CRIME

ผู้การฯ ชลบุรี ยัน ไม่พบ ‘เสี่ยยศ’ เชื่อมโยงผู้มีอิทธิพลในพื้นที่

ผู้การฯ ชลบุรี ยัน ไม่พบ ‘เสี่ยยศ’ เชื่อมโยงผู้มีอิทธิพลในพื้นที่หนุนหลัง ให้ความมั่นใจครอบครัวเหยื่อจะปลอดภัยทุกคน ยันทำคดีตรงไปตรงมา ด้านทนายรณณงค์ ร้องขอความเป็นธรรมค้านประกัน

วันนี้ (16 ส.ค. 65) ตำรวจคุมตัว นายสมยศ ปั้นประสงค์ หรือ เสี่ยยศ มาที่บ้านพักส่วนตัว ในซอยธรรมวิทยา1 (ปั้นประสงค์) เมื่อมาถึงตำรวจได้คุมตัวลงจากรถเข้าไปทำการตรวจค้นบ้าน โดยมีนายพงศ์ศิริ ปั้นประสงค์ หรือ เสี่ยบี เจ้าของ เมาน์เทนบีผับ สวมเสื้อยืดคอกลมสีแดง และเฟิร์น ภรรยา ยืนรอเจ้าหน้าที่ พร้อมนำเข้าตรวจค้น

ตำรวจได้อ่านหมายค้นของศาลจังหวัดพัทยา เพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมในคดีไฟไหม้ เมาน์เทนต์บีผับ ก่อนที่จะเข้าตรวจค้นโดยละเอียด

หลังใช้เวลาตรวจค้นเกือบ 3 ชั่วโมง ตำรวจได้เอกสารมาทำการตรวจสอบจำนวน 2 ลัง จึงต้องนำไปตรวจสอบว่ามีความเชื่อมโยงกับเมาน์เทนต์บีผับหรือไม่

จากนั้นได้คุมตัวนายสมยศขึ้นรถกลับไปที่ สภ.พลูตาหลวง ทันที เพื่อนำมาสอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนเตรียมนำตัวไปขออำนาจศาลจังหวัดพัทยาฝากขังผัดแรก ในวันพรุ่งนี้

ขณะที่ พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ กิจจาหาญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีภายหลังตำรวจจับกุม เสี่ยยศ หรือนายสมยศ ปั้นประสงค์ อายุ 55 ปี ผู้ต้องหาคดีไฟไหม้เมาท์เทนต์บีผับ และนำตัวไปค้นบ้านพักว่า จากการตรวจค้นบ้านพัก เบื้องต้นไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดของการตรวจค้นได้ว่า พบหลักฐานเพิ่มเติมอะไรบ้าง และจากการสอบปากคำนายสมยศ ปั้นประสงค์ ไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าให้การอย่างไรบ้าง ซึ่งคำให้การเป็นสิทธิของผู้ต้องหา โดยตำรวจจะคัดค้านการประกันตัวทั้งในชั้นสอบสวน และในชั้นศาล

ทั้งนี้ จากการสอบสวนพยาน และหลักฐานที่รวบรวมมาเชื่อได้ว่า นายสมยศ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเป็นเจ้าของเมาท์เทนต์บีผับจริง แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

ส่วนกรณีที่ ครอบครัวของเหยื่อกังวลเรื่องความปลอดภัย และอิทธิพลในพื้นที่ของนายสมยศ นั้น ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ยืนยันว่า ตำรวจให้ความคุ้มครองในความปลอดภัยกับครอบครัวผู้เสียชีวิต และผู้ได้รับบาดเจ็บ และพยานในคดีนี้ทุกอย่าง และหากคิดว่าตนเองไม่ได้รับความปลอดภัย สามารถยื่นคุ้มครองพยานกับตำรวจได้

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบ ยังไม่พบว่านายสมยศ มีความเชื่อมโยงของผู้มีอิทธิพลที่คอยหนุนหลังในพื้นที่และให้ความมั่นใจกับครอบครัวเหยื่อว่า การดำเนินคดีของพนักงานสอบสวนในพื้นที่ ได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเป็นคณะพนักงานสอบสวน เพื่อมาทำคดีนี้ จึงขอรับรองว่า ตำรวจทำทุกอย่างตรงไปตรงมา และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ตามพยานหลักฐานที่ได้ หากพยานหลักฐานถึงใคร ไม่ปล่อยไว้ดำเนินคดีหมดแน่นอน

ส่วนกรณีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่ปรากฎภาพของตำรวจเข้าไปตรวจสอบเมาท์เทนต์บีผับ ก่อนหน้านี้ นั้น ย้ำว่า จากการรับรายงานเบื้องต้นเป็นการไปตรวจตามวงรอบร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ โดยเบื้องต้น มีกำหนดการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายใน 15วัน นับจากวันที่ 15 ส.ค.

นอกจากนี้ นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ได้พาครอบครัวผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้ เมาน์เทนบี ประมาณ 7 คน มายื่นคัดค้านการประกันตัวนายสมยศ และร้องขอความเป็นธรรม ซึ่งตำรวจก็ได้รับเรื่องไว้แล้ว

ทนายรณณรงค์ บอกว่า ครอบครัวผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต มีความกังวลว่า อาจจะได้ไม่รับความเป็นธรรมและอาจไม่ได้รับเงินเยียวยา เพราะหากได้รับการประกันตัวออกไป อาจเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน และข่มขู่พยาน อีกทั้งอาจทำให้พยานในพื้นที่ไม่กล้าออกมาให้ข้อมูลข้อเท็จจริง ซึ่งจะยื่นคัดค้านการประกันตัวทั้งในชั้นพนักงานสอบสวน ที่ สภ.พลูตาหลวง และในชั้นศาล ที่ศาลจังหวัดพัทยา ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล แต่ถือว่าทางผู้เสียหายได้ทำเต็มที่แล้ว

Related Posts

Send this to a friend