้ถูกมองว่าเป็น เนื้อหาบรรยายธรรม นางอำนวยพร กล่าวว่า เป็นเนื้อหาที่อยู่ในพยานหลักฐานที่นำมายื่นให้กับตำรวจอยู่แล้ว รวมทั้งยังมีอีกเนื้อหาหนึ่งที่พูดถึง ทัศนคติ แบบตีบตัน ”เขาชวนไปสัมมนาก็ไม่ไป กลับมาผัวก็ด่า เข้าใจหรือยังว่าทำไมดักดานอยู่กับที่“ โดยส่วนตัวมองว่า เป็นคำพูดที่แรงเกินไป และไม่เหมาะกับพระผู้ใหญ่ที่จะนำมาพูด
เมื่อถามว่า มีพระรูปอื่นเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ นางอำนวยพร กล่าวว่า ต้องรอดูหลักฐานว่าผู้เสียหายจะส่งอะไรมาบ้าง หรือมีพระรูปอื่นที่เกี่ยวข้องหรือเข้าข่ายในลักษณะแบบนี้ในการชักชวนคนลงทุนกับบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป หรือไม่ หากมีก็อาจจะเข้าข่ายความผิดเหมือนกัน โดยจะมากล่าวโทษในครั้งต่อไป
ทั้งนี้ นางอำนวยพร ยังฝากถึงลูกศิษย์ของพระ ว.วชิรเมธี ขอให้ทำสิ่งที่ถูกต้องดีกว่า ยิ่งเป็นพระผู้ใหญ่ทำอะไรต้องระมัดระวังมากกว่านี้ การออกมาเทศนาจะต้องระมัดระวังคำพูด ไม่ว่าจะเป็นการ โพสต์หรือการตอบโต้ ต้องระมัดระวังมากขึ้น และยืนยันว่า ไม่กลัวกระแสตีกลับ เพราะเราทำเพื่อผู้เสียหาย
ส่วนกรณีที่ พระว.วชิรเมธี มีการโพสต์ข้อความถึงนายกรรชัย กำเนิดพลอย หรือหนุ่ม กรรชัย ว่าเป็นศาลเตี้ย ในเรื่องนี้ต้องปล่อยให้ทางนายกรรชัยเป็นคนดำเนินการว่าจะแจ้งความเอาผิดหรือไม่ โดยส่วนตัวแล้วมองว่า เป็นถึงพระอาจารย์ผู้ใหญ่ ควรจะระมัดระวังในการสื่อสารสาร เนื่องจากมีลูกศิษย์ลูกหาที่เคารพ และติดตามเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ หลักฐานทั้งหมดได้มีการยื่นให้กับทางสำนักพุทธ เพื่อให้มีการตรวจสอบพระ ว.วชิรเมธี โดยทางสำนักพุทธได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบแล้วและได้ลงพื้นที่ไปยัง วัดพระสิงห์ พระอารามหลวง จังหวัดเชียงราย
