DSI ตรวจค้นเครือข่าย สนง.กฎหมาย รับจดทะเบียนบริษัท ‘นอมินี’
พันตำรวจตรีสุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ นายทวีวัฒน์ สุรสิทธิ์ ผู้อำนวยการกองคดีความมั่นคง ร่วมกับจังหวัดภูเก็ต เข้าตรวจค้นบริษัทสำนักกฎหมายรับทำบัญชีที่มีพฤติการณ์รับจดทะเบียนให้บริษัทต่างชาติ เพื่อประกอบธุรกิจอันผิดกฎหมายจำนวน 3 จุด มีพฤติการณ์รับจ้างจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทจำกัดให้แก่คนต่างด้าว โดยใช้ชื่อของลูกจ้างในสำนักงานถือหุ้นแทนคนต่างด้าวจำนวนเกือบ 70 บริษัท
ผลการตรวจค้น พบว่ามีการจัดให้เจ้าหน้าที่ของบริษัท เข้าเป็นผู้ถือหุ้นในลักษณะนอมินีของชาวต่างชาติ พบบริษัทฯ ที่ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 44 บริษัท การท่องเที่ยว 8 บริษัท และการบริการอื่นอีก 14 บริษัท โดยบริษัทที่ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทั้ง 44 บริษัท มีมูลค่าการถือครองอสังหาริมทรัพย์ 10 ถึง 20 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าประมาณ 440 ล้านบาท การทำธุรกิจขายอสังหาริมทรัพย์ จะเปลี่ยนแปลงทะเบียนผู้ถือหุ้นที่ไม่ได้มีโอนขายเปลี่ยนแปลงทางสำนักงานที่ดิน ทำให้รัฐสูญเสียภาษีและค่าธรรมเนียม ในการทำธุรกรรมต่อครั้งประมาณ 8% สูญเสียการทำรายได้จากค่าธรรมเนียม ประมาณ 35 ล้านบาท
กรณีดังกล่าวจะมีการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกต่อไปว่ามีการเปลี่ยนแปลงรายชื่อผู้ถือหุ้น ลักษณะเป็นการขายอสังหาริมทรัพย์แทนกี่ครั้ง หากมีการเปลี่ยนแปลงการทำธุรกรรมกับกรมที่ดินหลายครั้ง จะทำให้รัฐสูญเสียรายได้ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท
อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ มีนโยบายให้เจ้าหน้าที่เร่งรัดปราบปรามทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย เนื่องจากกรณีดังกล่าว เป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและระบบเศรษฐกิจของประเทศอย่างร้ายแรง เป็นการตัดโอกาสในการประกอบธุรกิจของผู้ประกอบการสัญชาติไทย ทำให้ไม่สามารถแข่งขันในทางธุรกิจอย่างเป็นธรรม
ทั้งนี้ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วยผู้อำนวยการกองคดีความมั่นคง ประชุมหาร่วมกันกับ นายอำนวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต โดยมีแนวทางจะพิจารณาร่วมกันหามาตรการและแนวทางในเชิงป้องกันและปราบปราบเพื่อลดความเสียหายเชิงเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในการทำธุรกิจของบริษัทต่างด้าวในรูปแบบนอมินี ซึ่งจังหวัดภูเก็ตจะร่วมกับภาคธุรกิจ เช่นหอการค้าจังหวัด จัดเวทีทำความเข้าใจในลักษณะการประกอบธุรกิจของชาวต่างชาติ เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมายไทย
