CRIME

สพฐ.ตร. เผย รอรายงานผลลายนิ้วมือ และผล DNA จากนิติเวชจุฬาฯ

เพื่อเทียบวัตถุพยานก่อนสรุป ‘ยางู‘ ที่ไกด์ซื้อให้บุคคลหมายเลข 7 ไม่เกี่ยวข้องกับคดีนี้

วันนี้ (18 ก.ค. 67) พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สพฐ.ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจสอบวัตถุพยานหลักฐานในคดีที่ชาวต่างชาติเสียชีวิตภายในโรงแรมชื่อดังย่านราชประสงค์ว่า จากการตรวจสอบวัตถุพยานในห้องที่เกิดเหตุ ขณะนี้ยังมีแค่กาน้ำชา ซองชา และถ้วย ทั้ง 6 ใบ ที่พบสารไซยาไนด์ ส่วนวัตถุพยานที่ตรวจเก็บได้จากสัมภาระของผู้เสียชีวิต รวมไปถึงยารักษาโรคทั่วไป ขณะนี้ยังไม่พบว่ามีสารไซยาไนด์

ทั้งนี้ จะต้องทำการประสานตำรวจนครบาลเพิ่มเติมก่อน เนื่องจากสัมภาระของผู้เสียชีวิตที่เหลือทั้งหมด ตำรวจนครบาลเก็บไว้เป็นหลักฐาน และบางกระเป๋ามีการล็อคยังไม่ได้เปิด เนื่องจากต้องรอทางญาติของผู้เสียชีวิต และสถานทูตมาเปิดพร้อมกัน จึงต้องทำการประสานเพิ่มเติมว่ายังมีวัตถุพยานใดที่ต้องให้พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบเพื่มเติมอีกหรือไม่

ส่วนกรณีการตรวจสอบลายนิ้วมือ และ DNA จากวัตถุพยาน ขณะนี้ยังรอรายงานผลอยู่ เพราะเป็นการตรวจโดยละเอียด รวมถึงต้องรอผล DNA จากศพที่ทางนิติเวช โรงพยาบาลจุฬาฯ เป็นผู้ตรวจ ส่งมาเพื่อนำมาเปรียบเทียบกับ DNA ของวัตถุพยานด้วย จึงจะยืนยันได้ว่า วัตถุพยานชิ้นไหนตรงกับ DNA ของใครบ้าง โดยเฉพาะวัตถุพยานที่พบสารไซยาไนด์ ทั้งกาน้ำชา แก้วกาแฟ กระป๋องชา และซองชา

ส่วนกรณีที่มีประเด็นเรื่อง ยางูของหมายเลข 7 ที่พบเบาะแสจากคำให้การของไกด์ชาวเวียดนามนั้น จากวัตถุพยานที่พิสูจน์หลักฐานมีในขณะนี้ ยังไม่มียางูดังกล่าวส่งมาให้ทางพิสูจน์หลักฐานทำการตรวจสอบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีรายงานจากชุดสอบสวนว่า ยางูที่มีการสั่งซื้อผ่านไกด์ และชายที่ชื่อไทเกอร์นั้น จากการสอบสวนพบว่า ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับคดีนี้ แต่เนื่องจากพฤติกรรมในการสั่งซื้อยาดังกล่าว มีความซับซ้อน และเชื่อมโยงกับผู้เสียชีวิตหมายเลข 2 จึงต้องสืบสวนให้สิ้นสงสัย แต่ไม่พบว่ามีความเชื่อมโยง

ส่วนการสอบปากคำสามีชาวเวียดนามของผู้เสียชีวิตหมายเลข 2 ที่เป็นนักธุรกิจในประเทศญี่ปุ่น โดยได้เดินทางมาพบตำรวจเมื่อวานนี้ มีรายงานว่า เจ้าตัวให้การว่า ไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับภรรยาเลย เนื่องจากช่วงเกิดเหตุ ตนเองเดินทางไปทำธุรกิจอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น ทำให้ไม่ได้รู้ความเคลื่อนไหวของภรรยา และก็ไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องการลงทุนที่มีข้อมูลว่าภรรยาเป็นนายหน้าไปชักชวนกลุ่มผู้เสียชีวิตมาลงทุน

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ชุดทำคดียังต้องรอผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะลายนิ้วมือแฝงที่อยู่บนกาน้ำชา และถ้วยกาแฟ ที่พบสารไซยาไนด์ รวมถึงผลการตรวจสอบอื่นๆ จึงจะสามารถได้ความชัดเจนว่า ใครเป็นผู้ก่อเหตุวางยาในครั้งนี้

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat